สวส. จัดสัมมนา"ก้าวต่อไปของวิสาหกิจเพื่อสังคม The Next Move of Social Enterprise" ผ่านZoom "จุรินทร์"เร่งสร้างการรับรู้วิสาหกิจชุมชน
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม หรือ สวส. จัดสัมมนาออนไลน์ เรื่อง ก้าวต่อไปของวิสาหกิจเพื่อสังคม (The Next Move of Social Enterprise) ในรูปแบบ Video Conference ระบบ Zoom โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม เป็นประธานเปิดโครงการสัมมนาออนไลน์ฯ พร้อมกล่าวว่า ประเทศไทยถือเป็น 1 ใน 193ประเทศที่ร่วมลงนามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ของสหประชาชาติ สำหรับวิสาหกิจเพื่อสังคมของไทยคือรูปธรรมหนึ่งที่จะบรรลุสู่เป้าหมาย เนื่องจากเป้าหมายของสำคัญวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) คือการก้าวเข้าสู่การพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งประเทศไทยมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม พ.ศ.2562 เพื่อส่งเสริมการแก้ปัญหาและพัฒนาชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการจ้างงานแก่กลุ่มเปราะบาง ผู้ยากจน
ปัจจุบันประเทศไทยมีวิสาหกิจเพื่อสังคม 162 กิจการ จำแนกเป็น การผลิต เช่น เกษตร การแปรรูป เป็นต้น 10% การบริการ เช่น แพลตฟอร์มออนไลน์ โลจิสติกส์ การท่องเที่ยว 20% ที่เหลืออีก 70% เป็นธุรกิจประเภทซื้อมาขายไป จะเห็นว่าเป็นร้านประชารัฐรักสามัคคีประมาณครึ่งหนึ่ง สะท้อนให้เห็นว่า เราต้องใช้ความพยายามในการเพิ่มจำนวนวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ให้มากขึ้นในการจดทะเบียนในอนาคต
นับตั้งแต่ที่เข้ามารับตำแหน่งประธานกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคมดำเนินการมหลายเรื่องมาอย่างต่อเนื่อง ดังนี้
1. การออกกฎหมายลำดับรอง 20 ฉบับ จาก 32 ฉบับ เพื่อขยายกรอบการดำเนินงานจาก พรบ ส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม
2. การทำ MOU ร่วมกับ 18 หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน โดยมีความร่วมมือการส่งเสริมและพัฒนาวิสาหกิจเพื่อสังคม เช่น กระทรวงพาณิชย์มีส่วนช่วยในการทำการตลาดแบบมืออาชีพ นอกจากนี้ยังมีภาคเอกชน เช่น เซ็นทรัล บริษัท ไทย เบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ทรู คอร์ปอเรชั่น เป็นต้น ที่นำแพลตฟอร์มมาช่วยให้เปิดพื้นที่ให้วิสาหกิจเพื่อสังคมมีพื้นที่ขายสินค้าออนไลน์ ที่สำคัญมีระบบไอทีมาส่วนช่วยในการผลิตและการตลาด
3. ช่วยเพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อเกื้อหนุนให้กับวิสาหกิจเพื่อสังคม เช่น หากบริษัทหรือนิติบุคคลใดการบริจาคเงินเข้ากองทุนส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม หรือลงทุนในวิสาหกิจเพื่อสังคม หักสามารถนำไปหักเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีนิติบุคคลต่อไปได้ หรือ สำหรับวิสาหกิจเพื่อสังคม ประเภทไม่แบ่งปันผลกำไร ที่ขณะนี้มีอยู่ 131 แห่ง จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล
4. ขณะนี้ คณะรัฐมนตรีมีมติเอื้ออำนวยให้วิสาหกิจเพื่อสังคมขายสินค้าและบริการให้กับภาครัฐมากขึ้น โดยสามารถเข้ามาทำการจัดซื้อจัดจ้าง โดยใช้วิธีเจาะจงได้ ซึ่งจะทำให้วิสาหกิจเพื่อสังคมมีโอกาสในการเข้าการซื้อสินค้าและบริการจากภาครัฐมากขึ้น
5. การจัดตั้งกองทุนส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับผู้ที่จะก่อตั้งวิสาหกิจเพื่อสังคม ในอนาคต และที่มีอยู่ปัจจุบัน เช่น เป็นแหล่งทุน เป็นต้น
สำหรับ ก้าวต่อไปของวิสาหกิจเพื่อสังคม ตนเห็นว่าเราต้องตั้งเป้าหมายร่วมกัน
ประการที่1 ในปี พ.ศ.2565 วิสาหกิจเพื่อสังคมจะต้องมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 20%
ประการที่2 ต้องสร้างการรับรู้การเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับวิสาหกิจเพื่อสังคม ถือว่าเป็นการบ้านข้อใหญ่ ในการดำเนินการ เพื่อให้ทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าใจถึงเป้าหมายความยั่งยืนร่วมกัน
ประการที่3 เร่งรัดขยายภาคีเครือข่ายวิสาหกิจเพื่อสังคม ทั้งนี้เพื่อแสวงหาการสนับสนุน เพิ่มเติมในเรื่องของการตลาด ทั้งในและต่างประเทศ การผลิตโดยใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม ระบบเทคโนโลยี การเข้าถึงแหล่งเงินทุน การประชาสัมพันธ์ การบริหารจัดการสมัยใหม่ ที่มีความจำเป็นต่อวิสาหกิจเพื่อสังคมในอนาคต
“ขอบคุณที่เข้ามามีส่วนในการจัดสัมมนา เป็นประโยชน์ต่อวิสาหกิจเพื่อสังคมและกับทุกท่านที่คิดจะก้าวเข้ามา จดทะเบียนเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคม เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนและพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจต่อไป เชื่อว่าทุกฝ่ายจะได้รับประโยชน์จากการเสวนาหัวขอ SE NEXT MOVE การแชร์ประสบการณ์และมุมมองด้านธุรกิจในอนาคต กับกูรูด้านวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) กูรูด้านการตลาด และกูรูด้านทิศทางหรือแนวโน้มจากภาคธุรกิจ พร้อมเจาะลึกแหล่งทุนสำหรับวิสาหกิจเพื่อสังคม ในการเสวนาหัวข้อ ‘SE BE FUNDED’ เพื่อให้วิสาหกิจเพื่อสังคมได้เข้าใจถึงวัตถุประสงค์และกระบวนการเข้าถึงแหล่งทุนอย่างเป็นรูปธรรม โดย ผู้แทนจากกองทุนสิ่งแวดล้อม กองทุนเสมอภาคทางการศึกษา กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ เป็นต้น” นายจุรินทร์ กล่าว.
สำหรับใครที่ไม่ได้เข้าร่วมงานสัมมนาออนไลน์ สามารถรับชมย้อนหลังได้ที่ Facebook ของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม https://www.facebook.com/osepdsdw/videos/596893238119791 หรือทั้งนี้สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องของ สวส. หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม – สวส. Email: info@osep.mail.go.th LINE Official Account ที่ @osep หรือ https://lin.ee/oxPnD2E หรือโทร. 02-2462344-8