"สุวัจน์" จุดประกาย"หัวหินเมืองแห่งความสุข" กระตุ้นเศรษฐกิจชวน "ไทยเที่ยวไทย"โชว์ ชิม ช็อป แชะ ชิล
"สุวัจน์" จุดประกาย"หัวหินเมืองแห่งความสุข"
กระตุ้นเศรษฐกิจชวน "ไทยเที่ยวไทย" ชิม ช็อป แชะ
เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2563 เวลา 10.00 น. โรงภาพยนตร์ 8 ชั้น 6 ศูนย์การค้าสยามพารากอน นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานและที่ปรึกษาโครงการ "หัวหินเมืองแห่งความสุข" แถลงข่าว ร่วมกับ นางฐาปานีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายชาตรี จันทรวีรชัย รองผู้ว่าฯจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ น.ส.พราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหารกลุ่มบริษัทพราว และกลุ่มผู้สนับสนุนจำนวนมาก โดยมีนักแสดงชื่อดัง "ญาญ่า อุรัสยาและณเดชน์ คูกิมิยะ"ตัวแทนประชาสัมพันธ์โครงการ"หัวหินเมืองแห่งความสุข"
นายสุวัจน์ กล่าวว่า โครงการ"หัวหินเมืองแห่งความสุข" เป็นความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน การท่องเที่ยวและจังหวัดประจวบฯ ถือว่า 3 ประสาน ที่จะช่วยประชาสัมพันธ์ ว่าวันนี้ เรามาเที่ยวหัวหินกัน ซึ่งสิ่งนี้อาจจะไปเกิดขึ้นที่จังหวัดอื่นๆ ถ้าพวกเราได้ทำในลักษณะโมเดลนี้ ฉะนั้น โครงการ"หัวหินเมืองแห่งความสุข" คือ โครงการที่จะชวนให้ประชาชนออกมาใช้จ่าย ชวนคนไทยออกมาเที่ยวเมืองไทย ช่วยเหลือเศรษฐกิจ "ไทยเที่ยวไทย" วันนี้ ต้องไทยทำไทยใช้ ไทยเจริญ , Made In Thailand , ผมคิดว่าวันนี้ คนไทยที่พอมีฐานะ ช่วยกันซื้อสินค้าไทย ช่วย SME ชวนกันเที่ยว เพื่อให้เม็ดเงินของเรามาเป็นการต่อลมหายใจเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ
"ผมชอบมาก คำว่า "หัวหินเมืองแห่งความสุข" เพราะเป็นอย่างนั้นจริงๆ จุดกำเนิดของหัวหินจริงๆ ในฐานะที่เราเป็นพสกนิกรชาวไทยจะเห็นว่า เมืองหัวหินได้เจริญเติบโตด้วยพระมหากรุณาธิคุณ และด้วยพระบารมีแห่งพระมหากษัติริย์ คนหัวหิน เค้าเกิดตอนไหน มีอายุเท่าไหร จะนับวันที่เส้นทางรถไฟซึ่งเมื่อก่อนนี้ไปแค่กรุงเทพ – ชะอำ สมัยนั้นยังไม่มีวังไกลกังวล มีแค่พระราชนิเวศมฤคทายวัน ในหลวงรัชกาลที่ 6 ทรงโปรดเกล้าให้กรมพระกำแพงเพชร อัครโยธิน ออกไปสำรวจเส้นทางต่อเส้นทางหัวหิน ตอนนั้นท่านเป็นผู้ว่าการรถไฟ ก็เลยเริ่มตัดทางรถไฟ ต่อจากกรุงเทพที่ไปสิ้นสุดที่ชะอำ ต่อจากชะอำมาหัวหิน มาถึงวันนี้ 109 ปี ที่เส้นทางรถไฟหัวหิน วันที่เส้นทางรถไฟมาถึงด้วยพระบารมีพระมหากษัตริย์
"หลังจากนั้น กรมพระยากำแพงเพชร อัครโยธิน ได้พัฒนาหัวหินหลายอย่างมีกลิ่นไอของความเป็นยุโรป มีความเป็นมาตั้ง 100 กว่าปี เพราะกรมพระกำแพงเพชร ท่านเป็นนักเรียนนอก เป็นนักเรียนแอโรวิศวะ จากเคมบริดจ์ กลับมาก็เป็นผู้ว่าการรถไฟ ที่สำคัญ ท่านเป็นคนวางผังเมืองหัวหินทั้งหมด ถ้าเดินทางโดยรถไฟจะเห็นความสวยงามของสถานีรถไฟที่สวยที่สุดในประเทศไทย สไตล์วิคตรอเรียจากยุโรป และยังมีพลับพลาในสไตล์สถาปัตยกรรมไทย มีการตัดถนนจากทางรถไฟมาถึงเมืองหัวหิน และเส้นทางถนนในเมืองหัวหินจะเป็น System ตัดไปตัดมาแบบยุโรป ฉะนั้นนี้คือ ความเจริญ ความเป็นยุโรป ที่เกิดขึ้นจากกรมพระกำแพงเพชร ในฐานะเป็นนักเรียนนอก ท่านได้ออกแบบสร้างสถานีรถไฟ สนามกอล์ฟ ถือเป็นสนามกอล์ฟแห่งแรกของประเทศไทย สร้างโรงแรมรถไฟหัวหิน ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบคลาสสิค หรือตลาดฉัตรไชย ที่มีครึ่งวงกลม 7 ครึ่ง สร้างในสมัยรัชกาลที่ 7 "ฉัตรไชย" เป็นนามสกุลต้นตระกูล ของกรมพระกำแพงเพชร แค่คิดถึงความเป็นมาของเมือง คิดถึงพระบารมีของพระมหากษัตริย์ หรือนึกถึงพระราชวังไกลกังวล ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพระประทับ ที่นั้น และ 4000 กว่าโครงการพระราชดำริ ที่เกิดขึ้นแห่งแรกเกิดขึ้นที่หัวหิน นั้นคือ อ่างเก็บน้ำเขาเต่า หรือโครงการพระราชดำริ ถนนแห่งแรกที่ไปหัวหินไปวัดห้วยมงคล
"สิ่งที่พสกนิกรได้รับเป็นพระมหากรุณาธิคุณและเป็นพระบารมี คิดแค่นี้ หัวหินเป็นเมืองแห่งความสุข ยังไม่นับเสนห์ของสถาปัตยกรรม หรือตามริมชายหาดมองบ้านริมหาดจะเป็นบ้านของบุคคลระดับสูงจากกรุงเทพ อาคารหัวหินโคโรเนียม ก็มีความสุข หรือจะนึกถึงหัวหินเป็นเมืองแห่งกีฬา เราก็จะนึกภาพ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเรือใบข้ามผ่านจากอ่าวไทย จากฝั่งตะวันออกมาถึงฝั่งหัวหิน และนึกถึงภาพในหลวงเข้าแข่งขัน ซีเกมส์ครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.2510 ทรงชนะเลิศได้เหรียญทองจากเรือใบ รัฐบาลก็เลยเอาวันที่พระองค์ท่านชนะเลิศแหลมทอง ได้เหรียญทอง ให้เป็นวันกีฬาแห่งชาติ คือ วันที่ 17 ธ.ค. ฉะนั้น หัวหินก็มีกลิ่นไอของกีฬา
"นอกจากนี้ ยังมีนักมวยไทยคนแรกทั่วโลกรู้จัก "โหน กิ่งเพชร" แชมป์โลกฟลายเวต คนเดียวในโลกที่ได้แชมป์ 3 สมัยซ้อน และยังมีนักเทนนิสระดับโลก มาแข่งขัน "นาดาล" ก็มาอยู่หัวหินมาเป็นอาทิตย์ "เซเลน่า วิลเลี่ยม มาเรีย ซาราโบวา"ตอนเช้าไปตักบาตรชายหาดยามเช้า ภาพต่างๆ นี้ก็ออกไปสู่ทั่วโลก อันนี้ก็คือ เสน่ห์หัวหิน
"พอพูดถึงหัวหินเป็นเมืองดนตรี เราก็นึกพระอัจฉริยภาพของในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้านดนตรี ทรงมีเพลงพระราชนิพนธ์มากกว่า 40 เพลงทั่วโลกรู้จัก “หัวหินแจ๊ส เฟสติวัล” หัวหินเป็นเมืองดนตรี หัวหินเป็นเมืองกีฬา หัวหินมีวังไกลกังวล แล้วถ้าได้ไปหัวหินเราจะนึกถึงของกินอร่อยๆ เยอะแยะไปหมด ซึ่งเป็นของกินที่ไม่ใช่เพิ่งเกิดมาจากรุ่นหนึ่ง รุ่นสอง รุ่นสาม ที่เค้าถ่ายทอดวิทยายุทธ ในการทำอาหารไปที่ไหนทุกครั้งอร่อยหมด เป็นเมืองซีฟู๊ด เป็นหมู่บ้านประมงเก่าที่ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นรีสอร์ท ระดับโลก ทั้งหมดก็คือ เสน่ห์ของหัวหินเมืองแห่งความสุข
" ถ้ารุ่งขึ้นมีโปรแกรมว่าจะไปหัวหิน คืนนี้ทั้งคืนผมจะนอนไม่หลับ อยากรีบตื่น จะได้ไปหัวหิน เพราะรู้สึกว่ามีความสุข"
สุวัจน์ สะท้อนภาพหัวหินเมืองแห่งความสุข ในหลากหลายมิติ และย้ำว่า
วันนี้ ที่เราได้ร่วมกันทำกิจกรรมสนองนโยบายรัฐบาลช่วยประเทศ ชวนคนไทยออกมาเที่ยว โดยการสร้างเมืองหัวหินเป็นเมืองแห่งความสุข และก็จัดกิจกรรมตลอด 3 เดือนนี้ คือ ตุลาคมถึงธันวาคม 2563 ผมถือว่าเป็นตัวอย่างหนึ่งของโครงการที่ดี ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และได้ทราบว่าผู้จัดยังได้หยิบสาระความสำคัญของเมืองหัวหินเป็นเมืองดนตรี ซึ่งจะมีการจัดคอนเสิร์ตร่วมกับบริษัทเป๊ปซี่ จำกัด บริษัทบุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด บริษัททรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัททิพยประกันชีวิต จำกัด จัดโครงการ "Pepsi Presents Glamping Festival 2020" ในการที่จะดึงภาพในอดีต ฟังดนตรี อยู่ในสนามหญ้าเขียวๆ ที่ทรู อารีน่า จากนักดนตรีระดับอินเตอร์ของประเทศ และมีแคปปิ้งนอนฟังดนตรี นอนฟังจนถึงตอนเช้า
และยังมีการบันทึกภาพความประทับใจ "หัวหินเมืองแห่งความสุข" ภายใต้ชื่อ "Cal-Comp&CCAU Industry 4.0 ร่วมกับมูลนิธิภาพถ่ายแห่งประเทศไทย" จัดการประกวดถ่ายภาพ โดยเชิญพี่น้องประชาชนทั่วประเทศใครที่มาเที่ยวเมืองหัวหิน อะไรที่เป็นความสุขที่ท่านได้รับจากเมืองหัวหิน ถ่ายเลย ถ่ายง่ายๆ ถ่ายจากมือถือ หยิบขึ้นมาเลย ถ่ายริมหาด ถ่ายเขาหินเหล็กไฟ เขาเต่า ไปถ่ายวัดห้วยมงคล หรือไปกินอาหารอร่อยๆ ซีฟู๊ด หรืออยู่กับคุณพ่อคุณแม่ที่มีความสุขกับมือถือธรรมดาแล้วส่งก็มาชิงรางวัลในการมาสนุกกับความสุขที่เมืองหัวหิน ตลอด 3 เดือนนี้ เป็นกิจกรรมที่ดี สะท้อนบุคลิก และตรงประเด็น และแก้ไขปัญหาประเทศ
ส่วนทางด้านกีฬาจะมีการจัดแข่งขันเทนนิส ในเดือนพฤศจิกายนนี้ คือ " Hua Hinp Open 2020 presented by Cal-Comp & CCAU Industry 4.0" โดยมีนักเทนนิสชื่อดังระดับโลก "ภราดร ศรีชาพันธุ์" เป็นผู้อำนวยการการแข่งขัน ที่สนามทูร อารีน่า หัวหิน
นายสุวัจน์ กล่าวว่า โครงการ "หัวหินเมืองแห่งความสุข" เป็นหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไทย ซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางมาเที่ยวเมืองไทยปีหนึ่ง 40 ล้านคน คาดว่าปีนี้ทั้งปีไม่น่าเกิน 5 ล้านคน หายไป 35 ล้านคน คนหนึ่งใช้จ่ายประมาณ 5 หมื่นบาทจากสถิติ ซึ่งเกือบ 2 ล้านล้าน หารด้วย จีดีพีประเทศ 15 ล้านล้าน ก็คือประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งปีนี้เศรษฐกิจไทยก็อาจจะติดลบ 10 เปอร์เซ็นต์ ฉะนั้น ตอนนี้รัฐบาลพยายามที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจ เพื่อให้พวกเราอยู่กันได้ก่อน หรือเหมือนตอนนี้ต้องมีข่อนไม้ก่อนให้กอดคอกลางทะเล อย่าเพิ่งจมน้ำ เพราะถ้าเมื่อไรถึงฝั่งเมืองไทยสบายแน่
"ผมอยากให้กำลังใจทุกท่าน และเชื่อว่าวันที่โควิดจบ ประเทศไทยจะเป็นประเทศอันดับต้นๆ ที่มีการฟื้นตัวรวดเร็วทางเศรษฐกิจ เพราะเราได้สร้างความเชื่อมั่น วันที่คนไทยทั้งประเทศร่วมมือกันในการจัดการโควิด ตามมาตรการของรัฐบาล ทำให้ประเทศไทยมีชื่อเสียงว่าเป็นประเทศปลอดภัย เป็นประเทศที่มีวินัย สร้างความน่ารักและความน่าอยู่ให้เกิดขึ้นในเมืองไทย ทั่วโลกคาดการณ์ว่าประเทศที่อยู่ในอันดับต้นๆ ที่จะฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ คือ ประเทศไทย" สุวัจน์ กล่าวและย้ำว่า
