ก้าวแรกพระบรมศาสดา ต้อนรับคณะจาก เนปาล มาพิสูจน์ฝีมือคณะแพทย์ศิริราช ทำสถิติผ่าเปลี่ยนข้อเข่า-สะโพก 72 ข้อ รพ.อุตรดิตถ์ 3-6 มีนาคม 2566

ก้าวแรกพระบรมศาสดา ต้อนรับคณะจาก เนปาล มาพิสูจน์ฝีมือคณะแพทย์ศิริราช ทำสถิติผ่าเปลี่ยนข้อเข่า-สะโพก 72 ข้อ รพ.อุตรดิตถ์ 3-6 มีนาคม 2566

วันที่ 4 มีนาคม 2566 เวลา 10.00 น. ห้องประชุม อาคาร 100 ปี โรงพยาบาลศูนย์อุตรดิตถ์ ศ.นพ. กีรติ เจริญชลวานิช ประธานมูลนิธิศัลย์ฯสร้างข้อต่อชีวิต นายกสมาคมออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย กล่าวว่าโครงการก้าวแรกของพระบรมศาสดา เพื่อผู้ป่วยยากไร้กระดูกและข้อ ณ ประเทศเนปาล โดยภาควิชาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์และภาพกายบำบัด คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ร่วมกับมูลนิธิเก้ายั่งยืน จุดประกายขึ้นด้วยแนวคิดว่าการช่วยเหลือเพื่อนมนุษยชาติไม่ควรจํากัดเชื้อชาติ ศาสนา เพศ วัย สถานะ หนึ่งในสิ่งที่พวกเราได้รวมตัวกันช่วยอีกครั้งหนึ่งก็คือ เรามีโอกาสที่จะได้ไปดูแลชาวเนปาลที่ลุมพินี ซึ่งลุมพินีเป็นสถานที่แรก คือ ก้าวแรกของพระบรมพระพุทธศาสดา ซึ่งท่านได้มีก้าวเดินแรก หลังจากประสูติ

ฉะนั้น ในครั้งนี้เราจะไปคืนคุณค่าชีวิตของชาวเนปาลให้กลับมาเดินได้ ณ สถานที่พระองค์ประสูติคือ ลุมพินี จะไปที่ประเทศเนปาล จังหวัดลุมพินี เพื่อผ่าตัดให้คนไข้ที่เดินไม่ได้กลับมาเดินได้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล รัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 จึงจะมีจํานวนคนไข้ทั้งหมด 19 คน 19 ข้อ ที่เราจะไปช่วยเหลือชาวเนปาลในครั้งนี้

“พวกเราหมายถึงแพทยศาสตร์ ภาควิชาออร์โธปิดิกส์ และภาพกายบําบัด คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ศิษย์เก่า ศิษย์ที่เป็นผลผลิตของภาควิชาออร์โธปิดิกส์ ศิริราช และพี่น้องร่วมวิชาชีพทุกๆ ท่านที่มีจิตศรัทธา มีความรู้ ความสามารถก็จะไปรวมตัวผนึกกําลังกัน เพื่อไปช่วยเหลือชาวต่างชาติ ครั้งนี้ครั้งแรก เพื่อเดินตามรอยเท้าของพระพุทธองค์ก็คือ ครั้งแรกที่ลุมพินีนี้ 19 คน ซึ่งตั้งใจว่าจะเป็นวันที่ 1- 6 ตุลาคม 2566 “ ศ.นพ. กีรติ กล่าว

คุณหมอกีรติ กล่าวว่าเมือกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาได้เดินทางไปสำรวจพื้นที่ที่โรงพยาบาลลุมพินีมาแล้ว และเป็นเรื่องแปลกและบังเอิญมากว่าโรงพยาบาลที่จะใช้ผ่าตัดในครั้งนี้ ชื่อว่าโรงพยาบาลสิทธัตถะ ไม่น่าเชื่อว่าเป็นโรงพยาบาลตามที่โครงการที่เราจะเดินตามพระพุทธองค์ก็มีชื่อ โรงพยาบาลด้วย

วันนี้ได้รับเกียรติจากคณะผู้ประสานงานชาวเนปาล คือ (Maj.Gen.Prof.Dr.Kishore JB Rana (Retd.) เป็นคุณหมอหัวใจของชาวเนปาล และ Arjun Paudel Managing Director (Siddharthanagar City Hospital Pvt.Ltd. พร้อมด้วยคณะ คุณสุจินตนา จรรยาทิพย์สกุล ประธานมูลนิธิเก้ายั่งยืน ได้เดินทางมาดูงานที่โรงพยาบาลศูนย์อุตรดิตถ์ โดยมูลนิธิศัลย์ฯสร้างข้อต่อชีวิตผนึกกำลังร่วมกับโรงพยาบาลศูนย์อุตรดิตถ์ ผ่าตัดให้คนไข้ 72 ข้อ ซึ่งเราทำมาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 19 ตามชื่อโครงการ “HAPPY WALK ครั้งที่ 19” เลยถือโอกาสให้คณะแพทย์เนปาล มาดูงานเพื่อเตรียมความพร้อมที่จะทําโครงการร่วมกันในตุลาคมปีนี้

