"ปริญญ์" หัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย ปชป. หนุน SE วิสาหกิจเพื่อสังคม จัดเน็ตเวิร์คกิ้ง แลกเปลี่ยนข้อมูล สร้างเครือข่าย
"ปริญญ์" หัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย ปชป. หนุน SE วิสาหกิจเพื่อสังคม จัดเน็ตเวิร์คกิ้ง แลกเปลี่ยนข้อมูล สร้างเครือข่าย
นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ จัดงาน “SE Speed Dating” สนับสนุนเครือข่ายวิสาหกิจเพื่อสังคมหรือ SE (Social Enterprise) เมื่อเร็ว ๆ นี้ ในลักษณะการเน็ตเวิร์คกิ้งพบปะแบบกันเองสนุกสนานภายใต้แนวคิด “Speed Dating” เพื่อช่วยให้นักธุรกิจเพื่อสังคมได้มีโอกาสพบกับลูกค้า คู่ค้า และหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ที่จะมาช่วยเสริมศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่
โดยงานนี้ถือเป็นการต่อยอด หลังจากประสบความสำเร็จในการจัดงาน “ติดปีกให้กับ SE” เมื่อเดือนที่ผ่านมาที่พรรคประชาธิปัตย์ งาน “SE Speed Dating” จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจเพื่อสังคมที่กำลังต้องการเติบโตและขยายเครือข่าย โดยมีรูปแบบการจัดงานที่สอดคล้องกับเทรนด์คนรุ่นใหม่ นอกเหนือจากกลุ่มผู้ประกอบการที่มาร่วมงานกันเป็นจำนวนมากแล้ว ในงานยังได้รับเกียรติจากนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปลัดกระทรวงดิจิตัล รวมถึงตัวแทนจากภาคเอกชนขนาดใหญ่ อาทิ นายบุญชัย โชควัฒนา นายปริญญ์ จิราธิวัฒน์ นายบิล ไฮเนคกี้ นายกลินท์ สารสิน นายชาญ ศรีวิกรณ์ นายวิกรม กรมดิษฐ์ นายวิเชียร พงศธร นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ มิสเตอร์ Aloke Lohia มิสเตอร์ Kirit Shah และนายชูชาติ เพ็ชรอําไพ และบุคคลสำคัญจากหลากหลายวงการเข้าร่วมงานและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้อย่างเป็นกันเอง
โดยนายปริญญ์ได้กล่าวว่า วิสาหกิจเพื่อสังคมแม้จะเป็นผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจและแสวงหาผลตอบแทน แต่ผลตอบแทนนั้นจะวัดจากผลกระทบเชิงบวกที่ธุรกิจนั้นสร้างให้กับสังคมมากกว่าแค่ผลกำไรต่อหุ้น อย่างไรก็ตามวิสาหกิจเพื่อสังคมควรมีลักษณะที่สำคัญและสนับสนุนในสามประเด็นหลักคือ 1. ส่งเสริมการจ้างงานแก่บุคลผู้สมควรได้รับการส่งเสริมเป็นพิเศษ 2. แก้ไขปัญหาหรือพัฒนาชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อม และ 3. เพื่อประโยชน์ส่วนรวมอื่นหรือคืนประโยชน์แก่สังคม
“กลุ่มผู้ประกอบการวิสาหกิจเพื่อสังคมรุ่นใหม่ มีไอเดียที่น่าสนใจ หลายแห่งมีศักยภาพในการเติบโต มีความพร้อมแต่ยังมีอุปสรรคบางประการ เช่น การเข้าถึงแหล่งเงินทุน กฏ-กติกาทางด้านการค้า การบริหารจัดการเรื่องภาษี ช่องทางการขายและการตลาด รวมถึงนวัตกรรมใหม่ ๆ การมีเครือข่ายจะช่วยให้เกิดการซื้อขาย แบ่งปันองค์ความรู้ แลกเปลี่ยนมุมมอง และเปิดโอกาสให้ภาครัฐหันมาให้การสนับสนุนอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม เมื่อผู้ประกอบการวิสาหกิจเพื่อสังคมไปต่อได้ ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตได้ด้วยเช่นกัน” นายปริญญ์ กล่าว