“สุวัจน์” สานพลังอุดมศึกษาพัฒนาโคราช กับ “อเนก รมว.อว” ทำ MOU จัดการศึกษา 3 ฉบับ วาง “ยูเนสโก รูท” เพื่อการท่องเที่ยวและพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน วันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 ณ ห้องประชุมสุวัจน์ ลิปตพัลลภ 2 อาคารยุพราชเบญจมงคล มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์และนวัตกรรม(อว.) ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง ความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่างมหาวิทยาลัยกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพื่อขับเคลื่อนนโยบายกระทรวง อว.ด้านการสร้างและพัฒนาคนให้เป็น Smart Citizen เปิดโอกาสเท่าเทียมกันในการเรียนรู้ตลอดชีวิตทุกช่วงวัย (Life Long Learning) โดยจัดทำข้อตกลงความร่วมมือ 3 ฉบับ ดังนี้ 1.ความร่วมมือว่าด้วยเครือข่ายคลังหน่วยกิตระหว่างมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลอีสาน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี, มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา 2.ความร่วมมือว่าด้วยการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาบุคลากรแบบ 2 ปริญญา ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 กองบิน 1 ตำรวจภูธรภาค 3 ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 3 จังหวัดนครราชสีมา3.ความร่วมมือว่าด้วยการจัดการศึกษาเชิงบูรณาการกับการทำงาน และบริการวิชาการเพื่อพัฒนาท้องถิ่นระหว่างศูนย์การค้าเซ็นทรัลโคราช และมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา “โคราช เป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ด้านวัฒนธรรม soft power คือ มีภาษาเป็นโคราช อาหารโคราช เครื่องแต่งกายโคราช เพลงโคราช มวยโคราช บทบาทของราชภัฏฯ กับการรักษา การอนุรักษ์ การต่อยอด soft power เพื่อจะเป็นพื้นฐานของการสร้างความรัก ความสามัคคี เป็นพื้นฐานในการที่จะเปลี่ยน soft power ให้เป็น economic power เปลี่ยนพื้นฐานด้านวัฒนธรรมให้มาสนับสนุนเรื่องเศรษฐกิจเป็นสิ่งที่ม.ราชภัฏฯ ทำและต่อยอดจากสถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหิน เริ่มมีการค้นคว้าขุดลงไปเจอ ซากช้างโบราณ เต่าโบราณ ซากไดโนเสาร์ ซากฟอสซิลต่างๆ เรียกว่า “อุทยานธรณีโคราช” คุมพื้นที่ 5 อําเภอ อําเภอเมือง ขามทะเลสอ สูงเนิน สีคิ้ว และเฉลิมพระเกียรติ เป็นพื้นที่ฟอสซิล ที่สะสมมานับล้านล้านปี กลายเป็น “อุทยานธรณีโคราช” โดยราชภัฏฯ เป็นผู้ดูแล” และขยายผลเป็น “อุทยานธรณีโลก Global Geopark “ ล่าสุด นําเข้าสู่ที่ประชุมยูเนสโก ส่งตัวแทนมาตรวจพื้นที่ทั้ง 5 อำเภอของอุทยานธรณีโคราช รอเพียงนําเข้าที่ประชุมใหญ่ของยูเนสโก เดือนเมษายนปี 2566 ถ้ามีการประกาศรับรองโคราชจะมีอุทยานธรณีโลกเกิดขึ้น ประเทศไทยมีอุทยานธรณีโลกหนึ่งแห่ง คือ จังหวัดสตูล โคราชจะเป็นจังหวัดเดียวในประเทศไทย และเป็นจังหวัดที่สามในโลก ที่มีสามสิ่งอยู่ด้วยกัน คือ 1.มรดกโลก เขาใหญ่ 2.แหล่งสงวนชีวมณฑล สะแกราช อ.ปักธงชัย 3.ถ้าเรามีอุทยานธรณีโลก โคราชเราจะเป็นจังหวัดเดียวที่มีทั้งสามสิ่ง เรียกว่า Triple Crown ในโลกมีจังหวัดที่มีสามสิ่งมีอยู่สองประเทศ คือ เกาหลี อิตาลี ถ้าโคราชได้เป็นอุทยานโลกจะเป็นจังหวัดที่สามในโลกที่มีสามมงกุฏ “ถ้าเราบูรณาการสามมงกุฎ เข้าไว้ด้วยกัน แล้วสร้างให้เกิดความยิ่งใหญ่ เหมือนเราเป็นเมืองมรดกโลก ดีไซน์ให้เป็น UNESCO route เป็นถนนท่องเที่ยวยูเนสโก เรื่องชุมชน เรื่องเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยว มีความง่ายในการเข้าถึง มีโอทอป หมู่บ้านชุมชนที่จะต้อนรับ ซึ่งการดีไซน์เป็นเรื่องใหญ่ อาจจะเป็นการรวมพลังของมหาวิทยาลัยต่างๆ เข้ามาร่วมมือกันพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก”