“ไพโรจน์” ตลาดสุรนารี ขอบคุณความยุติธรรม ที่ยังคุมครองสิทธิใน”ตลาดสุรนารี”ปมปัญหาของ”ตลาดสุรนคร”หรือ “ตลาดสุรนารี”ตลาดกลางค้าส่งพืชผัก-ผลไม้ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่กลายเป็นมหากาฬ 30 ปี…วันนี้ ปิดตำนานแล้ว เมื่อศาลสถิตยุติธรรมตัดสินให้ห้างฯ อุ้มบุญธุรกิจ ชนะคดี ที่ดินตลาดจึงตกกลับคืนสู่ ตระกูลสุวรรณชาติ …ผู้จัดการมรดกเข้ารับพื้นที่ ต่อจากห้างฯอุ้มบญธุรกิจ ซึ่งเช่าที่ดินมาจากนายสนิทและนางประกอบ สุวรรณชาติ (เสียชีวิตแล้ว) เนื่องจากห้างฯอุ้มบุญธุรกิจ ถูกศาลสั่งให้เลิกห้างไปแล้ว และอยู่ระหว่างการชำระบัญชีของกรมบังคับคดี จึงต้องส่งมอบที่ดินและกิจการตลาดคืนให้กับผู้จัดการมรดก เพื่อบริหารจัดการต่อไป โดยบริษัท ตลาดสุรนารี จำกัด ซึ่งจัดตั้งโดยลูกหลานสุวรรณชาติ ได้เช่ากิจการตลาดจากผู้จัดการมรดก และทายาททั้ง 8 คน และเข้าบริหารตลาดในนาม “ตลาดสุรนารี “ ในปัจจุบัน ล่าสุด ปรากฏว่าเกิดกระแสข่าว “ตลาดสุรนารี” มีการทวงสิทธิในกรรมสิทธิที่ดินและการบริหารตลาดจากบุคลภายนอก ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ?“ไพโรจน์ สุวรรณชาติ” ผู้จัดการมรดก หนึ่งในทายาททั้ง 9 ของตระกูลสุวรรณชาติ และ “สุขเกษม สิงหกลางพล”ทนายที่ปรึกษากฎหมายผู้จัดการมรดกสุวรรณชาติ มีคำตอบ…อยากทราบที่มาของ “ตลาดสุรนารี”ไพโรจน์ : วันนี้ ผมต้องขอบคุณศาล ที่ได้ให้ความเป็นธรรมครอบครัวของเรา ในการตัดสินคดีที่ยกฟ้องโจทย์ ที่ฟ้องขอให้หนึ่งในทายาทของเราและผู้จัดการมรดก ทั้ง 6 คน ปฏิบัติตามสัญญา เพื่อส่งมอบการบริหารกิจการตลาดให้กับโจทย์ ซึ่งศาลกรุณาให้ความเป็นธรรมยกฟ้องเรา ซึ่งในรายละเอียดคดี ผมจะมอบให้ทนายที่ดูแลตระกูลเราได้อธิบายต่อไปทนายสุขเกษม : จากการที่ผู้จัดการมรดกได้ให้บริษัท ตลาดสุรนารี จำกัด เช่าทำตลาดสุรนารีแล้วมีบุคคลที่กล่าวอ้างว่ามีสิทธิในตลาด แล้วก็ได้ทำการฟ้องผู้จัดการมรดก เพื่อขอให้ส่งมอบสิทธิการบริหารตลาดให้กับผู้ที่กล่าวอ้างนั้น ณ วันนี้ ศาลท่านได้ให้ความยุติธรรม ได้ตัดสินยกฟ้องโจทย์ โดยเห็นว่าโจทย์ไม่มีสิทธิตามกฎหมายในการที่จะใช้สิทธิในการเข้าบริหารตลาด“ผมในฐานะทนายความขอยืนยัน ตามคำพิพากษา ณ วันนี้ ผู้ที่มีสิทธิบริหารตลาดสุรนารี โดยชอบกฎหมาย คือ กองมรดก และบริษัท ตลาดสุรนารี จำกัด เท่านั้น”ทนายสุขเกษม : สำหรับประเด็น ทายาท 1 ใน 9 คน ที่ได้มีข้อพิพาทกับเจ้าหนี้รายหนึ่งถึงขั้นฟ้องบังคับคัดนั้น เจ้าหนี้จะติดตามยึดทรัพย์สิน หนี้สินของลูกหนี้ย่อมเป็นสิทธิตามกฎหมาย อันเป็นเรื่องปกติ ซึ่งต้องดูข้อเท็จจริงด้วย แต่ถ้าเจ้าหนี้ กล่าวอ้างถึงทายาทคนหนึ่งในตระกูลสุวรรณชาติ ซึ่งมีบุตร 9 คน ว่าเป็นลูกหนี้ก็มีเพียงแค่ 1 คนเท่านั้น จะเหมาร่วมทั้งหมดเลย ว่าเป็นของลูกหนี้ ก็ไม่ใช่กล่าวคือ ที่ดินทั้งหมดของนายสนิทและนางประกอบ สุวรรณชาติ มีบุตรเป็นทายาท 9 คน ที่ดินบางส่วนได้มีการโอนและแบ่งมรดกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในส่วนที่ดินที่เจ้าหนี้ของ 1 ใน 9 ทายาทสุวรรณชาติ ที่จะยึดได้ก็คือ ในส่วนของลูกหนี้ที่จะได้รับเท่านั้น แต่จะไปยึดในส่วนของบุคคลอื่นไม่ได้ขยายความปมห้างฯ )อุ้มบุญธุรกิจ กับบริษัท สุรนครเมืองใหม่ จำกัดทนายสุขเกษม: คือ เรื่องการโอนสิทธิ มันเป็นการโอนสิทธิของห้างหุ้นส่วนอุ้มบุญธุรกิจ จำกัด (ที่ศาลได้มีคำสั่ง ให้เลิกห้าง) ซึ่งประเด็นก็มีเรื่องกฎหมาย ในทางปฏิบัติเยอะ เรื่องตอนนี้ มันเป็นเรื่องของการชำระบัญชี เป็นการรวบรวมทรัพย์สินลูกหนี้ เจ้าหนี้ แล้วมาหักลบกลบหนี้ ถ้าเหลือทรัพย์ ที่หุ้นส่วนแต่ละคนจะได้รับ ถึงจะทำการรับสิทธิผลประโยชน์ จากการชำระบัญชีเสร็จสิ้นแล้ว มิใช่ว่าจะมามีสิทธิ ในการดำเนินใดๆ ได้ในขณะนี้กล่าวคือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อุ้มบุญธุรกิจ ฟ้องร้องกับ บริษัท สุรนครเมืองใหม่ จำกัด ซึ่งเป็นผู้บริหารตลาดเดิม เป็นคดีรวมมา 30 ปี ณ วันนี้ คดีก็ยังไม่ถึงที่สุดคดียังอยู่ที่ศาลฎีกา ซึ่งเราก็ไม่ทราบว่า ศาลฎีกา ท่านจะมีการพิพากษาลงมาเมื่อไร แต่เมื่อมีคำพิพากษาลงมาแล้ว ปกติลูกหนี้ ตามคำพิพากษาก็ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล ถ้ากรณีที่ศาลมีคำสั่งให้มีการชำระหนี้ให้กับโจทย์ เมื่อมีการชำระหนี้แล้ว และก็นำมาหักกลบลบหนี้กับบรรดาทรัพย์สินต่างๆ แล้ว ผู้รับโอนสิทธิ์ถึงจะมีสิทธิ์ ได้รับปัจจุบันสิทธิในที่ดินและการบริหารตลาดเป็นของใครทนายสุขเกษม : ผมขอยืนยันตามคำพิพากษา ณ. วันนี้ว่า ผู้ที่มี สิทธิในตลาดสุรนารีโดยชอบด้วยกฎหมาย ณ ปัจจุบันนี้ ยังคงเป็นของกองมรดก และทายาททั้ง 8 คน ซึ่งบริษัท ตลาดสุรนารี จำกัด ได้เช่าจากกองมรดกไปบริหารจัดการในขณะนี้ความยุติธรรมเกิดขึ้นตระกูลสุวรรณชาติไพโรจน์ : วันนี้ผมสบายใจระดับหนึ่ง ที่ศาลให้ความยุติธรรม ความเป็นธรรมกับครอบครัวเรา ที่ยังมีสิทธิในที่ดินตลาดสุรนารีคุณไพโรจน์ยังมีความไม่สบายใจอะไรอีกบ้างไพโรจน์ : เป็นเรื่องของทายาทเราคนหนึ่งไปเป็นหนี้ ทั้งการเป็นหนี้ห้างฯ อุ้มบุญ และเป็นหนี้ในฐานะส่วนตัว ซึ่งเรายังกังวลอยู่ว่าเหมือนมีการเข้ามาเกินส่วน เข้ามารุกล้ำ เข้ามาในส่วนของทายาททั้ง 8 ด้วย ซึ่งจริงๆ แล้ว ต้องมีการจำกัดวงของหนี้ของหนึ่งในทายาทของเรา อยู่แค่นั้น แต่กลับกลายเข้ามารุกลาม เข้ามาในส่วนของทายาทของคนอื่นๆ ด้วย