"สุวัจน์" การันตีคัมแบ๊กยิ่งใหญ่จัดศึกเทนนิส "ไทยแลนด์ โอเพ่น 2023" นักหวดระดับโลกตบเท้าร่วมชิงชัยต่อเนื่องหลังจบ "ออสเตรเลียน โอเพ่น" ด้าน "สุชัย" นายกเทนนิสไทย ยันหนุนเต็มสูบ ช่วยพัฒนาวงการเทนนิสไทย รวมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว วันที่ 10 พ.ย. 2565 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วย นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม นายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทยฯ, นายประกิตติ์ พิริยะเกียรติ ประธานจัดการแข่งขันเทนนิสหญิง รายการ ไทยแลนด์ โอเพ่น 2023 และนายภราดร ศรีชาพันธุ์ ผู้อำนวยการการจัดการแข่งขันฯ ร่วมกันให้สัมภาษณ์พิเศษเกี่ยวกับการจัดการแข่งขันเทนนิสหญิง รายการ ไทยแลนด์ โอเพ่น 2023 ณ ห้องประชุม บ้านเลขที่ 333 ถนนราชวิถี (ซอย 20) แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพฯการแข่งขันเทนนิสหญิง รายการ "ไทยแลนด์ โอเพ่น 2023" เป็นการแข่งขันอาชีพระดับ ดับเบิลทีเอ ชิงเงินรางวัลรวม 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 9,375,000 บาท จัดการแข่งขันที่สนามเทนนิส ภายใน ทรู อารีน่า หัวหิน สปอร์ตคลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างวันที่ 30 ม.ค. - 5 ก.พ. 2566 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เปิดเผยว่า เทนนิส ไทยแลนด์ โอเพ่น เคยจัดการแข่งขันมาแล้ว 2 ครั้ง ที่ ทรู อารีน่า หัวหิน สปอร์ต แต่จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้หยุดไปเมื่อปี 2020-2021 หลังสถานการณ์คลี่คลาย และรัฐบาลเปิดประเทศ ทางผู้จัดการแข่งขันโดย กลุ่มบริษัท พราว และทรู อารีน่า หัวหิน สปอร์ต คลับ รวมทั้งผู้สนับสนุน และสมาคมกีฬาสอนเทนนิสฯ ได้หารือร่วมกันและจะกลับมาจัดการแข่งขันอีกครั้ง เพื่อความสุขของคนไทย และแฟนกีฬาเทนนิส รวมทั้งเป็นการสร้างนักกีฬาเทนนิสไทย และยังเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกด้วย "ทางผู้จัดได้แจ้งทางสมาคมเทนนิสอาชีพหญิง (ดับเบิลยูทีเอ) แล้วว่า ปีนี้พร้อมที่จะกลับมาจัดการแข่งขันเหมือนเดิม และดับเบิลยูทีเอก็รู้สึกยินดี โดยจะเริ่มชิงชัยรอบเมนดรอว์ วันที่ 30 ม.ค. 2566 และรอบชิงชนะเลิศ วันที่ 5 ก.พ. 2566 เชื่อว่านักเทนนิสระดับโลกจะมาเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก เพราะเป็นรายการต่อเนื่องจากแกรนด์ สแลม ออสเตรเลียน โอเพ่น (วันที่ 16-29 ม.ค. 2566) และจะมาแข่งขันต่อที่เมืองหัวหิน ซึ่งมีบรรยากาศของเมืองท่องเที่ยว ด้วยองค์ประกอบต่างๆ ทั้งด้านความพร้อม และปฏิทินการแข่งขันที่ลงตัว ทำให้มั่นใจว่าครั้งนี้จะยิ่งใหญ่แน่นอน" นายสุวัจน์ กล่าวอีกว่า ดับเบิลยูทีเอจะเปิดรับสมัครนักกีฬาผ่านเว็บไซต์ และจะปิดรับสมัครก่อนแข่งขัน 6 สัปดาห์ ซึ่งตอนนั้นจะทราบรายชื่อผู้เล่นที่จะลงแข่งขัน และจะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง แต่เชื่อมั่นจะมีนักเทนนิสดังมาแข่งขัน และจะช่วยดึงดูดแฟนกีฬาเทนนิสได้ เพราะนักหวดดังๆ ต่างรู้จักสนาม ทรู อารีน่า หัวหิน สปอร์ต คลับ ที่มีความทันสมัย และใช้จัดทัวร์เมนต์ระดับโลกมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยมาตรฐานครบทุกด้าน และครั้งนี้จะเป็นโอกาสในการโชว์ศักยภาพอีกครั้ง ถือเป็นหน้าเป็นตาของประเทศไทย "นอกจากนี้ ทางผู้จัดจะมอบไวลด์การ์ดให้กับนักกีฬาไทย ทั้งประเภทเดี่ยว ประเภทคู่ ซึ่งได้หารือกับนายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสฯ ว่าจะพิจารณามอบให้กับผู้เล่นคนใดที่อยากจะปั้นขึ้นสู่วงการเทนนิสต่อไป ยืนยันว่าแฟนเทนนิสจะได้ชมแมตช์ที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก ซึ่งจะเผยแพร่ประเทศไทยผ่านการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก โดยถือเป็นเรื่องดีต่อวงการกีฬาไทย และด้านเศรษฐกิจของประเทศด้วย รวมทั้งการเพิ่มนักท่องเที่ยวให้กลับมาเที่ยวเมืองไทยตามเป้าหมายเดิม 40 ล้านคนต่อปี"