เพจ Torpenguin - ผู้ชายขายบริการ ร่วมกับ TVD Broker เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “Restaurant Worry Free ประกันภัยสำหรับร้านอาหารโดยเฉพาะ” ประกันภัยแบบครอบคลุมทุกอุบัติเหตุ
หากวันนี้คุณเปิดร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขนม bakery ต่างๆ ร้านที่เป็นทั้งความฝันและความหวังทั้งหมดของคุณ ร้านที่เป็นแหล่งรายได้สำคัญ ร้านที่เป็นทุกๆ อย่าง อย่าเสี่ยงให้ความฝันของคุณกับความไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้นได้เสมอ "การทำประกันภัย" ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่คนทำร้านอาหารอย่างเราไม่ควรมองข้ามทำไมร้านอาหารถึงควรมีประกัน
ประกันภัย ได้แบ่งประเภทของการประกันภัยออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
1. การประกันภัยบุคคล (Insurance of the person) เป็นการประกันภัยเกี่ยวกับภัยที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือที่เกิดกับบุคคล ได้แก่
- การประกันชีวิต
- การประกันอุบัติเหตุ
- การประกันสุขภาพ
2. การประกันภัยทรัพย์สิน (Property Insurance) เป็นการประกันที่บริษัทผู้รับประกันภัยทำสัญญายินยอมที่จะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนหรือชดใช้เงินจำนวนหนึ่งให้กับผู้เอาประกันภัย ในกรณีที่เกิดความเสียหายเกี่ยวกับทรัพย์สินที่เอาประกัน ได้แก่เป็นการประกันที่บริษัทผู้รับประกันภัยทำสัญญายินยอมที่จะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนหรือชดใช้เงินจำนวนหนึ่งให้กับผู้เอาประกันภัย ในกรณีที่เกิดความเสียหายเกี่ยวกับทรัพย์สินที่เอาประกัน ได้แก่
- การประกันอัคคีภัย
- การประกันภัยทางทะเลและขนส่ง
- การประกันภัยรถยนต์
- การประกันภัยเบ็ดเตล็ด
3. การประกันภัยเกี่ยวกับความรับผิดตามกฎหมาย (Liability Insurance) เป็นการประกันภัยที่เกิดขึ้นโดยผลของกฎหมาย ที่เกิดจากการประมาทเลินเล่อของผู้เอาประกันภัย บุคคลในครอบครัว หรือลูกจ้างของผู้เอาประกันภัยที่ทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บ เจ็บป่วย หรือทรัพย์สินเสียหาย ซึ่งสามารถแบ่งประเภทการประกันภัยเกี่ยวกับความรับผิดตามกฎหมาย แบ่งออกได้กว้างๆ ดังนี้
- การประกันภัยความรับผิดต่อสาธารณะ (Public Liability Insurance)
- การประกันภัยความรับผิดจากผลิตภัณฑ์ (Product Liability Insurance)
- การประกันภัยความรับผิดจากวิชาชีพ (Professional Liability Insurance)
แล้วประประกันภัยสำหรับร้านอาหารโดยเฉพาะ แตกต่างกับประกันภัยทั่วไปอย่างไร ?
ประกันภัยทั่วไปจะดูแลความเสี่ยงภัยของทรัพย์สินจากการไฟไหม้ ฟ้าผ่า น้ำท่วม และภัยธรรมชาติอื่นๆ หรือบางประกันภัยอาจจะมีการคุ้มครองตัวอาคารเครื่องใช้ไฟฟ้า จากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้เท่านั้น
แต่สำหรับประกันภัยร้านอาหารโดยเฉพาะ จะเป็นประกันภัยแบบ All Risk ที่คุ้มครองทั้งทรัพย์สิน และยังคุ้มครองครอบคลุมไปถึง “บุคคลที่3” หรือ “ลูกค้า” ของเรา ที่อาจจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น เช่น อุบัติเหตุภายในร้าน การเสียชีวิตหรือบาดเจ็บจากอาหารและเครื่องดื่ม
5 ข้อดีของการทำประกันภัย
1. หากเกิดความเสียหาย ก็ได้รับค่าชดใช้ การประกันภัยไม่ได้เป็นสิ่งที่จะทำให้ความเสี่ยงหรืออุบัติเหตุหายไป แต่การประกันภัยจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและช่วยแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าด้านการเงิน
2. เป็นการให้หลักประกันต่อทั้งตัวเองและครอบครัว ประโยชน์จากประกันภัยที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คือ การทำประกันชีวิต เช่น หากพ่อหรือแม่เสียชีวิตโดยทำประกันชีวิตไว้ ก็จะได้รับการชดเชยเป็นเงินก้อนให้กับผู้เอาประกัน ซึ่งอาจเป็นภรรยาหรือลูกก็ได้ ทำให้สมาชิกครอบครัวไม่ต้องลำบากและสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้
3. ช่วยปลูกฝังนิสัยการออมและการประหยัด นอกจากการทำประกันจะช่วยบริหารความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นแล้ว ยังช่วยปลูกฝังนิสัยการออมและการประหยัด ซึ่งส่งผลให้มีเงินไว้ใช้ยามฉุกเฉิน หรือวัยชราได้อีกด้วย
