การรถไฟฯ ดูแลความปลอดภัยผู้ใช้บริการ รวบผู้ต้องหาก่อเหตุลักลอบตัดสายเคเบิลรถไฟชานเมืองสายสีแดง จำนวน 3 ราย
นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า
เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 64 เจ้าหน้าที่กองบังคับการตำรวจรถไฟ สามารถจับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุลักลอบตัดสายเคเบิล ได้จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย นายธนะ พุ่มอ่ำ อายุ 55 ปี นายรำไพ คัมภีรพงษ์ อายุ 53 ปี นายวิวัฒน์ ชาติศรี อายุ 51 ปี พร้อมด้วยของกลาง สายเคเบิล เส้นละ 1 เมตร จำนวน 8 น้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรับ สายเคเบิลเส้นละ 50 เซนติเมตร จำนวน 16 เส้น น้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม สายอลูมิเนียมเหนี่ยวนำกระแสไฟฟ้า น้ำหนักประมาณ 4 กิโลกรัม ครีมตัดสายไฟ และ รถกระบะโตโยต้าวีโก้สีเหลืองดำ ทะเบียน ฒณ 8898 กรุงเทพมหานคร มีนายวิวัฒน์ ชาติศรี เป็นผู้ครอบครอง โดยพบของกลางบรรจุอยู่ในกระสอบปุ๋ยอยู่ในรถยนต์บริเวณที่นั่งด้านหลังคนขับ และวางอยู่ที่พื้นข้างตู้คอนเทนเนอร์ข้างตู้คนงาน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีการลักลอบตัดสายเคเบิล บริเวณย่านสถานีกลางบางซื่อ ด้านถนนกำแพงเพชร 6 จึงได้วางกำลังซุ่มดู ต่อมาพบกลุ่มผู้ต้องหากำลังขนย้ายของกลางดังกล่าวใส่รถกระบะ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม และนำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งสถานีตำรวจรถไฟนพวงษ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันลักทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปเพื่อให้พ้นการจับกุม แต่ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ
การจับกุมกลุ่มผู้กระทำผิดในครั้งนี้ ได้ดำเนินการสอบสวนขยายผลการจับกุม เพื่อเอาผิดให้ถึงที่สุด ตามนโยบายของนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เพราะถือเป็นพฤติกรรมอุกอาจในการทำลายทรัพย์สินของราชการ อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อประชาชนส่วนรวมอย่างมาก
ทั้งนี้ การจับกุมผู้กระทำผิดเป็นผลจากการยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง โดยการรถไฟฯ ได้เข้าไปติดตั้งกล้องวงจรปิด ในการดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อย และใช้เป็นหลักฐานในการติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี ตลอดจนยังใช้วิธีมวลชนสัมพันธ์ โดยขอความร่วมมือกับชุมชนโดยรอบทางรถไฟ ให้ช่วยเป็นหูเป็นตา สอดส่องดูแลความเป็นเรียบร้อย ซึ่งในกรณีได้รับความร่วมมือจากประชาชนในการช่วยจับกุมผู้กระทำผิดมาได้
อย่างไรก็ตาม การรถไฟฯ แจ้งย้ำถึงพี่น้องประชาชน ขอให้มีความมั่นใจในความปลอดภัย การใช้บริการรถไฟชานเมืองสายสีแดง เนื่องจากการตัดชุดสายเคเบิลดังกล่าว เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อกับระบบจ่ายไฟฟ้า สำหรับป้องกันอันตรายการบำรุงรักษาของพนักงานที่ลงไปทำงานในเส้นทางรถไฟฟ้าเท่านั้น ไม่ได้ส่งต่อการเดินรถ หรือกระทบต่อความปลอดภัยในการให้บริการแก่ผู้โดยสารภายในขบวนแต่อย่างใด ที่สำคัญ การรถไฟฯ ยังมีการใช้ช่างบำรุงรักษาของบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ที่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลบำรุงรักษา ระบบงานกว่า 10 ปีเข้ามาช่วยดูแล เพราะเป็นระบบจ่ายไฟเหนือหัวรูปแบบเดียวกับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงค์
นายเอกรัช กล่าวว่า หลังจากนี้การรถไฟฯ ยังคงความเข้มข้นในการยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง โดยทางผู้บังคับการตำรวจรถไฟ และฝ่ายสืบสวน ได้มีคำสั่งแต่งตั้งชุดสืบสวนเพื่อติดตามคนร้ายและทรัพย์สินของการรถไฟฯ เป็นการเฉพาะ โดยมี บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ซึ่งให้บริการเดินรถไฟชานเมืองสายสีแดง และบริษัทรักษาความปลอดภัย จัดชุดเจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวน และสุ่มตรวจในพื้นที่เสี่ยงตลอด 24 ชั่วโมง ขณะเดียวกัน ยังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งกำจัดวัชพืชตลอดแนวรั้วให้โล่ง เพื่อให้สอดส่องดูแลความปลอดภัยอย่างทั่วถึงและป้องกันไม่ให้ใช้เป็นพื้นที่ก่อเหตุ ตลอดจนมีการเสริมแนวรั้วป้องกันเพิ่มเติมในจุดเสี่ยง และติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมเพื่อเสริมมาตรการรักษาความปลอดภัย
“ผู้ว่าการรถไฟฯ สั่งการให้ติดตามดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างถึงที่สุดทั้งทางแพ่งและอาญา พร้อมกับให้ฟ้องร้อง เรียกค่าเสียหายความผิดคดีทางแพ่งเกี่ยวเนื่องในคดีอาญา โดยอยู่ระหว่างรวบรวมค่าเสียหายส่งพนักงานสอบสวน นอกจากนี้จะดำเนินคดีข้อหาบุกรุกพื้นที่การรถไฟฯ และก่อกวนให้เป็นอุปสรรคการเดินรถ รวมถึงการก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินทางราชการอีกด้วย”