“สุขภาพดี” สำหรับความหมายในยุคปัจจุบัน ไม่ได้หมายถึงแค่การไม่เจ็บไข้ได้ป่วย ไม่ต้องกินยาอย่างเป็นประจำ ไม่ต้องควบคุมการรับประทานอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งเป็นพิเศษเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการมีคุณภาพชีวิตประจำวันที่ดี ไม่ต้องพึ่งพาเครื่องมืออุปกรณ์ใดๆ ในการทำสิ่งต่างๆ เช่น รถเข็น ไม้เท้า ที่ช่วยพยุงร่างกาย ฯลฯ ทั้งนี้รวมไปนี้ผลการตรวจสุขภาพประจำปีที่อยู่ในเกณฑ์ปกติอีกด้วย หรือหากจะมีโรคประจำตัวใดๆ ก็ตาม แต่ก็ยังสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างปกติสุข เห็นแบบนี้แล้วอาจจะแปลกใจ รู้สึกเหลือเชื่อไหมว่า “จะทำอย่างไรถึงจะมีสุขภาพที่ดี และสามารถรักษาคุณภาพชีวิตดีๆแบบนี้ไว้ได้ถึงอายุเท่าไหร่?” ข่าวดีสำหรับคุณผู้อ่านที่อ่านบทความนี้ วันนี้ พ.ญ. ณัฐชนากานต์ ณัฐกิตติ์โภคิน มีสิ่งดีๆอยากมาบอกต่ออยากรู้ว่าคืออะไร ก็ตามไปทำความรู้จักกันเลย คำว่า “Anti - Aging” หลายๆคนอาจจะเคยคุ้นหูและผ่านตากันมาบ้าง ซึ่งบางคนอาจจะเข้าใจว่า เป็นการทำหน้าเด็ก ฉีดโบทอกซ์ ร้อยไหม ยกกระชับ กินอาหารเสริม กินวิตามิน เป็นต้น จริงๆศาสตร์แห่งการชะลอวัยหรือ Anti-Aging จะมีคำเต็มๆ ว่า “Anti- Aging & Regenerative Medicine” แปลเต็มๆ คือ ศาสตร์แห่งการชะลอวัยและฟื้นฟู ซึ่งการดูแลรักษาสุขภาพของศาสตร์นี้นอกจากจะช่วยชะลอความเสื่อมได้แล้ว ยังสามารถฟื้นฟูระดับเซลล์ต่างๆ ให้กลับมาทำงานได้ดียิ่งขึ้นด้วย โดยอาศัยองค์ความรู้ในการดูแลสุขภาพในระดับ “Lifestyle” คือ ตั้งแต่การนอนหลับ อาหารการกิน เครื่องดื่มต่างๆ การออกกำลังกาย กิจกรรมต่างๆ ที่ทำในแต่ละวัน ยาประจำที่รับประทานอยู่ การพักผ่อน การฟัง/เล่นดนตรี สิ่งแวดล้อม มลภาวะที่เจอ และรวมไปถึงพฤติกรรมบางอย่างที่แนะให้ควรหลีกเลี่ยง เช่น สูบบุหรี่, ดื่มสุรา, ยาเสพย์ติด เป็นต้น โดยหลักการของการดูแลศาสตร์นี้ จะลงลึกถึงระดับเซลล์ ซึ่งเป็นหน่วยเล็กที่สุดของร่างกาย เมื่อไรก็ตามที่เซลล์ต่างทำงานได้ดี ไม่เสื่อมจากการทำงานหนัก เจอมลภาวะ สารพิษที่เข้าสู่ร่างกายแล้ว ก็จะส่งผลให้เห็นสะท้อนออกมาภายนอก ทั้งในด้านของความแข็งแรง ความดูอ่อนเยาว์ ความคล่องตัวในการทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การเคลื่อนไหว การทรงตัว ประสิทธิภาพในการทำงานก็จะคล่องแคล่วขึ้น ความจำดีขึ้น การคำนวณคิดประมวลสิ่งต่างๆ จะรวดเร็วและแม่นยำขึ้น เมื่อคุณอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว เริ่มมีความสนใจในศาสตร์แห่งการชะลอวัยและฟื้นฟู หรืออยากจะรู้ว่าตัวเองเหมาะที่จะเข้ารับคำปรึกษาและดูแลหรือไม่ หมอจะมีแบบสำรวจด้านล่างนี้ ให้กับคุณผู้ชมได้ลองสำรวจกันดูนะคะว่า เริ่มมีปัญหาต่างๆ เหล่านี้หรือไม่ ดังนี้ ขี้เกียจตื่นนอนตอนเช้า อ่อนเพลีย ไม่มีแรง อยากงีบหลับช่วงกลางวัน ง่วงแต่นอนไม่หลับ มีอาการวิงเวียนศีรษะเวลาเปลี่ยนท่าทาง (ลุก – นั่ง) อยากทานของหวานและของเค็ม ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ ปวดประจำเดือนบ่อย เป็นภูมิแพ้กำเริบบ่อยๆ ท้องอืด อาหารไม่ย่อย ท้องผูก เครียด ซึมเศร้า คุมอาหาร ออกกำลังกายเป็นประจำ แต่น้ำหนักไม่ลดลง รู้สึกดีขึ้นทันทีเมื่อได้กินน้ำตาล ผิวแห้งและแพ้ง่าย หงุดหงิด ไม่ทราบสาเหตุ ร่างกายรู้สึกเหนื่อยล้า เป็นสิวเรื้อรัง รักษาไม่หาย ระบบเผาผลาญทำงานลดลง น้ำหนักขึ้นง่า ปวดศีรษะ หรือปวดตามข้อต่างๆของร่างกาย มีแก๊สในทางเดินอาหารมากผิดปกติ เหนื่อยง่ายและยังอ่อนเพลีย แม้ว่าจะนอนหลับอย่างเพียงพอแล้วก็ตาม รับประทานอาหารบางชนิดไม่ได้ เพราะเมื่อรับประทานแล้วจะมีอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย ประจำเดือนมาไม่ปกติ นอนไม่หลับกลางคืน ถ้าหากว่ามีมากกว่า 3 ข้อขึ้นไป แนะนำว่าให้เข้ามาปรึกษาหมอที่เพจ Doctor24th ดีกว่านะ ช่องทางการติดต่อพ.ญ.ณัฐชนากานต์ ณัฐกิตติ์โภคินผู้ก่อตั้ง 24th Wellness ClinicFacebook Page : 24th Clinic, 24th Wellness Clinic, Doctor24thLine OA: @24thclinic