สุวัจน์” ยกมวยไทย โคราช กระตุ้นเศรษฐกิจ

“สุวัจน์” ยกมวยไทย โคราช
กระตุ้นเศรษฐกิจ

เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 14.30 น.
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา เป็นประธานเปิดงาน การแข่งขันชกมวย “ศึกวันราชภัฎยอดมวยไทยโคราชการกุศล” โดยมี นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อดิศร เนาวนนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา พร้อมคณะกรรมการสภามหาวิทยาลัย คณะกรรมการสมาคมศิษย์เก่า ผู้นำท้องถิ่น ผู้สนับสนุน นักมวย กรรมการตัดสิน เข้าร่วมชมการแข่งขันชกมวยไทยโคราช ณ ยิมเนเซียม (อาคาร 34 ชั้น 3 ) มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

นายสุวัจน์ กล่าวว่าการจัดการแข่งขัน “ศึกวันราชภัฎยอดมวยโคราชการกุศล”วันนี้ เป็นการจัดการชกมวยไทย ที่เป็นศิลปะการต่อสู้ และเป็นวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ซึ่งเรามีความภาคภูมิใจที่คนทั่วโลกเรียก “มวยไทย” ที่มีความแพร่หลาย และได้รับความนิยม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการประชาสัมพันธ์ประเทศ และมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย

เพราะมวยไทยเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในการสร้างรายได้ของกิจกรรมในการท่องเที่ยวไทย และกิจกรรมหลายๆ อย่าง ที่นักท่องเที่ยวนิยมเวลาที่มาเมืองไทย จากการสำรวจส่วนใหญ่ก็มาทานอาหารไทย มาซื้อสินค้าโอทอป ไปเยี่ยมชมศิลปวัฒนธรรมต่างๆ และมีกิจกรรมยอดฮิตก็คือ “มวยไทย” ถือว่ากีฬามวยไทยเป็นกีฬาที่สร้างชื่อเสียง เป็นสิ่งที่สนใจของคนทั่วโลก และเป็นกีฬาที่ยกระดับฐานะทางเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย

“ในวันเวลานี้ เรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเป็นเรื่องสำคัญ เราจึงใช้เรื่องกีฬา เป็นเครื่องกระตุ้นเศรษฐกิจ ถือว่าเป็นมาตรการที่มีความเหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดมวยที่จังหวัดนครราชสีมา ต้องบอกว่าโคราช เป็นเมืองมวย เพราะเป็นเมืองที่มีตำนานมวยไทย ย้อนหลังไปหลายร้อยปี เราจะเห็นต้นกำเนิดของมวยไทยจะมีทั่วภูมิภาค อย่าง ภาคใต้ จะเป็นมวยไชยา, ภาคกลาง มวยพระนคร, มวยลพบุรี, ภาคอีสานมีมวยไทยโคราช ซึ่งแต่ละมวยไทยจะมีต้นตำรับและบุคลิก ท่ามวย แตกต่างกันไป แต่มวยโคราช เป็นต้นตำหรับของการชกมวยในอดีตตกาลหลายร้อยปีสมัยนั้น เราเรียกว่า “มวยคาดเชือก” คือ เอาเชือกด้ายไปชุบแป้ง แล้วก็มาพันมือ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญ และสิ่งสำคัญตอนนั้น ก็มีวิธีการสอนลูกศิษย์ที่แตกต่างกัน”นายสุวัจน์ กล่าวและย้ำว่า

โคราชเป็นเมืองมวย นักมวยไทย เมืองโคราช รุ่นเดิมที่มีชื่อเสียงมาจนถึงทุกวันนี้ก็คือ หมื่น ชงัดเชิกชก, ยัง หาญทะเล, รุ่นนี้ต่อยสมัยเป็นคาดเชือก และต่อมาก็เป็นรุ่นนักมวยที่มีความยิ่งใหญ่ของวงการนักมวยหลายคน อาทิ “สุข ปราสาทหินพิมาย” หรือ “ยักษ์สุข ผีโขมด” ที่บ้านรังกาใหญ่ อำเภอพิมาย, “วิหค เทียมกำแหง” ถือว่าเป็นนักมวยไทย ที่มีศิลปะไหว้ครู ที่มีความสวยงามที่สุด และ “ประยุทธ์ อุดมศักดิ์” เจ้าของฉายา”สุภาพบุรุษที่ราบสูง” หรือว่า ประยุทธ์ “ม้าสีหมอก” และจนถึงทุกวันนี้ เราก็มีนักมวยที่สร้างชื่อเสียง อย่าง “สุริยา ปราสาทหินพิมาย” หลานชายยักษ์สุข ได้เหรียญจากการแข่งขันโอลิมปิก ถือว่าโคราชเป็นเมืองมวยอดีตตกาลมาจนถึงทุกวันนี้

“วันนี้ เป็นวันสำคัญฉลองครบรอบ 99 ปี ของมหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา ซึ่งมีภารกิจที่สำคัญคือ การตอบสนองความต้องการของท้องถิ่น และมีบทบาทสำคัญในการเข้าไปพัฒนาความสำคัญของมวยไทยโคราช ในการที่จะสืบสานและฟื้นฟู ด้วยการเข้าไปบ้านรังกาใหญ่ เข้าไปทำงานด้านวิชาการ เก็บภาพ หลายร้อยๆภาพ ที่ต้องอนุรักษ์เอาไว้ และต่อไปก็จะเป็นสถานที่ในการท่องเที่ยวต้นตำรับมวยไทยโคราช ซึ่งที่พิมาย เป็นวิวัฒนาการการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวเชิงศิลปะการต่อสู้ มวยไทยโคราช และเป็นการหยิบยกของดีเมืองโคราช ผ่านวัฒนธรรมการต่อสู้มวยไทยโคราช เพื่อมากระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่เฉพาะแต่จังหวัดนครราชสีมา แต่เป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวให้กับประเทศด้วย” นายสุวัจน์ กล่าว