ย้อนไปในอดีต เมื่อปี พ.ศ. 2516 ในขณะนั้น ปลาอโรวาน่า หรือปลาตะพัด มีเพียงคนกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น ที่รู้จัก และเริ่มเพาะเลี้ยง โดยเริ่มต้นจากการเฝ้าดูแล สังเกตพฤติกรรม ทดลองเลี้ยงในทุกสภาพแวดล้อม และด้วยใจรักในการเลี้ยงปลาจึงมีการขยายบ่อเลี้ยงออกไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นแหล่งเดียวในเอเชียที่สามารถขยายพันธุ์ปลาชนิดนี้ได้ในเวลานั้น รวมถึงได้รับคำแนะนำเรื่องการเพาะพันธุ์อโรวาน่า จากฟาร์มในประเทศมาเลเซีย ทำให้มีการเพาะพันธุ์อย่างต่อเนื่องจนมีปลาอโรวาน่ากว่า 400 ตัว ในระยะเวลา 3 ปี โดยริเริ่มเลี้ยงปลาอโรวาน่า แบบฝูง ตั้งแต่ 8 ตัว ถึง 200 ตัว ต่อมาในปี พ.ศ. 2542 ได้มีการทำการตลาด เพื่อทำธุรกิจเกี่ยวกับปลาอโรวาน่า โดยได้รับการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่กรมประมง ให้เป็นฟาร์มเพาะเลี้ยงปลาอโรวาน่าเอกชนแห่งแรกของประเทศไทย ด้วยการจดทะเบียนใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่า (สป.9 : ฉบับที่ 27/2556 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2556) กับกรมประมง เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2543 เพื่อดำเนินธุรกิจนำเข้า ส่งออก และเพาะพันธุ์ปลาอโรวาน่า ภายใต้อนุสัญญาไซเตส ทำให้ฟาร์มกลายเป็นผู้นำเข้าปลาอโรวาน่าอย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นรายแรกของประเทศไทย และในปี 2553 ทางฟาร์มได้ประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ปลาอโรวาน่าในบ่อปูนได้เป็นครั้งแรก และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการศึกษา และเก็บพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ปลาอย่างจริงจัง หลังจากนั้นในเดือนพฤษภาคมได้ทำการจดทะเบียนนิติบุคคลในนาม "บริษัท เพื่อพ่อ จำกัด" ด้วยทุนจดทะเบียนกว่า 12 ล้านบาท บนเนื้อที่ประมาณ 200 ไร่ ตำบลเนินหอม อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี มีบ่อดินทั้งสิ้น 49 บ่อ พร้อมระบบจัดการอย่างมีประสิทธิภาพครบครัน จนได้รับมาตรฐานการรับรอง GAP (Good Aquaculture Practices) จากกรมประมง พร้อมกันนั้นก็ได้รับการขึ้นทะเบียนไซเตส (Cites : A-TH-528) จากกรมประมงเป็นที่เรียบร้อย ทำให้สามารถส่งออกลูกปลาที่เพาะพันธุ์ไปยังต่างประเทศได้อย่างถูกต้องตามกฏหมาย ปัจจุบันทางฟาร์มมีพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ปลาอโรวาน่ากว่า 1,000 ตัว ทั้งหมดผ่านการคัดสรรอย่างดี ในเรื่องความสวยงามและความถูกต้องทางสายพันธุ์ มีผลผลิตที่เพาะพันธุ์ได้ไม่ต่ำกว่า 3,000 ตัวต่อปี ปลาทุกตัวผ่านการคัดกรองคุณภาพ ทั้งด้านสุขภาพ, ความสวยงาม, ความถูกต้องของสายพันธุ์เป็นอย่างดี