'พช.' ถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน กรมการพัฒนาชุมชน ประจำปี พ.ศ. 2563 ณ วัดเสนาสนาราม ราชวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
'พช.' ถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน กรมการพัฒนาชุมชน ประจำปี พ.ศ. 2563 ณ วัดเสนาสนาราม ราชวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม 2563 เวลา 09.30 น.
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานผ้าพระกฐินให้ กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ตามที่ได้ขอพระราชทานเพื่อน้อมนำไปถวายพระสงฆ์จำพรรษากาลถ้วนไตรมาส โดยมีนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ประจำปีพุทธศักราช 2563 ในการนี้ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์และประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา คณะผู้บริหาร ข้าราชการกรมการพัฒนาชุมชนส่วนกลางและส่วนภูมิภาคจากจังหวัดต่าง ๆ ภาคีเครือข่าย รวมทั้งพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาเข้าร่วมในพิธีฯ ณ วัดเสนาสนาราม ราชวรวิหาร ตำบลหัวรอ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า “ด้วยพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานผ้าพระกฐินให้กรมการพัฒนาชุมชน น้อมนำไปถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ที่จำพรรษากาลถ้วนไตรมาส ณ วัดเสนาสนาราม ราชวรวิหาร โดยมีพิธีสมโภชองค์พระกฐินพระราชทานไป เมื่อวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา สำหรับการถวายผ้าพระกฐินพระราชทานในครั้งนี้ เพื่อเป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ขอปวารณาถวายจตุปัจจัยถวายเป็นพระราชกุศล มีรายการดังต่อไปนี้
- ถวายบำรุงและบูรณะพระอาราม จำนวน 4,000,555.--บาท
- ถวายพระองค์ครอง 1 องค์ครอง จำนวน 3,000 บาท
- ถวายพระคู่สวด 2 รูป ๆ ละ 1,500 บาท จำนวน 3,000 บาท
- ถวายพระสงฆ์ 29 รูป จำนวน 14,500 บาท
- บำรุงโรงเรียนอยุธยานุสรณ์ จำนวน 40,000 บาท
- ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ 148,750 บาท
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 4,209,805 บาท
ในการนี้ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์และประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชนได้ร่วมบริจาคเงินจำนวน 1 ล้านบาทเข้ากองกฐินเพื่อนำเงินไปบูรณปฏิสังขรณ์โรงเรียนพระปริยัติธรรม “ลมาอมบุญนิธิ” ที่สร้างมานานเกือบร้อยปี ที่ชำรุดทรุดโทรมมาก รวมเป็นเงินถวายเป็นพระราชกุศลครั้งนี้ จำนวน 4,209,805.-บาท ซึ่งกรมการพัฒนาชุมชน ขออนุโมทนาบุญกุศลที่พี่น้องประชาชนผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน ที่ได้ร่วมทำบุญมหากุศลด้วยกันในครั้งนี้”
นอกจากนี้ภายในงานพิธีฯ ได้มีร้าน OTOP ชวนชิม และการออกร้านแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP กว่า 30 ร้านค้า ให้มีมาร่วมงานได้ชม ชิม ช้อป ด้วย
สำหรับประวัติและความเป็นมาของ วัดเสนาสนาราม ราชวรวิหาร ตั้งอยู่ที่ตำบลหัวรอ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร ฝ่ายธรรมยุตนิกาย เดิมชื่อวัดเสื่อ สร้างตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาพร้อมพระราชวังจันทรเกษม ที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเมื่อครั้งดำรงพระยศเป็นมหาอุปราชครองเมืองพิษณุโลกในยามเสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงศรีอยุธยา ตัววัดสร้างขึ้นด้านหลังเพื่อเป็นวัดประจำพระราชวัง วัดเสื่อได้เจริญรุ่งเรืองมาพร้อมกับพระราชวังจันทรเกษมและได้กลายเป็นวัดร้างไปคู่กันเมื่อกรุงศรีแตกใน พ.