สวนนงนุชพัทยา ยึดหลักพอเพียง นำช้างแสนรู้ 9 เชือก ทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศล ในหลวงรัชกาลที่ 9 วันที่ 5 ธันวาคม 2563 เวลา 07.30 น. ณ ลานห้องวิวัฒน์ สวนนงนุช พัทยา อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา ได้นำช้าง 9 เชือก พร้อมผู้บริหารและพนักงานสวนนงนุช ร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติและวันพ่อแห่งชาติ ประจำปี 2563 โดยมีพระครูเกษมกิตติโสภณ (อาจารย์จ๋อย) เจ้าอาวาสวัดสามัคคีบรรพต พร้อมพระภิกษุ 9 รูป นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา กล่าวว่า เราทำต่อเนื่องมาทุกๆ ปี ทำบุญตักบาตรรำลึกถึงพระองค์ท่านที่ได้ทำประโยชน์ให้กับประเทศไทยของเรา ในหลวงรัชกาลที่ 9 สิ่งที่พระองค์ท่านทำให้แก่พวกเราคนไทยทุกๆ คนจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามพระองค์ท่านได้ช่วยเหลือพวกเราทุกๆ คน ผมรำลึกถึงพระองค์ท่านตลอดมา ยึดหลักการดำเนินชีวิตตามคำสอนในหลวงรัชกาลที่ 9 “สวนนงนุชจริงๆ แล้วได้เกิดขึ้นกับ คำว่า “พอเพียง” ของพระองค์ท่าน แรกๆ เราก็ยังไม่ดีนักก็ค่อยๆ พัฒนาต่อเนื่องแต่ไม่หยุดที่ละนิดๆ พอเพียงแก่กำลังวังชาของเรา จะสังเกตว่าหลังๆ เราได้ทำมากมายเหลือเกิน เพราะกำลังวังชาเราดีขึ้น เราก็พอเพียงระดับของเราก็ดีขึ้นก็ยึดความคิดของพระองค์ท่านมาตลอดในการทำงาน” นายกัมพล กล่าวและย้ำว่า การจัดกิจกรรมนำช้างแสนรู้ 9 เชือกที่ได้อาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินไทย มาร่วมในพิธีทำบุญตักบาตร เพื่อแสดงออกถึงความรักชาติ รักผืนแผ่นดินไทย ที่สำคัญ เป็นการแสดงความจงรักภักดีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ทรงสร้างคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติ และสร้างความผาสุกต่อพสกนิกรปวงชนชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้ สำหรับช้างแสนรู้ 9 เชือก ประกอบด้วย1.ไม้เมือง ความสามารถพิเศษปาลูกโป่ง,ฟุตบอล,บาสเกตบอล2.ใบเตย ปาลูกโป่ง,บาสเกตบอล,ข้ามคน,นวดคน3.ตรุษจีน เล่นบาสเกตบอล,ข้ามคน,นวดคน4.ทับทิม เล่นฟุตบอล,โบลิ่ง5.ยิ่งรวย เล่นฟุตบอล,บาสเกตบอล,เต้น6.ซันเดย์ เล่นฟุตบอล,บาสเกตบอล,โบลิ่ง,เต้น7.ชมพู่ เหยียบลูกโป่ง,ข้ามคน,เต้น8.รัฐธรรมนูญ เหยียบลูกโป่ง,บาสเกตบอล,ข้ามคน9.เรม่อน วาดรูปและเต้น คุณโต้ง กัมพล ตันสัจจา มองการท่องเที่ยวไทยและสถานการณ์โควิดตอนนี้ ว่า “จริงๆ เราต้องมองภาพใหญ่ของประเทศ ว่าจริงๆ แล้ว อะไรที่เราต้องเสียสละ เราก็ต้องจำเป็น เพื่อส่วนร่วมแล้ว อะไรที่จำเป็นก็ต้องทำ ก็ควรจะทำกัน อย่างผมเอง เราก็โดนหนักที่สุด เราก็ต้องกัดฟันสู้ต่อไป การเชิญชวน “ไทยเที่ยวไทย”ของเราก็ทำมา เพื่อให้คนไทยได้เที่ยว ได้ใช้เงินกัน จริงพวกกลุ่มรากหญ้าและกลุ่มใหญ่ๆ เลยของประเทศก็อยู่ได้ ถ้าคนไทยทุกคนได้ช่วยกันเอง โครงการที่ให้คนไทยเที่ยวฟรี เมื่อปี 61 ตอนนั้น กำลังเราดีขึ้นแล้ว มีต่างชาติ มาเที่ยวสวนกันเยอะแล้ว