มีการฝังไมโครชิพเพื่อเก็บข้อมูลประวัติก่อนจำหน่ายออกสู่ท้องตลาด เพื่อให้ปลามีคุณภาพดีที่สุด ทั้งนี้นอกจากการส่งออกไปยังต่างประเทศแล้ว ทางฟาร์มเป็นตัวแทนจำหน่ายปลาจากฟาร์มต่างประเทศด้วยเช่นกัน ฟาร์มมีการนำเข้าปลาอโรวาน่าจากฟาร์มชั้นนำในต่างประเทศ จากหลากหลายฟาร์ม และหลากหลายประเทศ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในทุก ๆ กลุ่มให้มากที่สุด และไม่เฉพาะปลาอโรวาน่าเท่านั้น ทางฟาร์มยังประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ปลาช่อนอเมซอน ทำให้ได้รับการอนุญาตจากกรมประมงให้สามารถส่งออกลูกปลาช่อนอเมซอนไปยังต่างประเทศอย่างถูกกฎหมายอีกด้วย สายพันธุ์ปลาอโรวาน่า ภายในฟาร์ม AF AROWANA FARM สายพันธุ์ทองมาเลย์ (MALAYSIAN CROSS BACK GOLDEN) สายพันธุ์ที่พบได้ในประเทศมาเลเซีย มีลักษณะสีทองวาววับตัดกับสีเนื้อเกล็ด ถือเป็นหนึ่งในผลผลิตหลักของ AF Arowana Farm ในปัจจุบันสามารถผลิตสายพันธุ์ทองมาเลย์ได้มากกว่าพันตัวต่อปี โดยจำหน่ายในชื่อ Malaysian Golden และ Malaysian Golden Special สายพันธุ์แดงอินโด (INDONESIAN RED) พบในกาลิมันตันและเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ความเข้มของสีปลาสามารถมีศักยภาพแตกต่างกันของสีตั้งแต่สีเหลือง สีส้ม สีแดงเลือดจนถึงสีแดงพริก ความเข้มและหนาของสีแดงที่มีศักยภาพการพัฒนาที่สูงจะทำให้ปลาเป็นที่ต้องการมาก แต่มักจะเป็นเรื่องยากที่จะแยกแยะความแตกต่าง เมื่อปลายังไม่โตเต็มวัย ปากและแก้มมักจะมีสีแดง ซึ่งสามารถเจริญเติบโตได้ถึง 36-40 นิ้ว สายพันธุ์เอเอฟโกลด์ (AF GOLDEN) ปลาลูกผสมสีทอง ที่ทางฟาร์มพยายามพัฒนาสายพันธุ์ เพื่อให้ผลผลิตที่ได้มีคุณภาพ และความสวยงาม โดดเด่น โดยมีการวางแผนชัดเจน และใส่ใจเรื่องพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่เอาลงบ่อเพาะเป็นอย่างมากว่าต้องสวย และสามารถส่งลักษณะเด่นที่ต้องการสู่รุ่นลูกได้ ซึ่งเป็นการมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาสายพันธุ์มากกว่าหวังจำนวนของผลผลิต นอกจากการเพาะพันธุ์ปลาแล้ว ยังมีอุปกรณ์สำหรับปลาอโรวาน่าจัดจำหน่าย (AF Equipment Store) ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในตู้ปลา หลอดไฟ ยารักษาโรค และวิตามินสำหรับปลา ทางฟาร์มยังร่วมมือกับทางบริษัท ฮิคาริ (Hikari) ผู้ผลิตอาหารปลาของประเทศญี่ปุ่น ในการผลิตอาหารเม็ดสำหรับปลาอโรวาน่า ทำให้การเลี้ยงปลาอโรวาน่าง่ายยิ่งขึ้น ข้อมูลเพิ่มเติม เบอร์โทรศัพท์ : 02-722-6646 , 081-843-6060 , 081-649-1100 Facebook Fanpage: AF AROWANA FARM และ AF Equipment Store Line official : @afarowana Instagram : AF AROWANA FARM E-mail : afarowana@gmail.com website : www.afarowanafarm.com Youtube : AF AROWANA FARM Thailand