อรรถพล ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท สีเดลต้า จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัท สีเดลต้า จำกัด (มหาชน) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) และร่างหนังสือชี้ชวน ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 53.25 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1.00 บาท/หุ้น คิดเป็น 23.15% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ โดยมี บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน นายอรรถพล กล่าวต่อว่า สำหรับบริษัท สีเดลต้า จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สีทาอาคาร (Decorative Paint) โดยแบ่งเป็น สีคุณภาพพิเศษ สีคุณภาพสูง และสีคุณภาพคุ้มค่า ซึ่งมีกลุ่มลูกค้า ได้แก่ ผู้รับเหมาและช่างทาสี เจ้าของที่พักอาศัย และเจ้าของโครงการทั้งภาครัฐและเอกชนโดยมีการจำหน่ายสินค้าผ่านร้านโมเดิร์นเทรด (Modern Trade) ร้านค้าปลีก (Retail) และงานโครงการ (Project) โดยวัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหลักทรัพย์ครั้งนี้ไปใช้เป็นเงินทุนในการสร้างโรงงาน, ซื้อเครื่องผสมสี, เป็นเงินทุนในการทำระบบ ERP, เป็นเงินทุนสร้างห้อง LAB และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ทั้งนี้วัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหลักทรัพย์ครั้งนี้ไปใช้เป็นเงินทุนในการสร้างโรงงาน ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาและออกแบบ โดยบริษัทจะใช้โรงงานสุวินทวงศ์เป็นโรงงานผลิตแห่งใหม่, ซื้อเครื่องผสมสี 440 เครื่องในปี 66-68, เป็นเงินทุนในการทำระบบ ERP เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การควบคุมภายใน และการสื่อสารในองค์กร ซึ่งจะช่วยให้สามารถติดตามหรือตรวจสอบข้อมูลด้านวัตถุดิบ สินค้าคงคลัง และการผลิตได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนั้น จะใช้เป็นเงินทุนสร้างห้องแล็บใหม่ที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัยครบครัน ณ วันที่ 31 ธ.ค.63 บริษัท มีทุนจดทะเบียนจำนวน 230,000,000 บาท และเป็นทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 176,750,000 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 176,750,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ภายหลังการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนในครั้งนี้ บริษัทฯ จะมีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วเต็มจำนวน สำหรับปี 61 - 63 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายสุทธิ 486.5 ล้านบาท 547 ล้านบาท และ 559.6 ล้านบาท ตามลำดับ การเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายสุทธิมีสาเหตุหลักมาจากการปรับกลยุทธ์การขายสินค้า การเพิ่มจำนวนร้านคู่ค้าผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายทั้ง Modern Trade Modern Retail และร้านค้าปลีก การเริ่มผลิตและจำหน่ายสี SEFCO ในเดือนตุลาคม 61 รวมไปถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หลายรายการ อย่างไรก็ตามบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 รายของกำไรสุทธิของงบเฉพาะกิจการที่เหลือหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และทุนสำรองต่างๆ ตามกฎหมาย.