สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จัดงาน The Secret of Financial e-Transaction: ไขทุกความลับ ปลดล็อกทุกธุรกรรมการเงินแห่งโลกอนาคต เปิดเวทีแลกเปลี่ยนมุมมอง จับมือ 2 พาร์ทเนอร์สำคัญ สำนักงาน กสทช. NDID พร้อมผู้ให้บริการด้านการเงิน อัปเดตบริการ เปิดโลกการทำธุรกรรมการเงินอนาคต มั่นใจปลอดภัย ด้วย Digital ID สู่ Ecosystem ของการยืนยันตัวตนบนโลกออนไลน์ ดร.ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) กล่าวว่า งานนี้จัดขึ้นภายใต้ แคมเปญ MEiD บริการไทย…ไร้รอยต่อ ที่ ETDA จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเฟสที่ 2 แล้ว เพื่อให้คนไทย เกิดความรู้ความเข้าใจถึงความสำคัญและประโยชน์ของการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล หรือ Digital ID ผ่านสื่อสารในรูปแบบที่เข้าถึงและเข้าใจง่าย บนช่องทางสื่อโซเชียลมีเดีย รวมถึงกิจกรรมการแลกเปลี่ยนมุมมอง จากกูรู ผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องที่อยู่เบื้องหลังของการร่วมสร้าง Ecosystem การยืนยันตัวตนทางออนไลน์ ที่ทำให้ทุกการทำธุรกรรมมีความน่าเชื่อ มั่นใจ ปลอดภัยจากการปลอมแปลง โดยในครั้งนี้ เราเน้นในมุมของการทำธุรกรรมการเงิน เพราะเป็น Sector แรกที่มีการนำ Digitgal ID เข้ามาใช้ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนแก่ผู้ใช้บริการได้อย่างเป็นรูปธรรม และทุกคนไม่ว่าอาชีพไหนต่างก็ให้ความสำคัญ ซึ่งงาน The Secret of Financial e-Transaction จึงเป็นเวทีที่ทำให้คนไทยได้เห็นภาพชัดยิ่งขึ้นว่า Digital ID จะเข้ามาช่วยปลดล็อกการทำธุรกรรมออนไลน์ของเราให้ง่าย สะดวก ปลอดภัยอย่างไร ในยุคที่ทุกอย่างก้าวสู่โลกดิจิทัล โดยสมบูรณ์ ด้าน คุณพลอย เจริญสม ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ETDA ผู้เชี่ยวชาญด้านมาตรฐาน กฎหมายดิจิทัล กล่าวว่า เรามีบัตรประชาชน เพื่อเป็นสิ่งที่ยืนยันว่านี่คือเราจริงๆ ไม่ใช่คนอื่น แต่พอการทำธุรกรรมอยู่ในโลกออนไลน์ เราใช้บัตรแสดงตัวตนไม่ได้ Digital ID จึงเป็นหนึ่งโซลูชันทางเลือกที่นำบัตรประชาชน หรือ ข้อมูลส่วนบุคคล ที่บ่งบอกว่าเป็นเรามาอยู่ในรูปแบบดิจิทัล เพื่อให้เราสามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ทางออนไลน์ได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของการเงิน แน่นอนว่า คนที่เป็นเจ้าของเงินก็ต้องการป้องกันให้เงินของตนเองปลอดภัย สถาบันการเงินที่เรานำเงินไปฝาก เขาจึงอยากที่จะปกป้อง รักษาเงินของเราให้ดีที่สุด โดยเฉพาะในมุมของการทำธุรกรรมทางออนไลน์ที่จะทำอย่างไรให้เจ้าของเงินไม่ต้องเดินทางมาทำที่ธนาคารทุกครั้ง ซึ่ง Digital ID จะเป็น ตัวแปรสำคัญที่ทำให้สถาบันการเงินรู้ว่าเป็นเราจริงๆ และมีสิทธิในเงินนั้นๆ โดยที่ไม่ใช่ใครมาสวมรอย ซึ่งการที่เราจะได้มาซึ่ง Digital ID ที่น่าเชื่อถือ เป็นไปตามที่มาตรฐาน ETDA กำหนดนั้น เราจะต้องนำบัตรประชาชนไปลงทะเบียนเพื่อขอ Digital ID กับผู้ให้บริการ สถาบันการเงิน เพื่อนำบัตรประชาชนไป Dip Chip เพื่อตรวจสอบทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ KYC ตรวจสอบข้อมูลบัตรประชาชน และยังต้องตรวจสอบใบหน้าเพื่อยืนยันอัตลักษณ์ว่าเป็นเราตัวจริง ด้วยระบบไบโอเมตทริก นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมการลงทะเบียนเพื่อขอ Digital ID ถึงต้องมายืนยันตัวตนแบบออฟไลน์ และมีขั้นตอนการพิสูจน์ที่ค่อนข้างซับซ้อน เพราะ Digital ID เป็นเรื่องของความมั่นคง ปลอดภัย