โครงการ “HAPPY WALK ครั้งที่ 19” ทำการผ่าตัดในวันที่ 3-6 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งผู้ป่วยด้อยโอกาสของ จ.อุตรดิตถ์ ที่เข้ารับการผ่าตัดในครั้งนี้ ถือว่ามีเคสที่มีอาการข้อเสื่อม ขาผิดรูปแบบรุนแรงหลายราย โดยทีมแพทย์ของมูลนิธิ ได้ประชุมกันอย่างละเอียดถึงวิธีการ และกระบวนการผ่าตัดรักษาอย่างดีที่สุด มั่นใจได้ว่าผู้ป่วยไม่ว่ารุนแรงแค่ไหน ก็จะกลับมาเดินได้อย่างภาคภูมิใจในความเป็นมนุษย์ โดยไม่เป็นภาระใครอย่างแน่นอน

ที่สำคัญ เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับชาวเนปาลในด้านการรักษาพยาบาลของทีมคณะแพทย์ไทยที่จะเดินทางในโครงการก้าวแรกของพระบรมศาสดา เพื่อผู้ป่วยยากไร้กระดูกและข้อที่ประเทศเนปาล

ด้าน คุณสุจินตนา จรรยาทิพย์สกุล ประธานมูลนิธิเก้ายั่งยืน กล่าวว่าวันนี้มาดูงานของคุณหมอเกรียติ ที่โรงพยาบาลศูนย์อุตรดิตถ์ พร้อมคณะแพทย์เนปาลและเจ้าของโรงพยาบาลสิทธัตถะ ที่ลุมพินีมาดูการทำงานของทีมคุณหมอ เขาจะได้เข้าใจระบบการทำงาน ซึ่งคิดว่าตอนนี้เรามีความมั่นใจ ทางเนปาลเองก็มั่นใจและมีความเข้าใจมากขึ้น ในการทําโครงการนี้

“เราจะทำให้คนเนปาลได้มีการก้าวใหม่ เดินใหม่ของชีวิตใหม่ เราจะไปมอบสิ่งนี้ ที่เป็นสิ่งที่คนทั่วโลกไม่ว่าเราชาติใด ภาษาใดก็เป็นสิ่งที่ทําให้ความเบิกบานใจ การที่เราเห็นคนหนึ่งมีความทุกข์ แล้วช่วยคนหนึ่งให้หายทุกข์ มันเป็นความรู้สึกที่หาค่าไม่ได้ ความเป็นมนุษย์ของเรานั้น เราอยากให้ทุกคนมีความสุข คือ การช่วยกันต่อความรู้สึกที่ดีๆ ให้กัน มันก็จะทําให้โลกมีความสุข ไม่เกิดความรู้สึกว่าเราคิดอยู่คนเดียว หรือทุกข์ของเราไม่มีใครเห็น เราอาจจะเห็นได้ไม่หมด แต่เป็นเหมือนขวดทราย จะมีทรายบางเม็ดที่เราเก็บขึ้นมา และมีบางเม็ดที่ยังอยู่บนกองทรายนั้น”

คุณสุจินตนา กล่าวว่าคณะแพทย์เนปาล ดีใจมากที่ได้เห็นการทำงานของทีมแพทย์ไทย ได้เห็นคุณหมอ ทําการผ่าตัดให้คนไข้ 72 ข้อเขาเห็นทีมงานของคุณหมอแล้วเขารู้สึกว่า คุณหมอทําเรื่องความเบิกบาน ทำด้วยความรู้สึก สนุกไม่เครียดเลย หมอทุกคนไม่มีคนไหนเครียดเลย เขาตกใจมาก เขามีความรู้สึกว่าหมอที่ยืนแล้วคนห้ามเข้ามาใกล้หรือมีความรู้สึกว่าเวลาที่เข้าห้องผ่าตัดแล้วมันเครียด เพราะมันต้องให้ความสำคัญ และรู้สึกว่าซีเรียสกับเคสที่กําลังทําอยู่ แต่ทําไมคนที่มาช่วยหรือคณะคุณหมอมาช่วย ทุกคนมีความเบิกบาน ทําด้วยความชํานาญ มีความมั่นใจมาก เขาเลยไม่รู้สึกว่าจะต้องกลัวเคสอะไรที่จะเกิดขึ้น ก็เหมือนกับเราทําสมาธิแล้วทําบ่อยๆ มันก็เกิดความมั่นใจว่าสิ่งที่เราทํานั้นมาถูกทางแล้ว

“วันนี้ คุณหมอใช้เวลาในการฝึกฝน ความสามารถต้องผ่านมาเยอะจริงๆ แล้วมีอารมณ์ทำแบบนี้ ทำแบบมืออาชีพ คือ ทําด้วยความไม่เครียด อันนี้เป็นสิ่งที่สุดยอดของวันนี้ที่เห็นว่าทุกคนทําด้วยความเบิกบานใจ”