4. ช่วยให้เกิดความมั่นคงในการประกอบธุรกิจ การประกันภัยสามารถให้เครดิตและเป็นหลักประกันแก่นักธุรกิจที่ต้องการลงทุนทำการค้าต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
5. ช่วยให้มีหลักประกันความปลอดภัย การทำประกันส่งผลให้มีหลักประกันความปลอดภัย เราสามารถมั่นใจได้ว่า หากมีความเสียหายเกิดขึ้นเราก็จะได้รับการชดใช้
ทำไมร้านอาหารถึงต้องทำประกันภัย
1. แม้การประกันภัยไม่ได้เป็นการทำให้ความเสี่ยงหรืออุบัติเหตุหายไป แต่การประกันภัยจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าด้านการเงิน ดังนั้นการจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยจะจ่ายในจำนวนที่เล็กน้อย เมื่อเทียบกับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น จึงช่วยป้องกันไม่ให้ต้องเสียเงินเยอะในกรณีที่เกิดความเสียหายขึ้นจริง โดยบริษัทประกันภัยจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายแทน
2. ประกันธุรกิจอาจไม่ใช่สิ่งแรกๆ ที่ท่านนึกถึงตอนเริ่มเปิดกิจการ เราทราบดีว่าเจ้าของกิจการต้องเจอกับความท้าทาย และประสบปัญหาเฉพาะหน้าต่างๆ มากมายในช่วงเริ่มต้น แต่เมื่อก้าวผ่านความท้าทายมาได้ ธุรกิจเริ่มเข้าที่และเดินไปได้ เป็นเวลาสำหรับการวางแผนเพื่อเพิ่มความมั่นคงให้กับธุรกิจที่ท่านได้ทุ่มเทกายใจลงไป ให้สามารถดำเนินการและเติบโตต่อไปได้ถึงแม้จะเจอภัยที่ไม่คาดคิด
3. ปกติแล้วประกันธุรกิจคุ้มครองอัคคีภัยเป็นภัยหลัก แต่ความแตกต่างของประกันภัยร้านอาหารอยู่ในส่วนความคุ้มครองเพิ่มเติม เช่น โจรกรรม, ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก(ลูกค้า), ชดเชยการเสียรายได้, เงินสด, กระจก เป็นต้น สามารถเลือกแพกเกจที่มีความคุ้มครองครอบคลุมตามเหมาะสมกับเงินลงทุน
4. ในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น และ ซึ่งทำให้ความเสียหายได้รับการชดเชย เช่น เมื่อครั้งน้ำท่วมใหญ่หรือไฟไหม้ บริษัทที่ทำประกันภัยไว้สามารถฟื้นตัวกลับมาอยู่ในธุรกิจได้ ต่างจากบริษัทที่ไม่ได้ทำประกัน เมื่อเหตุเกิดขึ้นมา ก็อาจประสบหายนะถึงขั้นล้มละลายได้ ดังนั้นการทำประกันเพื่อป้องกันความเสี่ยงเอาไว้ย่อมเป็นทางเลือกที่ดี
5.แน่นอนว่าทุก ๆ การลงทุนเราย่อมอยากได้ทุนคืน และสร้างกำไรโดยเฉพาะการทำธุรกิจค้าขาย หรือธุรกิจร้านค้า นอกจากการคิดไอเดียธุรกิจ มองหาสินค้า พัฒนาบริการ และมองหากลยุทธ์บริหารธุรกิจอื่นๆ คุณรู้ไหมว่า การทำประกันภัยให้ร้านค้ายังเป็นสิ่งที่นักธุรกิจไม่ควรมองข้าม
สำหรับเจ้าของร้านท่านใดที่กำลังมองหาประกันภัยที่ครอบคลุมทุกอุบัติเหตุ โดยทางบริษัท เพนกวินเอ็กซ์ จำกัด ร่วมกับ TVD Broker เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “Restaurant Worry Free ประกันภัยสำหรับร้านอาหารแบบ All Risk ครอบคลุมทุกอุบัติเหตุ ที่เกิดกับทรัพย์สินและบุคคลภายในร้าน เริ่มต้น 2,500 บาท/ปี คุ้มครองเริ่มต้น 1,000,000 บาท และสามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มได้สูงสุด 30 ล้านบาท!
ประกันภัยร้านอาหาร Penguin Protect เป็นประกันภัยแบบ All Risk ครอบคลุมทุกอุบัติเหตุภายในร้าน เช่น รับผิดชอบอาหารเป็นพิษ การเสียชีวิตหรือบาดเจ็บ ของลูกค้าที่เกิดจากอาหารและเครื่องดื่มของเรา รวมถึงคุ้มครองอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นภายในร้าน เช่น ลื่นล้ม น้ำร้อนลวก กระจกแตก เป็นต้น
นอกจากนี้ยังคุ้มครองเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในร้าน ชดเชยค่าเสียของเครื่องใช้ไฟฟ้า เมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ ฟ้าผ่า และภัยธรรมชาติต่างๆ คุ้มครองความเสียหายจากภัยธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น ไฟไหม้ ฟ้าผ่า น้ำท่วม นอกจากนี้ยังรวมถึงการโจรกรรม ชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการโจรกรรมต่างๆ เช่น การงัดแงะ ชิงทรัพย์
สนใจติดต่อปรึกษาหรือสอบถามรายละเอียดได้ทาง
Facebook : Penguin X- แหล่งรวมความรู้สินค้าและบริการสำหรับร้านอาหาร
Website : https://www.penguinx.co
Tel: 065-239-3900, 065-265-4942