นายณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประธานฝ่ายบริหารกลุ่มบริษัท MTS Gold Group เปิดเผยว่า MTS Gold ยังคงมุ่งมั่นและพัฒนามาตรฐานของสินค้าและการบริการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้คนไทยได้รับประโยชน์สูงสุด และเข้าถึงการใช้บริการด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้า ให้สามารถลงทุนทองคำได้อย่างสม่ำเสมอและยั่งยืน เพราะการขายทองไม่จำกัดอยู่แค่เพียงตู้แดงเท่านั้น โดยได้พัฒนารูปแบบการออมทองออนไลน์ โดยใช้นวัตกรรม Blockchain ที่จะมาช่วยควบคุมให้เกิดความปลอดภัย และสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ลงทุนว่าจะไม่มีความเสียหายด้านข้อมูล ทองคำ และการทำธุรกรรม ยิ่งไปกว่านั้น ยังเพิ่มโอกาสการลงทุนเทรดทองออนไลน์ ที่อ้างอิงราคาตลาดโลก แต่ซื้อขาย ถอนทองจริง ได้สะดวกมากขึ้น ผ่าน Gold Wallet บนแอปฯ เป๋าตัง ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่มีความคาดหวังในความปลอดภัยและง่ายในการเข้าถึงบริการ และยังได้รับรางวัลระดับโลกกับการเป็นโบรกเกอร์ซื้อขายทองคำที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยรางวัล Worldwide Finance 2022 (Best Gold Trading Broker in South East Asia) ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะสร้างมาตรฐานคุณภาพและการให้บริการของ MTS Gold ทำให้ได้รับรางวัลจากทาง Superbrand ซึ่งเป็นรางวัลอันทรงเกียรติ ที่มอบให้องค์กรที่มีความเป็นเลิศในการสร้างแบรนด์ ให้แข็งแกร่งและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ครอบคลุมทั้งด้านคุณภาพของแบรนด์ (Brand Quality) ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ (Reliability) รวมถึงเอกลักษณ์และความโดดเด่นของแบรนด์ (Distinction) ซึ่งได้รับการยอมรับเป็นอย่างสูงจากผู้บริโภคในประเทศไทย รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิในสายงานด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ การประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชนและตัวแทนคณะกรรมการอิสระผ่านการสำรวจการตลาดจากทั่วประเทศ “จากความสำเร็จที่ผ่านมา เรายังคงเดินหน้าต่อในการพัฒนาระบบซื้อขายทองคำ เพื่อให้คนไทยได้เข้าถึงการบริการที่ดีที่สุด ในการทำธุรกรรมออนไลน์ที่ตอบโจทย์คนใช้งานยุคใหม่ได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะซื้อขายทองคำ หรือการถอนทองคำจริงด้วยการคงคุณภาพและมาตรฐานเดียวกับที่ได้รับการยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้คนยุคใหม่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ในการซื้อขายทองคำ 96.50% ผ่านแพลตฟอร์มออมทองของแม่ทองสุก MGB หรือ ซื้อขายทองคำ 99.99% ผ่าน Gold Wallet บนแอปฯ เป๋าตัง ที่เป็นแอปฯธนาคารชั้นนำระดับประเทศ โดยการใช้ Technology Blockchain ในการเชื่อมต่อเป็นรายแรกของไทย” นายณัฐพงศ์ กล่าว ความสนใจของนักลงทุนถึงบริการต่างๆ ของ MTS GOLD ที่ผ่านมา ทำให้ปีนี้บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของธุรกิจต่างๆไม่ต่ำกว่า 10 % โดยตลอด 4 ปีที่ผ่านมา บริการออมทองเติบโตไม่ต่ำกว่า 200 % ขณะที่ Gold Wallet ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีและล้นหลาม โดยคาดว่าจะมีโอกาสเติบโตได้มากถึง 100 % จึงทำให้ทาง MTS Gold มีแผนที่จะต่อยอดระบบการซื้อขายของบริษัทให้ก้าวสู่ความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น เพื่อให้คนไทยได้รับโอกาสเข้าถึงแหล่งของทองคำที่เหนือชั้นและได้ประโยชน์สูงที่สุดจากการใช้บริการกับ MTS Gold นอกจากธุรกิจทองคำแล้ว MTS GOLD ยังสนับสนุนให้คนไทยได้เปิดประสบการณ์ในการลงทุนในตลาดอนุพันธ์ หรือ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า ทั้ง TFEX และตลาดซื้อขายที่ใหญ่ที่สุดระดับโลกอย่าง CME Group ด้วย ซึ่งถือเป็นการเพิ่มทางเลือกและโอกาสในการลงทุนทั้งทองคำ หรือสินค้าที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมของนักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนไทยจะได้เข้าไปสัมผัสกับการซื้อขายทัดเทียมกับนักลงทุนทั่วโลกในตลาด CME