เรายืนยันตัวตนยุ่งยากแค่ครั้งแรกเท่านั้น ครั้งต่อๆ ไป เราสามารถทำธุรกรรมการเงินที่บ้านหรือที่ไหนก็ได้ ลดภาระในเรื่องการเดินทาง หรือการรอคิวนานๆ ที่สำคัญ โอน ถอน เงินมั่นใจ ปลอดภัยด้วย ขณะที่ คุณอรวรี เจริญพร ผู้อำนวยการสำนักบริหารและจัดการเลขหมายโทรคมนาคม สำนักงาน กสทช. กล่าวเสริมว่า บริการ Mobile ID ที่กสทช. ดูแลอยู่เป็นอีกหนึ่งบริการทางเลือกสำหรับประชาชนที่อยากจะมี Digital ID เพราะบทบาทหนึ่งของ กสทช. คือการกำกับดูแลผู้ให้บริการเครือข่าย ซึ่งทุกครั้งที่เราไปเปิดเบอร์หรือใช้บริการที่เครือข่ายต่างๆ ผู้ให้บริการแต่ละเครือข่ายจะมีการขอบัตรประชาชน เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์ของเราอยู่แล้ว ดังนั้น จะดีกว่าไหมถ้าเราผูกข้อมูลอัตลักษณ์เหล่านี้ไว้กับเบอร์มือถือ จึงเกิดบริการ Mobile ID ขึ้นมา เพื่อให้คนไทยได้ใช้เลขโทรศัพท์มือถือแทนบัตรประชาชน สามารถทำธุรกรรมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการกับเราได้ง่ายๆ โดยเจ้าของเบอร์มือถือ สามารถเดินทางไปลงทะเบียนเพื่อขอ Digital ID กับผู้ให้บริการเครือข่ายได้ทุกค่าย โดยจะต้องพกบัตรประชาชนตัวจริงไปด้วย เนื่องจากการยืนยันครั้งแรกจะต้องเก็บข้อมูลจากบัตรจริงๆ แล้วเก็บภาพถ่ายอัตลักษณ์ของเราไว้ เพื่อยืนยันว่าเป็นเราจริงๆ ซึ่งใช้เวลาไม่นานก็สามารถมี Digital ID ได้ โดยบริการที่มีการเชื่อมต่อระบบกับ Mobile ID ที่สามารถใช้บริการได้แล้ววันนี้ ได้แก่ การเปิดบัญชีกับธนาคารกรุงเทพทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ การติดต่อรับส่งพัสดุกับไปรษณีย์ไทย ส่วนบริการด้านอื่น ๆ กับหน่วยงานภาครัฐก็กำลังจะตามมา ทั้งด้านขนส่งฯ สรรพากร ประกันสังคม แล้วก็มีหน่วยงานกลุ่มคุ้มครองเงินฝากและกลุ่มตลาดหลักทรัพย์ เป็นต้น ซึ่งหากผู้ใช้บริการมีเบอร์โทรศัพท์อยู่หลายค่าย สามารถขอ Digital ID ได้ทุกเบอร์ ทุกค่าย เพราะเราเปิดกว้างสำหรับการจัดการชีวิตของประชาชนหากต้องการแยกเบอร์ที่แตกต่างกันในการทำกิจกรรมที่ต่างกัน ด้านคุณบุญสันต์ ประสิทธิ์สัมฤทธิ์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เนชั่นแนลดิจิทัลไอดี จำกัด หรือ NDID กล่าวว่า ถ้ามองในมุมของการทำธุรกรรมทางการเงินผ่าน Mobile Banking ณ วันนี้เราจะเห็นว่า มีประชาชนอยู่ประมาณราว 30 ล้านคนที่พร้อมใช้งาน Digital ID เราจัดตั้ง NDID มา 2-3 ปีแล้ว โดยให้บริการในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล ในภาคธุรกิจธนาคาร และกลุ่มบริษัทจัดการกองทุนรวม หลักทรัพย์ และประกันต่างๆ และในช่วงโควิดที่ผ่านมา ส่งผลให้มีการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านบริการที่เชื่อมต่อกับ NDID ถึง 5 แสนรายการ ต่อเดือน Digital ID นับเป็นวิวัฒนาการของโลกการเงินที่มีความปลอดภัยมากกว่าสำเนาบัตรประชาชน เราจึงต้องเร่งขยายรูปแบบการใช้งานออกไปให้กว้างขึ้น ซึ่งปัจจุบัน คุณสามารถทำธุรกรรมการเงิน โดยไม่ต้องไปธนาคารได้แล้วกว่า 11 สาขา และวันนี้มีคนที่ลงทะเบียนผ่าน NDID มาแล้วประมาณ 5 ล้านบัญชี และสำหรับใครที่อยากมี Digital ID สามารถสมัครผ่านธนาคารหรือคอลเซ็นเตอร์ธนาคารนั้นๆ ได้ทันที สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือความรู้ดีๆ เกี่ยวกับ Digital ID เพิ่มเติมได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก MEiD มีไอดี (https://www.facebook.com/meid.thailand) LINE OA: @meid_thailand Twitter: @meid_thailand หรือ Email: meidthailand.official@gmail.com