"ประเทศไทยเป็นเมืองน่าอยู่ ความเป็นเมืองท่องเที่ยว เมืองไทยเป็นเมือง Second Home ของโลก อาจจะเป็นเมือง Second Head Office ของโลก สิ่งต่างๆ เหล่านี้ จะเกิดขึ้น ฉะนั้น รัฐบาลก็จะพยายามที่จะรักษาสถานภาพ ทำยังไงให้ฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ทำยังไงที่จะทำให้เรื่องการท่องเที่ยว คือ การส่งเสริมว่า คนต่างประเทศไม่มา คนไทยเที่ยวด้วยกัน เราจะเห็นนโยบายโครงการรัฐบาลทยอยออกมา เช่นโครงการ คนไทยเที่ยวด้วยกัน ขึ้นเครื่องบินก็ออกให้ 1000 บาท ไปนอนโรงแรมก็ออกให้ 40เปอร์เซ็นต์ อันนี้ยกตัวอย่าง และยังมีโครงการจ่ายคนละครึ่ง ไปซื้อของจาก Mini SME ร้านค้า ร้านย่อย รัฐบาลออกครึ่งหนึ่ง"
ล่าสุด ครม.มีมติ "ช้อปดีมีคืน มาช่วยกันช้อป" แล้วสามารถหักภาษีได้ 30,000 บาท นี้คือ เป็นมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลออกแบบมาเพื่อชดเชยนักท่องเที่ยวต่างประเทศไม่เข้ามา คือ ชวนคนไทยออกมาเที่ยวเมืองไทย วันนี้ ต้องไทยทำไทยใช้ ไทยเจริญ , Made In Thailand , ผมคิดว่าวันนี้คนไทยที่พอมีฐานะ ช่วยกันซื้อสินค้าไทย ช่วย SME ชวนกันเที่ยว เพื่อให้เม็ดเงินของเรา มาเป็นการต่อลมหายใจ ให้กับคนที่จะตกงาน ผู้ประกอบการ
"ผมคิดว่านโยบายเหล่านี้ จะประสบความสำเร็จไม่ได้เลยต้องมีการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ให้รู้ว่าที่ไหนน่าจะเที่ยว น่าจะไปบ้าง แหละนี่ คือ โครงการ "หัวหินเมืองแห่งความสุข" เป็นความร่วมมือกันระหว่างภาคเอกชน และการท่องเที่ยวและจังหวัดประจวบฯ ถือว่า 3 ประสาน ที่จะช่วยประชาสัมพันธ์ว่าวันนี้ เรามาเที่ยวหัวหินกัน และสิ่งนี้อาจจะไปเกิดขึ้นที่จังหวัดอื่นๆ ถ้าพวกเราได้ทำในลักษณะโมเดลต้นแบบชวนคนไทยเที่ยวไทย" สุวัจน์ กล่าว
ด้าน นางสาวพราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท พราว กล่าวว่า ทางกลุ่มบริษัท พราว ได้มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่ 360 องศาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนตุลาคม-ธันวาคม 2563 คือ ยกระดับให้หัวหิน กลายเป็นเทรนด์แม่แบบการท่องเที่ยวหลัง Covid-19 กับกิจกรรมการท่องเที่ยวที่เข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งด้านเอนเตอร์เทนเมนต์, ด้านศิลปะและกีฬา ที่สำคัญ ในทุกกิจกรรมต้องอยู่ภายใต้มาตรฐานความสะอาดและปลอดภัยด้านสุขอนามัย
นอกจากกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อสร้างความสุข ภายใต้โครงการ "หัวหินเมืองแห่งความสุข" แล้ว กลุ่มบริษัท พราว ยังทุ่มงบประมาณกว่า 15 ล้านบาท ในการเพิ่มระดับความสุขตอบแทนให้แก่นักท่องเที่ยว ได้แก่ ลุ้นรับที่พักโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท วานา นาวา หัวหิน จำนวน 30 ใบ เพียง post รูปหัวหินเมืองแห่งความสุขบน IG / FB ของคุณ และ #หัวหินเมืองแห่งความสุข, บัตรสวนน้ำวานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล หัวหิน 200 ใบ/เดือน เพียงเข้าไปร่วมสนุกใน FB fanpage : Vana Nava Water jungle, บัตรออกกำลังกายรายวันที่ทรู อารีน่า หัวหิน จำนวน 1,800 ใบ, บัตรเล่นเทนนิสฟรี ที่ทรู อารีน่า หัวหิน 900 ใบ ที่ทรู อารีน่า หัวหิน เพียงแสดงใบเสร็จห้องพักโรงแรมในหัวหิน และบัตรเข้างาน Pepsi presents Glamping Festival 2020 เป็นจำนวน 300 ใบ”