Bitazzaนายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำของประเทศไทยที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการหลักทรัพย์และหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (กลต.) จับมือกับ Lightnet Group ซึ่งเป็นบริษัทบล็อกเชนแห่งแรกในเอเชียที่ได้รับการสนับสนุนจากสองบริษัทยักษ์ใหญ่ที่อยู่ในการจัดอันดับ500 บริษัทของฟอร์จูนมีเดีย และ Velo Labs ซึ่งเป็นต้นแบบของการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ในการโอนสินทรัพย์ดิจิทัล เป้าหมายหลักนอกจากการสร้างความคล่องตัวในการเดินทางของสกุลเงินออกจากโดยรัฐบาล fiat และ คริปโทเคอร์เรนซี และเป็นการสร้างระบบนิเวศทางการเงินที่เชื่อมโยงวิธีการแบบดั้งเดิมเข้ากับโลกดิจิทัลให้มากขึ้นแล้ว ยังเน้นไปที่การขยายโอกาสในการสร้างและลงทุนธุรกิจให้กับผู้ใช้งานโดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (MSME) ที่อาจเคยเจอปัญหาในการสร้างบัญชีธนาคาร หรือ ยังไม่มีบัญชีธนาคารในการดำเนินธุรกรรมทางการเงิน และทำให้สามารถจัดการการเงินและยังเป็นโอกาสในการขยายตลาดและฐานลูกค้าไปได้มากกว่าแค่ในประเทศอีกด้วย การทำงานร่วมกันในครั้งนี้มีวิสัยทัศน์ในการที่จะช่วยกันแก้ไขปัญหาที่มักเกิดขึ้นบ่อยๆของการชำระเงินและโอนเงินข้ามประเทศ จะแบบสกุลเงินเดียวกัน หรือ ต่างสกุลเงินก็ตามที โครงการนี้จะทำให้เกิดความรวดเร็ว โปร่งใส ประหยัด ง่ายต่อการใช้งาน และที่สำคัญคือปลอดภัยต่อผู้ใช้งานมากที่สุด “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือที่แตกต่างกับพันธมิตรที่เชื่อถือได้เช่น Velo Labs และ Bitazzaเรามุ่งมั่นที่จะให้บริการลูกค้าจากตลาด MSME ในประเทศไทยอีกทางหนึ่งในการปรับปรุงการเข้าถึงระบบและสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดีมากขึ้น” คุณตฤบดี อรุณานนท์ชัย รองประธานกรรมการและผู้ร่วมก่อตั้งLightnet Group กล่าว คุณชัชวาลย์ เจียรวนนท์ ประธานบริษัท Velo Labs กล่าวว่า “ข้อตกลงนี้เป็นข้อพิสูจน์พันธสัญญาของ Velo Labs และความพยายามอย่างต่อเนื่องของพันธมิตรในการบรรลุเป้าหมายที่จะร่วมมือกันพัฒนาระบบทางการเงินสำหรับผู้ใช้หลายล้านคนในวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Micro, Small and Medium-Sized Enterprises: MSME) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแสดงให้เห็นความมุ่งมั่นในการมอบโอกาสในการเข้าถึงระบบการเงินในกลุ่มบุคคลทั่วไป ผมหวังว่าการเปิดโอกาสให้ Bitazza เข้ามาใช้ประโยชน์จากพันธมิตรในท้องถิ่น อาทิ ทรู และ 7-11 จะทำให้ Bitazza สามารถขยายเครือข่ายธุรกิจออกไปได้ทั่วประเทศ” คุณกวิน พงษ์พันธ์เดชา ประธานกรรมการบริหารของ Bitazza กล่าวว่า “แผนของ Bitazza ที่จะขยายธุรกิจเข้าไปในตลาดอาเซียน และผลักดันให้เกิดระบบเศรษฐกิจที่มีโทเคน BTZ อยู่ในโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้การลงทุนโดย Lightnet ในครั้งนี้นับเป็นการลงทุนโดยสัญชาตญาณ รวมถึงเปิดโอกาสให้ผลิตภัณฑ์ของแต่ละบริษัทสามารถทำงานร่วมกันได้ง่ายยิ่งขึ้น และขยายความสามารถในการเข้าถึงพันธมิตรผ่านเครือข่ายนักลงทุนใหม่ๆ