ศ. 2310 จวบจนพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ 300 ชั่งเศษและโปรดเกล้าฯ ให้พระยาราชสงคราม (ทัด หงสกุล) เป็นประธานในการบูรณะวัดเสื่อจนแล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2406 โดยพระราชทานนามใหม่ว่า วัดเสนาสนารามราชวรวิหาร หรือเรียกกันทั่วไปว่าวัดเสนาสน์แล้วถวายเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกฝ่ายธรรมยุตนิกาย สถาปัตยกรรมงดงามภายในวัดที่น่าชม ได้แก่ พระอุโบสถศิลปะสมัยอยุธยา หน้าบันไม้แกะสลักปิดทอง มีพระราชลัญจกรในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รูปพระมหามงกุฏ บ่งบอกว่าพระองค์เป็นผู้โปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์วัดนี้ ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเทพชุมนุมและภาพพระราชพิธีเดือนสิบสองที่วาดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 มีพระประธานในพระอุโบสถ คือ พระสัมพุทธมุนี เป็นพระพุทธรูปหล่อปางมารวิชัยลงรักปิดทองศิลปะสมัยอยุธยา ประดับด้วยซุ้มเรือนแก้วยอดพระมหามงกุฎ มีขนาดหน้าตักกว้าง 2 ศอก 2 นิ้ว สูงตลอดพระรัศมี 3 ศอก 1 นิ้ว ที่ซุ้มเรือนแก้วมีอักษรขอมจารึกไว้
ถัดมาคือพระวิหารพระพุทธไสยาสน์ ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ศิลปะสมัยอยุธยาที่นำศิลามาเรียงต่อกันแล้วแกะสลักยาว 14.2 เมตร ซึ่งรัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระพุทธไสยาสน์องค์นี้มาจากวัดมหาธาตุ และยังมีพระวิหารพระอินทร์แปลง เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน ขนาด 5 ห้อง กว้าง 2.5 ห้อง หลังคามุงกระเบื้องดินเผาเคลือบหน้าบันและเครื่องประดับเป็นปูนปั้น มีประตูด้านหน้า 2 ประตู ตอนกลางระหว่างประตูมีหน้าต่าง 1 บาน หน้าต่างด้านข้างด้านละ 4 บาน บานสุดท้ายทางด้านหลังทำเป็นประตูออกข้างผนังด้านหลังติดต่อกับวิหารพระพุทธไสยาสน์ จึงเป็นผนังทึบด้านหน้ามีมุข สร้างสกัดหน้า ทำช่องซุ้มโค้งเป็นประตูหน้าต่าง ทุกซุ้มประตูหน้าต่างประดับลายปูนปั้นถอดพิมพ์ บานประตูหน้าต่างด้านนอกเขียนลายรดน้ำ ด้านในเขียนสีลายทวารบาล พื้นปูหินอ่อน ยกพื้นขึ้นเป็นอาสนสงฆ์ เพดานปิดทองลายฉลุ รูปดาวล้อมเดือน ตรงกลางผนังด้านหลังสร้างเป็นห้องประดิษฐานพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ ตอนหน้าของห้องสร้างเรือนแก้ว ประดิษฐาน "พระอินทร์แปลง" เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่อัญเชิญมาจากนครเวียงจันทน์ เป็นพระพุทธรูปศิลปะล้านช้าง หล่อด้วยโลหะสำริดปางมารวิชัย และพระสาวกยืนถวายสักการะอยู่ทั้ง 2 ข้าง สามารถเดินชมเสนาสนะและงานพุทธศิลป์ต่าง ๆ ได้ทั่วบริเวณวัด เช่น ซุ้มศรีมหาโพธิ์ ธรรมาสน์หินปิดทอง 2 แท่น ภาพจิตรกรรมฝาผนังตำนานพระอินทร์ ภาพจิตรกรรมฝาผนังวิถีชีวิตผู้คนวัดในสมัยรัชกาลที่ 4
ปัจจุบันวัดเสนาสนารามเป็นวัดเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ธรรมยุต) มี พระเทพมงคลโสภณ (โสภณ ปญฺญาโสภโณ) เป็นเจ้าอาวาส และเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดำรงสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นเทพ ที่พระเทพมงคลโสภณ โกศลวิหารกิจ นิวิฐธรรมสุนทร ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
วัดเสนาสนารามเป็นคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนมาอย่างยาวนาน และได้รับกฐินพระราชทานเป็นประจำทุกปี