นายกฯ “พล.อ.ประยุทธ์” มอบ 42 รางวัล PM Export Award 2021 ในรูปแบบ Virtual Event ให้ผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น ประจำปี 64 ครั้งที่ 30 เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้ผู้ประกอบการไทย ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประกาศพร้อมเป็นทัพหน้าหนุนประกอบการส่งออกบุกตลาดโลกหลังโควิดคลี่คลาย ปลื้มยอดส่งออกปี 64 เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าส่งออกทั้งปีของไทยจะไปในทิศทางที่เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ 4% พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานพิธีมอบรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น ประจำปี 2564 หรือ Prime Minister’s Export Award 2021 ครั้งที่ 30 ในรูปแบบ Virtual Event ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ของการมอบรางวัลสูงสุดของรัฐบาลที่มอบให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น เพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งความภาคภูมิใจของประเทศและเป็นขวัญกำลังใจผู้ประกอบธุรกิจส่งออก โดยปีนี้มีบริษัทที่เข้ารับรางวัลใน 7 สาขา รวม 42 รางวัล ดังนี้ รางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกยอดเยี่ยม Best Exporter จำนวน 9 ราย ได้แก่ บริษัท ชาเขียว จำกัด บริษัท นิว อาไรวา จำกัดบริษัท นพดาโปรดักส์ จำกัด บริษัท ดิ สมิธ ฟู้ด อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดบริษัท พรูเด็นเชียล แอมพรี ไทยแลนด์ จำกัดบริษัท สตาร์ ซานิทารีแวร์ (ประเทศไทย) จำกัดบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน)บริษัท ไทยอีสเทิร์น อินโนเวชั่น จำกัดบริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด จำกัด รางวัลแบรนด์ไทยยอดเยี่ยม (Best Thai Brand) จำนวน 9 ราย ได้แก่บริษัท นิว อาไรวา จำกัดบริษัท นพดาโปรดักส์ จำกัดบริษัท ชาเขียว จำกัด บริษัท ภูตะวัน เฮิร์บ แอนด์ คอสเมติค จำกัดบริษัท ลัคกี้เฟลม จำกัดบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน)บริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด จำกัดบริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน)บริษัท พิบูลย์ชัยน้ำพริกเผาไทยแม่ประนอม จำกัด รางวัลสินค้านวัตกรรมยอดเยี่ยม (Best Innovation).จำนวน 3 ราย ได้แก่บริษัท นิว อาไรวา จำกัดบริษัท เท็กซ์ไทล์ แกลลอรี่ จำกัดบริษัท เท็กซ์ไทล์ แกลลอรี่ จำกัด รางวัลสินค้าที่มีการออกแบบยอดเยี่ยม (Best.Design) จำนวน 7 ราย ได้แก่บริษัท มูนเลอร์ คอลเลคชั่น จำกัดบริษัท ดี โอ ที เอส จำกัด DOI TUNG DEVELOPMENT PROJECTบริษัท สุขภัณฑ์ ไฮโดร (ประเทศไทย) จำกัดบริษัท พร้อม ดีไซน์บริษัท พชร์ ไทป์ ฟาวนดรี้ (Potch Type Foundry)บริษัท ดีพาร์ทเม้นท์ ออฟ อาร์คิเทคเจอร์ จำกัด รางวัลธุรกิจบริการยอดเยี่ยม (Best Services Enterprise Award) แบ่งเป็น 4 สาขา ดังนี้ สาขาโรงพยาบาล/ศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง/คลินิกเฉพาะทาง (Health & Wellness) ได้แก่บริษัท โรงพยาบาล สมิติเวช สุขุมวิท จำกัดสาขาดิจิตอลคอนเทนท์และซอฟต์แวร์ (Digital Content & Software) ได้แก่บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)สาขาธุรกิจสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ (Printing) ได้แก่บริษัท ทีพีเอ็น ฟู้ด แพคเกจจิ้ง จำกัดสาขาโลจิสติกส์การค้า (ELMA) ได้แก่บริษัท แปซิฟิค ห้องเย็น จำกัด รางวัลสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยม (Best OTOP) จำนวน 2 ราย ได้แก่บริษัท เจ.ที. ซิลค์ จํากัด บริษัท หมอยาไทย 101 จํากัด รางวัลสินค้าฮาลาลยอดเยี่ยม (Best Halal) จำนวน 3 ราย ได้แก่บริษัท เอเรคี จำกัดบริษัท ดิ สมิธ ฟู้ด อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดบริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) รางวัลผู้ประกอบการนวัตกรรมดาวเด่น Aspiring Innovation จำนวน 5 ราย ได้แก่บริษัท ฮิลล์คอฟฟ์ จำกัดบริษัท ไทยแทฟ ฟิต้า จำกัดบริษัท เวลตี้ ม็อกกี้ อินโนเวชั่น จำกัดบริษัท ไอ พลัส คิว จำกัด บริษัท อุตสาหกรรมโคราช จำกัด พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้มีนโยบายในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งในภาคการผลิตและบริการให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งพัฒนาทักษะผู้ประกอบธุรกิจให้สามารถใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ พร้อมทั้งสนับสนุนและกำหนดมาตรการในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและตลาด เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจไทยทั้งระบบ สอดคล้องตามแผนแม่บทในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี งานมอบรางวัล Prime Minister’s Export Award จึงถือเป็นรางวัลเกียรติยศสูงสุดที่ผู้ประกอบการส่งออกได้รับการรับรองจากรัฐบาล แสดงถึงภาพลักษณ์และคุณภาพมาตรฐานของสินค้าไทยในระดับสากลที่มีมายาวนาน “งานมอบรางวัล Prime Minister’s Export Award นอกจากจะเป็นงานที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของผู้ประกอบการไทยที่สามารถผลิตสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน จนเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศแล้ว ทุกท่านยังนับเป็นต้นแบบที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการรายอื่นๆ ได้มองเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาตนเอง พัฒนาสินค้าและบริการ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการปรับตัวเข้าสู่โครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ ในยุค New Normal ที่รัฐบาลมีความภาคภูมิใจ และขอยกย่องผู้ประกอบการที่มุ่งมั่นและตั้งใจพัฒนาตนเองอย่างไม่หยุดยั้ง” นายกรัฐมนตรี กล่าว ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า จากการที่เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 กระทรวงพาณิชย์ได้ปรับแผนการทำงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย แสวงหามาตรการที่เหมาะสมเพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจของประเทศไทยให้ขยายตัวเป็นบวก โดยมีแผนขับเคลื่อนการทำงานในหลายด้าน อาทิ การพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ และการส่งเสริมสินค้าและธุรกิจบริการของไทยออกสู่ ส่งผลให้การส่งออกของไทยในปีนี้ขยายตัวดีต่อเนื่อง นับเป็นรางวัลแห่งความภาคภูมิใจ ที่ภาครัฐและภาคเอกชนได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจส่งออก ให้สามารถก้าวเดินได้อย่างต่อเนื่อง และก้าวเข้าสู่โครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ ยุค New Normal ได้อย่างมั่นคง