เดิมทีการรักษาอาการนอนกรนในทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพ มีผลลัพธ์ที่ชัดเจนและเป็นที่ยอมรับจากแพทย์ทั่วโลก คือการใช้วิธีการผ่าตัด แต่ในปัจจุบันได้มีเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนามาเพื่อการรักษาอาการนอนกรนโดยเฉพาะ นั่นคือนวัตกรรมรักษาการนอนกรนด้วยเลเซอร์ ที่มีความแพร่หลายและถูกใช้ในทางการแพทย์หลายแห่ง เนื่องด้วยการรักษาด้วยเลเซอร์สามารถทำได้ง่าย ไม่เจ็บปวดเหมือนวิธีการรักษาการนอนกรนแบบเก่า แต่กลับได้ผลลัพธ์ในการรักษาที่ดีเยี่ยม โดยการเลเซอร์นั้นจะใช้พลังงานความร้อนจาก Erbium:YAG laser ที่ปรับค่าเหมาะสม ทำให้กล้ามเนื้อและเยื่อบุเพดานอ่อนและลิ้นไก่หดตัวยกขึ้น จากการกีดขวางทางเดินอากาศของหลอดลมช่วงบน ที่เป็นสาเหตุหลักของการนอนกรน เมื่อเทียบกับการผ่าตัดจะให้ความคุ้มค่าทั้งทางด้านราคาที่ไม่แพง และไม่เจ็บตัว หลังการรักษาอาจจะมีอาการระคายคอเล็กน้อยแต่จะกลับมาปกติในเวลาไม่กี่ชั่วโมง และไม่มีผลต่อการดำเนินชีวิตใดๆ นอกจากนี้นวัตกรรมการรักษาการนอนกรนนั้น ยังมีข้อดีในแง่ที่ว่าผู้ที่มีอาการนอนกรนและกลัวการผ่าตัด กลัวมีดหมอนั้น สามารถที่จะเข้ารับการรักษาด้วยเลเซอร์แทนได้ อีกทั้งยังไม่ต้องเสียเวลาในการพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลนานหลายวันเหมือนกับการผ่าตัดอีกด้วย การรักษาอาการนอนกรน มีความเหมาะสมกับผู้ป่วยที่มีภาวะนอนกรนเป็นอย่างมาก เนื่องจากการนอนกรนนั้นส่งผลกระทบและส่งผลเสียหลายๆ อย่าง ทั้งในแง่ของการใช้ชีวิต การทำงาน หรือแม้กระทั่งการนอนหลับในตอนกลางคืน เพราะอาจหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (OBSTRUCTIVE SLEEP APNEA : OSA) จนทำให้นอนหลับได้ไม่สนิท ซึ่งเป็นปัญหาของการนอนหลับที่พบบ่อย ในคนอายุ 30-35 ปี โดยจะพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง และเมื่ออายุมากขึ้น อาการนอนกรนก็จะเพิ่มขึ้นตามอายุอีกด้วย รวมถึงในกลุ่มคนที่น้ำหนักตัวมาก ก็พบได้บ่อยเช่นเดียวกัน โดย พญ.รัตตินันท์ ตรีรัตน์ จาก รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ได้ให้สัมภาษณ์ข้อมูลเกี่ยวกับผลเสียและผลกระทบที่เกิดจากภาวะนอนกรนไว้ว่า “การนอนกรนมีผลเสียด้วยกันหลายข้อค่ะ ในข้อแรกนะคะ คนที่มีภาวะนอนกรน สมองเขาจะได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอขณะนอนหลับ ทำให้ความดันโลหิตสูง สมองไม่แจ่มใส ความจำไม่ดี และบางครั้งก็จะง่วงนอนในตอนกลางวันหรือขณะขับรถ เรามักจะเห็นข่าวบ่อยๆใช่ไหมคะว่าบางคนหลับในจนทำให้เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ หรือเห็นข่าวพนักงานในโรงงานเกิดการวูบหลับขณะทำงานจนบางรายเสียชีวิตเพราะโดนเครื่องจักรหนีบ นอกจากนี้การนอนกรนยังส่งผลกระทบต่อคนรอบข้าง เนื่องจากเสียงดังจากการนอนกรน อย่างเช่นสามีภรรยาที่นอนด้วยกันอาจจะเกิดการนอนไม่หลับได้ เพราะคู่นอนของตัวเองนอนกรนเสียงดัง ในบางคู่ก็แยกห้องนอนกัน หรือคนโสดที่นอนกรนก็จะมีปัญหาขาดความมั่นใจในการเข้าสังคมอย่างเวลาไปเที่ยวกับเพื่อนฝูงใช่ไหมคะ เขาก็อาจจะเขินอาย โดนเพื่อนล้อว่านอนกรนเสียงดัง เหมือนที่เราเคยได้ยินคนพูดเล่นกันว่านอนกรนเสียงดังเหมือนเฮลิคอปเตอร์ ส่วนผลเสียอีกข้อหนึ่งที่นับว่าเป็นสิ่งที่ร้ายแรงอย่างมากนั่นคืออาจทำให้ผู้ที่มีภาวะนอนกรนนั้นเกิดการหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งเป็นอันตรายแก่ชีวิต หมอเลยอยากแนะนำว่าผู้ที่มีอาการนอนกรนควรที่จะต้องรีบเข้ารักษาเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายแก่ชีวิต และจะได้ใช้ชีวิตให้มีความสุข ไม่ต้องคอยหลับๆ ตื่นๆ ไม่ต้องคอยง่วงนอนตอนกลางวันด้วยค่ะ ซึ่งจากผลการรักษาด้วยเลเซอร์กับกลุ่มคนไข้ที่ผ่านมา พบว่าเพดานผนังช่องลมที่เคยหย่อนลงปิดกั้นช่องลม มีการหดตัวยกขึ้นหลังจากทำการรักษา และให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นเรื่อยๆ จนอยู่ในระดับที่เป็นปกติ” พญ.รัตตินันท์ ตรีรัตน์ กล่าว สำหรับใครที่มีปัญหานอนกรน หรือคนในครอบครัวนอนกรน ต้องการปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินในการดูแลรักษา รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ เปิดให้บริการวันจันทร์ - วันเสาร์ เวลา 10.00 น. – 20.00 น. สำรองคิวล่วงหน้าเพื่อรับคำปรึกษา สามารถสอบถามได้ที่ 086-570-7040 Line @rattinan Facebook : Rattinan Medical Center ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ https://www.rattinan.com