นอกจาก การผ่าตัดรักษาคนไข้แล้ว ทางทีมคุณหมอกีรติ ยังจะมีการแลกเปลี่ยนความรู้ทางการแพทย์และมีเรื่องเทคโนโลยีชั้นสูงที่อาจารย์จะไปมอบชาวเนปาล ความรู้ในการผ่าตัดให้คนไข้ ความรู้ในการรักษาคนไข้ ที่เป็นแบบสมัยใหม่ที่อาจารย์ได้ศึกษาค้นคว้า และผ่านประสบการณ์มามากมายก็จะมอบประสบการณ์ดีๆ เหล่านี้ในด้านออร์โธปิดิกส์ให้เนปาล ซึ่งเขาจะได้เรียนรู้เหมือนกับเราได้ครูไปสอนให้เขาเป็นครู เป็นหมอที่ดีที่จะช่วยคนในประเทศเขาสามารถช่วยตัวเองได้ในอนาคต ก็เป็นแบบอย่างของการให้ความรู้ที่ยั่งยืน และเขาสามารถจะช่วยคนเนปาลได้ตลอดไป เพราะการที่ชาวเนปาล ถ้าเจ็บป่วยด้านเข่า ข้อกระดูก ต้องไปรักษาที่ประเทศอื่น คือ ต้องใช้งบประมาณสูง คนจนเหล่านั้นไม่สามารถเดินทางไปได้ เมื่อมีโอกาสเราก็จะช่วยให้เขาพ้นทุกข์

“หลายคนถามว่าทำไมต้องมาช่วยเนปาลก็เหมือนที่คุณหมอกีรติ บอกว่าการช่วยเหลือเพื่อนมนุษยชาติไม่ควรจํากัดเชื้อชาติ ศาสนา เพศ วัย สถานะ ในประเทศไทยคุณหมอทําทุกที่ๆคุณหมอไปได้และยังทําไม่หยุด แต่วันนี้ เป็นโปรแกรมเสริมที่เราไปทําให้ดินแดนพระพุทธองค์ คือ ดินแดนที่พระพุทธศาสดาได้ถือกําเนิดมา ทําให้พวกเรานั้น มีความเมตตา กรุณา ทําให้ชีวิตของพวกเราดีขึ้น เชื่อได้ว่าผู้มีความเมตตากรุณาอย่างน้อยชีวิตและมีความสุขในการที่ได้ช่วยคนอื่น”

คุณสุจินตนา กล่าวว่าสุดท้ายนี้ขอกําลังใจของคนไทย สายบุญ ที่มาช่วยเติมกําลังใจให้กับโปรเจ็คนี้ เรียกว่างาน “บุญต่อบุญ”โครงการนี้ได้นับความเมตตาจากพระราชภาวนาวชิรกร (หลวงพ่ออินทรถวาย สัตตุสโก) พระราชวชินธรรมาจารย์ (หลวงพ่อสุธรรม สุธรรมโม) พระธรรมศากยวงศ์วิสุทธิ์ (อนิลมาน ธัมมสากิโย) ท่านเห็นความสําคัญของการช่วยชีวิตคน ชีวิตมนุษย์ทุกคนมีความหมาย ท่านคิดถึงพระองค์ศาสดา ท่านบอกว่าไปทําบ้านพ่อเราเถอะดีมาก ท่านให้ความร่วมมือ ท่านช่วยทอดผ้าป่าสามัคคี ในวันอาทิตย์ที่ 9 เมษายนนี้ ณ สวนแสงธรรม พุทธมณฑลสาย 3 เพื่อช่วยหาทุนที่จะให้คุณหมอ ได้ไปช่วยประเทศยากจนที่เราคิดว่าอาจจะเป็นก้าวแรกเท่านั้น ก้าวแรกของพระองค์พระศาสดา ก้าวไปทุกทิศทุกทาง จากก้าวแรกที่ท่านได้ประสูติ จนท่านปรินิพพานนั้น ท่านได้ทำประโยชน์มหาศาลให้กับมวลมนุษย์

“เราเป็นอิฐ เป็นทราย เป็นหินก้อนเล็กๆ ที่อยากจะเดินตามรอยพระพุทธบาท ท่านไปเหยียบที่ไหน เราก็จะตามไปกราบเท้าท่าน คําสอนของท่านจึงทําให้เรานั้นได้กราบท่านด้วยธรรมะของท่านก็คือ ความมีเมตตากรุณา มุทิตา อุเบกขา ทุกอย่างเราต้องวางได้ ที่ใจเช่นนี้ในการเป็นพรหมเป็นมนุษย์ของเรา” สุจินตนา กล่าว

Facebook : https://www.facebook.com/jaocatswatch/posts/pfbid0vxXW5dqRFJWDphUSAMfSLXrcWGgTKFWRvNewassXnAmtEUeP6fNf2VPt1a5pK4gsl Twitter : https://twitter.com/catswatchonline/status/1632100519333474304?s=20 Instagram : https://www.instagram.com/p/CpYWBK5S_PG/?utm_source=ig_web_copy_link
Youtube
: https://youtu.be/WaiFTO2e1Xg
TikTok
: https://www.tiktok.com/@jaophoto2022/video/7206763636717604098?is_from_webapp=1&sender_device=pc&web_id=7120046212380837377