ผมก็มองถึงคนไทยเรา เพราะคนไทยเราไม่ได้ โดนฝึกฝนมาให้เที่ยว แบบอย่างยุโรป หรือประเทศอื่น ผู้สูงอายุเขาจะเที่ยวกัน ผู้สูงอายุเราไม่เคยทำกันเลย ผมเองก็คิดเหมือนกันว่าทำยังไง ให้เขามาได้ เราก็มีโครงการ ผมก็ได้ทำกับนายอำเภอสัตหีบ เราเอาคนสัตหีบมาเที่ยวฟรีก่อนดีไหม ซึ่งได้รับผลการตอบรับที่ดี และก็ขยายไปได้ทั่วประเทศ เพราะอยากให้เขาได้มาได้เห็น เมื่อเขาเห็นแล้วเขาได้กลับไป บอกชาวบ้าน หรือเพื่อนบ้านได้มาเที่ยวกัน สิ่งพวกนี้จะได้เกิดขึ้น เพราะคนไทยจะเที่ยวเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์ ทำยังไงให้เขาเที่ยวเพิ่มอีก 1 วัน หรือ 2 วันได้ล่ะ ไม่ใช่ทุกๆ วัน ผมว่าลำบาก ผมเองให้โครงการหลังๆ ว่า สำหรับกับผู้สูงอายุ 60 ขึ้นไป ฟรีทุกวันจันทร์ แต่หลังๆ ความคิดเราเปลี่ยนแปลงไป ว่าทำไมเราไม่ให้เขาเที่ยว วันใดวันหนึ่งมากขึ้น อย่างเช่น สมมุติ วันศุกร์ ควรช่วยกัน หรือฟรีโครงการของรัฐบาลให้เที่ยวเจาะวันศุกร์ เราก็จะได้ ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ถึงแม้วันศุกร์จะทำงานก็ตาม เพิ่มพลังให้กับรากหญ้า ทุกๆ เมืองที่สามารถพัฒนารองรับนักท่องเที่ยวได้ ก็เท่ากับมี 3 วัน ซึ่งจะมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่ละเมืองที่ฉลาดหรือรองรับได้ ก็สามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ อันนี้ก็คือการเพิ่มระยะยาวให้แก่คนไทยของเรา ให้มาเที่ยว ต่อไปวันศุกร์ก็คือวันเที่ยวเหมือนกัน ผู้สูงอายุก็ออกมาเที่ยว เพราะมีโครงการดีๆ ของรัฐบาล ที่ให้เที่ยวฟรี เพื่อจะได้เจาะจงเข้าไป มีวันเที่ยวเพิ่มขึ้น 1 วัน มีเงินเพิ่มขึ้น 1 วัน ทำให้ชาวบ้านมีพลังที่จะขยายกิจการเค้า จะทำให้เมืองรองต่างๆ จะได้เกิดขึ้นได้ ทำให้เศรษฐกิจเราก็จะอยู่ได้ ผมก็นั่งคิดอยู่ เพราะตอนนี้เราเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ผมใช้คำว่า อีกนิดหนึ่ง ทำยังไงให้ดีอีกนิดหนึ่ง ระหว่างที่เราเจอปัญหาเราก็ดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็เห็นเลยว่าคนไทยตอนนี้เที่ยวกันเยอะ มาสวนนงนุชเข้ามาเราได้ประโยชน์สองอย่าง อย่างหนึ่ง คือ “ไทยเที่ยวไทย” อย่างที่ สอง เด็กเยาวชนคนรุ่นใหม่ มาเที่ยวสวนนงนุชมากเหลือเกิน เพราะเราเชิญชวน เขามาถ่ายรูปกับไดโนเสาร์ ซึ่งเราบั้นไว้มหาศาล แล้วส่งไลน์ไปให้เพื่อนๆ ก็บอกพ่อเพื่อนให้พามาที่นี่ หน้าที่ของเรา ประเทศเราต้องอบรมเยาวชนคนรุ่นใหม่ ให้รักธรรมชาติและรักสัตว์ ฝรั่งมาที่สวนผม ว่า You ทำสำเร็จแล้วนะ พวกเขาก็พยายามทำอยู่เหมือนกัน อบรมเด็ก ผมคิดว่าเด็ก คือเยาวชนอนาคตของประเทศเรา ที่จะพาลูกเขามาเอง ไม่เหมือนพวกเราๆ โดนแอนดีแคป โครงการเที่ยวไม่ได้ฝังที่จิตใจเรา แต่ต่อไป คนรุ่นใหม่จะเที่ยวธรรมชาติ เที่ยวดูสัตว์ มีความรักธรรมชาติ และรักสัตว์ อันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ ผมพยายามทำอันนี้และพยายามยืนอยู่ให้ได้ และให้พ้นวิกฤตโควิดนี้ไปให้ได้