ร่วมลงทุนกับ D’Oro แฟรนไชส์กาแฟที่ทำให้การเป็นเจ้าของร้านกาแฟไม่ใช่เรื่องยาก

การเปิดร้านกาแฟยังคงเป็นธุรกิจในฝันของใครหลายๆ คน แต่การเลือกซื้อแฟรนไชส์ที่ถูกต้องจะทำให้การทำธุรกิจมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น โดยเลือกลงทุนกับแบรนด์ที่มีประสบการณ์ มีการดูแลหลังการเปิดร้าน และพร้อมดูแลตลอดอายุสัญญา


D’oro แบรนด์กาแฟของไทย ที่สนับสนุนคนไทย และมีประสบการณ์มานานกว่า 20 ปี และให้ความสำคัญกับมาตรฐานทั้งเครื่องดื่มและเบเกอรี่ ตั้งแต่การปลูก คั่ว ชง โดยการออกแบบขึ้นตอนการปฏิบัติงานให้ง่ายสำหรับพนักงาน ในส่วนของเบเกอรี่ที่ขายในร้าน D’Oro ก็มาจากโรงงานผลิตเบเกอรี่ของบริษัทเอง เพื่อควบคุมคุณภาพให้ได้มาตรฐานตั้งแต่ระดับการผลิตจนไปถึงมือลูกค้า


D’Oro เปิดรับผู้ประกอบการที่สนใจอยากมีร้านกาแฟสดที่มีคุณภาพและมาตรฐาน มีทั้ง Coffee และ Non-Coffee รวมถึงเบเกอรี่หลากหลายชนิดกว่า 100 รายการ เพื่อเพิ่มยอดขาย และยอดเฉลี่ยต่อบิลให้สูงขึ้น อีกทั้งยังพร้อมดูแลและแนะนำโปรโมชั่นต่างๆ ทั้งออนไลน์ และ ออฟไลน์ การันตีด้วยรางวัล Best Medium Franchise รางวัลแฟรนไชส์ไทยขนาดกลางยอดเยี่ยม ปี 2020 จากเวที Thailand Franchise Awards โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า


การเปิดร้านกาแฟ D’oro สามารถเปิดร้านได้ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ในหลากหลายสถานที่ เช่น สถานีบริการน้ำมัน, มหาวิทยาลัย, โรงพยาบาล, อาคารสำนักงานหรือในทำเลที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย โดยบริษัทจะมีทีมสำรวจความเป็นไปได้ในการดำเนินธุรกิจก่อนการเปิดร้านอีกด้วย


D’oro ยังมีการพัฒนาระบบแฟรนไชส์ รวมถึงระบบสนับสนุนการขายอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง ที่ช่วยให้การเปิดร้านกาแฟเป็นเรื่องง่ายขึ้น เน้นย้ำการเตรียมความพร้อมตั้งแต่เริ่มแรก รวมถึงแฟรนไชส์ทุกรายจะต้องผ่านหลักสูตรอบรมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฎิบัติ ผ่านการประเมินหลักสูตรฝึกอบรมแฟรนไชส์ก่อนเปิดร้าน มีทีมงานฝึกอบรมเข้าช่วยเหลือในช่วงเปิดร้าน และ มีทีมงาน Area Coach เข้าให้คำแนะนำการทำงานของสาขาทุกเดือนตลอดระยะสัญญา

การลงทุนแฟรนไชส์ D’Oro เริ่มต้นเพียง 1 ล้านบาท ประกอบไปด้วยค่าแรกเข้า 350,000 บาท, งบลงทุนก่อสร้างและตกแต่งร้านตามขนาดพื้นที่ และ อุปกรณ์ประกอบการขายนอกเหนือจากการดูแลอย่างใกล้ชิดในการเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มธุรกิจ Franchise D’Oro แตกต่างจากการเปิดร้านขายกาแฟสดธรรมดา ด้วย
1. การพัฒนาเมนูเครื่องดื่มและเบเกอรี่อย่างต่อเนื่อง มีสินค้า Seasonal Product ออกใหม่สม่ำเสมอเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค รวมถึงมีการจับมือกับ Brand อื่นๆเพื่อออกสินค้าที่น่าสนใจ เช่น Campaign D’Oro x Ovaltine ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
2. มีการจัดหลักสูตรฝึกอบรมพนักงานอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการปรังปรุงคู่มือการปฏิบัติงาน
3. ระบบหลังบ้านที่ช่วยให้ Franchisee เห็นข้อมูลการขายของตัวเอง นำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อวางแผนสั่งวัตถุดิบได้อย่างแม่นยำ และสามารถสั่งซื้อวัตถุดิบได้อย่างง่ายดายได้ในระบบเดียว
4. ระบบ CRM ที่มีสมาชิกมากกว่า 5 แสนราย ซึ่งเก็บข้อมูลทุกการใช้จ่ายโดยละเอียด จนนำข้อมูล Big Data มาปรับใช้ในการทำกิจกรรมทางการตลาด Personalize Marketing ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและตอบโจทย์ลูกค้า
5. Partnership Marketing เช่น การจับมือกับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ และ แพลตฟอร์มการขายออนไลน์ ในการรับคูปองส่วนลดไปใช้ที่หน้าร้าน รวมถึงการสั่งผ่าน Delivery Application เพื่อเพิ่มช่องทางการขายนอกร้าน


สนใจ / สอบถามเพิ่มเติม

Website : https://www.d-oro.coffee/franchise
Facebook : D’Oro Thailand
Instagram : d.orothailand
Line Official : @franchised-oro

Facebook : https://th-th.facebook.com/D.OroThailand.1999/ Instagram : https://www.instagram.com/d.orothailand/