8 กรกฎาคม 2564 นายแพทย์ชูชาติ วินิตวัฒนคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟิวเจอร์ เฮลท์ อินโนเวชั่น เทคโนโลยี จำกัด หรือ FINNO-Health ได้มอบทุนสนับสนุนงานวิจัย จำนวน 8,000,000 บาท ให้แก่ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อใช้ในโครงการพัฒนาระบบฐานข้อมูลและการประมวลผลโดยปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) เพื่อใช้ประกอบการตรวจวินิจฉัยเชื้อโควิด-19 จากน้ำลายด้วยเทคนิคแมสสเปคโตรเมทรี (Mass Spectrometry) นพ.ชูชาติ ได้ให้ข้อมูลว่า FINNO-Health ก่อตั้งจากดำริของกลุ่มผู้ชำนาญการในวงการแพทย์ (Medical Professional) กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านห่วงโซ่อุปทานและโลจิสติกส์ทางการแพทย์ (Healthcare supplychain & logistics) และกลุ่มผู้เชี่ยวชาญทางด้านการพัฒนาเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร (ICT Development & Integrator) ด้วยเจตนารมย์ที่มองเห็นอุตสาหกรรมการให้บริการทางการแพทย์ปัจจุบัน ยังสามารถพัฒนาศักยภาพ ให้มากขึ้น โดยการประยุกต์และสนธิ ประสบการณ์ องค์ความรู้ รวมถึงพัฒนาการด้านเทคโนโลยี เพิ่มประสิทธิภาพ ประสิทธิผลในการให้บริการแก่ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์โรคระบาดร้ายแรงจากเชื้อ COVID-19 ที่ผ่านมา ทำให้เกิดความตื่นตัวครั้งใหญ่ในวงการแพทย์ ที่เป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดการบูรณาการระบบการบริการ และระบบสนับสนุนบริการทางการแพทย์ เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์รุนแรงฉุกเฉินนี้ เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ดังกล่าว กลุ่มผู้ก่อตั้งฯ จึงมองเห็นความจำเป็นที่จะต้องร่วมมือกัน นำประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญ ผนวกเทคโนโลยีทางด้านสารสนเทศ และการสื่อสาร บูรณาการเข้ากับนวัตกรรมด้านการแพทย์ ทั้งนี้ ทางกลุ่มผู้ก่อตั้ง FINNO-Health ได้มีโอกาสร่วมรับฟังวิสัยทัศน์ จากกลุ่มนักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคติดเชื้ออุบัติใหม่ จากคณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยการนำเอาเทคโนโลยีทางด้านวิทยาศาสตร์ มาวิเคราะห์ ค้นหา และจำแนกโมเลกุลจากโปรตีนของเชื้อไวรัสอุบัติใหม่ ด้วยเครื่องมือ MALDI ToF Mass Spectrometry ซึ่งเป็นแนวคิดที่ใหม่มากในระดับโลก ซึ่งเป็นที่สนใจในวงการแพทย์ชั้นนำทั่วโลกหลายแห่ง หลายองค์กร กำลังพยายามที่จะศึกษาและค้นคว้าเพิ่มเติม เพื่อนำไปพัฒนาให้เป็นเทคนิคการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมและเป็นมาตรฐานมากยิ่งขึ้น ทาง FINNO-Health จึงเห็นควรสนับสนุน พัฒนางานวิจัยนี้ รวมไปถึงการสนับสนุนงานวิจัยภาคสนาม ให้ผ่านกระบวนการพิจารณาและนำไปสู่การกำหนดเป็นมาตรฐานใหม่ ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อระบบสาธารณสุขและการแพทย์ ทั้งภาครัฐและเอกชนต่อไป ทีมงาน FINNO-Health มีความเชื่อมั่นและมุ่งมั่นในการบูรณาการความร่วมมือครั้งนี้ เพื่อเป็นจุดเริ่มต้น และเป็นประโยชน์ในการศึกษาพัฒนาต่อเนื่อง แก่วงการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศไทย ให้ก้าวสู่มาตรฐานสากล