พัฒนาสังคมไทยให้ก้าวหน้า กับ "หมอแมพ" ผู้ไม่เคยยอมแพ้กับความไม่เท่าเทียมให้กับประชาชน

หากพูดถึงบุคคลที่คอยขับเคลื่อนสังคม รวมถึงเป็นกระบอกเสียงให้กับประเทศไทย คงไม่มีใครไม่รู้จัก "ทพ.กันตพงศ์ ดีชัยยะ (หมอแมพ)" ในปัจจุบันอายุ 33 ปี เคยมีประสบการณ์ทั้งการเป็นทันตแพทย์ในระบบราชการ และเปิดคลินิกทันตกรรม 5 สาขา คลินิกเสริมความงาม 1 สาขา จึงทำให้เข้าใจว่าการทำงานระบบราชการและเอกชนเป็นอย่างไร?

และวันนี้จึงได้นำบทสัมภาษณ์สุดพิเศษ กับ  "ทพ.กันตพงศ์ ดีชัยยะ (หมอแมพ)" บุคคลผู้ไม่เคยยอมแพ้กับความไม่เท่าเทียมให้กับประชาชน โดยจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา คุณหมอแมพเคยเรียกร้องให้ให้ประชาชนได้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สถานที่กักตัว หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ ที่ประชาชนทุกคนควรจะได้รับจากรัฐบาลฟรี รวมถึงในช่วงจัดสรรวัคซีน กลับพบปัญหาที่มีการเอื้อประโยชน์ให้แก่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง จนทำให้คุณหมอต้องเรียกร้องเพื่อความเป็นธรรมแก่ประชาชน

อีกทั้ง "คุณหมอแมพ" ยังช่วยจัดประสานหาเตียงรักษา ส่งอาหารยาให้กับผู้กักตัว พร้อมทั้งจัดหน่วยตรวจโควิด-19 รวมถึงยังมีหน่วยฉีดวัคซีนลงพื้นที่ แจกหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ ฉีดพ่นฆ่าเชื้อ รวมถึงดูแลผู้ป่วยติดเตียง จัดหาแพมเพิส รถวีลแชร์ อำนวยความสะอาดต่างๆ เพื่อให้ประชาชนทุกท่านได้รับสิ่งที่ดีที่สุด โดยคุณหมอได้กล่าวว่า "เมื่อได้ลงพื้นที่เอง รับฟังปัญหาเข้าใจประชาชนเอง แล้วเราก็ดูแลกันมาตลอด เหมือนเป็นพี่น้อง "

โดย คุณหมอแมพ ได้กล่าวอีกว่า "ผมจะพูดเสมอว่าผมจะ Lamborghini ไปทำไม? ในเมื่อถนนยังขรุขระ ผมขับรถธรรมดาบนพื้นถนนที่เรียบพี่น้องเราอยู่ดีกินดีอันนี้คือสิ่งสำคัญ" จากปัญหาทางเดินมืด คุณหมอได้ติดตั้งไฟส่องสว่างโซล่าร์เซล ติดตั้งกระจกโค้งลดอันตราย ซ่อมแซมถนนที่พัง เพื่อความปลอดภัยให้กับประชาชน รวมถึงยังช่วยสำหรับผู้ที่มีปัญหาสายตา โดยการออกหน่วยตรวจแว่นฟรี พร้อมทั้งมอบมอบทุนการศึกษา และยังสนับสนุนการแข่งขันฟุตซอล ส่งเสริมกีฬาในคนทุกวัยอีกด้วย "ถ้าประเทศของเรายังไม่ดี ผมก็จะยังไม่หยุดเดิน"