โครงการ Spark U ปลุกเปลี่ยนเมือง ภาคอีสาน ภายใต้การสนับสนุนของแผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สสส. ใช้ฤกษ์ดีวันสิ่งแวดล้อมไทย (4 ธ.ค.63) นำภาคีเครือข่ายขอนแก่นทุกภาคส่วน ลงนามความร่วมมือผสานกำลังทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม องค์กรท้องถิ่น โรงเรียน ฯลฯ ประกาศปฏิญญา 3 ข้อ แก้ปัญหาขยะและสิ่งแวดล้อมขอนแก่นโดยภาคประชาชน ตั้งเป้าแก้ปัญหาขยะล้นเมืองเทศบาลนครขอนแก่นที่วันนี้มีปริมาณมากถึง 162 ตันต่อวัน โดยได้รับเกียรติจาก อ.มานพ แย้มอุทัย ผู้ทรงคุณวุฒิจาก สสส. เข้าร่วมงานและ นายสุเทพ มณีโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธาน ณ อาคารแสดงสินค้า ตลาดต้นตาล อ.เมือง จ.ขอนแก่น อ.ดนัย หวังบุญชัย ผู้จัดการแผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สสส กล่าวถึงโครงการ Spark U ปลุกเปลี่ยนเมืองว่า "โครงการ Spark U ปลุกเปลี่ยนเมือง มีการดำเนินงานต่อเนื่องมา 4 ปีแล้ว มีจุดประสงค์เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงโดยอาศัยจิ๊กซอว์สำคัญ 3 ส่วนคือ ภาครัฐ ภาคประชาสังคม คือคนที่เห็นปัญหาอยากมีส่วนร่วม และภาควิชาการ ได้แก่ปราชญ์ชาวบ้าน สถานศึกษา ภาควิชาชีพ ซึ่งร่วมถึงองค์กรเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ มาผนึกกำลังร่วมกัน โดยการทำงานของกลุ่ม Spark U ภาคอีสานที่จังหวัดขอนแก่นนั้น ที่ผ่านมามีความร่วมมือในการ ปลุก-เปลี่ยน-เมือง ในด้านต่างๆ อาทิ การร่วมกันเปลี่ยนสถานีรถไฟเก่าเป็นศูนย์เรียนรู้ของชุมชน จนมีการขยายไปสู่โครงการถนนคนเดิน การสร้างพื้นที่ Street Art ของชุมชน สำหรับงานในวันนี้เป็นอีก 1 หน้าประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นถึงพลังของการมีส่วนร่วม ที่ชาวขอนแก่นทุกคนจะได้เปลี่ยนเมืองขอนแก่นให้เป็นเมืองไร้ขยะร่วมกัน เพื่อเป็นต้นแบบในการส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับเมืองหรือชุมชนอื่นๆ ต่อไป" ขณะที่เยาวชนอย่าง นายสิปปกร เดชสวัสดิ์ ตัวแทนนักเรียนจากโรงเรียนขอนแก่นวิทยายน ที่ได้ขึ้นร่วมกล่าวใน Talk ปลุกพลัง เปลี่ยนเมือง กล่าวว่า "ในฐานะของคนรุ่นใหม่ พวกเรานักเรียนโรงเรียนขอนแก่นวิทยายน ได้สะท้อนแนวคิดผลกระทบของขยะออกมาในรูปแบบของงานศิลปะที่ชื่อว่า ประติมากรรมแห โดยมีแนวคิดว่า สมัยก่อนวิถีชีวิตของคนไทยเรานั้น เมื่อทอดแหออกไป ก็จะมีกุ้งหอยปูปลากลับมาประกอบเป็นอาหาร แต่ปัจจุบันปัญหาขยะน้ำเสียกำลังทำให้การทอดแหแต่ละครั้งของเราเปลี่ยนไป วันนี้เราไม่มีกุ้งหอยปูปลากลับมา เรามีแต่ขยะและของเสียติดมากับแห ก็อยากจะสะท้อนให้คนที่ทิ้งขยะปล่อยน้ำเสียลงในแม่น้ำ ได้มองเห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของตัวเอง และหันมาช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อม ลดขยะ และหยุดการปล่อยน้ำเสียด้วยกัน"