นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า ประธานเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดภูเก็ต ของพรรคฯ โดยมีนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรค นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ประธานที่ปรึกษาพรรค พันเอกวินัย สมพงษ์ ที่ปรึกษาพรรค นายอรรถวิทย์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค และนายอรัญ พันธุมจินดา ผู้อำนวยการพรรค พร้อมทีมคณะผู้บริหารพรรคชาติพัฒนากล้า เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2565 เวลา 14.00 น. ณ เซ็นทรัล ภูเก็ต นายสุวัจน์ กล่าวว่า ชาติพัฒนากล้า ได้มาเปิดตัวผู้สมัครอย่างเป็นทางการ จังหวัดภูเก็ตถือว่าเป็นจังหวัดแรกที่พรรคชาติพัฒนากล้า มาเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันนี้ พรรคชาติพัฒนากล้ามากันครบทีม เราสะสมบุคลากรที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาประเทศทั้งบุคลากรในเชิงประสบการณ์ และบุคลากรในเชิงเศรษฐกิจ ฉะนั้น ผมมีความมั่นใจมากๆ ที่จะบอกกับพี่น้องประชาชนว่า เรามีคนที่พร้อมจะมาทํางานให้กับพี่น้องประชาชน “ผมรับตําแหน่งประธานพรรคดูแลเรื่องนโยบายทุกด้านที่จะมาแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน และอีกคณะหนึ่งในการผลักดันการบริหาร ในการนํานโยบายไปทํางานให้พี่น้องประชาชนให้สําเร็จ นําโดยหัวหน้าพรรค กรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีการคลัง และเทวัญ ลิปตพัลลภ อดีตรัฐมนตรีสำนักนายก ในฐานะเลขาธิการพรรค ฉะนั้น อยากให้พ่อแม่พี่น้อง สบายใจ มั่นใจกับพรรคชาติพัฒนากล้า ว่า มวยเก๋า ผู้มากประสบการณ์ อยู่ครบทีม แทบจะทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเศรษฐกิจ” นายสุวัจน์ กล่าวว่าปัญหาและโจทย์ของประเทศไทย วันนี้ สาหัสที่สุด หนักที่สุด สําหรับปัญหาที่เกิดขึ้นกับประเทศ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ ถือว่าเป็นเรื่องที่เจ็บปวด เป็นเรื่องที่เชื่อว่าพี่น้องประชาชนต้องการที่จะเห็นการเลือกตั้งเพื่อที่จะตอบโจทย์ว่าใครจะมาแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน สาเหตุที่สําคัญที่มีเรื่องเศรษฐกิจเกิดขึ้น ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องโควิดเกือบ 3 ปี ทําให้ทุกอย่างหยุดชะงักหมด ทําให้เศรษฐกิจไม่ดี เราต้องกู้หนี้มาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจภาครัฐ พี่น้องประชาชนต้องกู้หนี้มาแก้ไขปัญหาก็คือ รัฐบาลต้องกู้มาสร้างหนี้สาธารณะ GDP ก็ลดลงมาเรื่อยๆ สําคัญที่สุดคือ เรื่องหนี้สิ้นของพี่น้องประชาชน การว่างงานต่างๆ นอกจากนี้ ยังมาเจอเรื่องสงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ก่อให้เกิดปัญหาเรื่องน้ํามันแพง ปัญหาเรื่องเงินเฟ้อ ปัญหาเรื่องแก๊ส ตัดวงจรการผลิตต่างๆ ตอนนี้โลกทั้งโลกวุ่นวายสองเรื่อง คือ เรื่องโควิดกับเรื่องสงคราม ส่งผลกระทบเรื่องธุรกิจ เรื่องนักท่องเที่ยว เรื่องเงินเฟ้อ เรื่องดอกเบี้ยสูง เรื่องหนี้สินที่เกิดขึ้น เรื่องการไม่มีงานทํา ผู้ประกอบการ SME เดือดร้อนมาก โดยเฉพาะภูเก็ต เดือดร้อนมากที่สุดคือ เรื่องนักท่องเที่ยวหายไป อ่านต่อ (ในลิงค์ เชื่อมโยงด้านล่าง)