สายเกาหลีเกาใจต้องมา! SINDOSEGI ร้านปิ้งย่างเกาหลีสุดพรีเมียม บินตรงเปิดสาขาใหม่กลางใจสยามแล้ว

ร้าน SINDOSEGI เป็นร้านปิ้งย่างเกาหลีที่มีมากกว่า 16 สาขาทั่วประเทศเกาหลี มาพร้อมสไตล์การตกแต่งร้านและบริการที่เป็นเอกลักษณ์ เรียกได้ว่าถูกต้องตามหลักหมูย่างสัญชาติเกาหลีเป๊ะๆ ให้ความรู้สึกเหมือนบินไปกินตามต้นตำรับ โดยหลังจาก ดีเจเพชรจ้า วิเชียร กุศลมโนมัย ได้ไปลองทาน SINDOSEGI (ชินโดเซกิ) สาขาที่ประเทศเกาหลีแล้วติดใจในความอร่อยลงตัวที่ไม่เหมือนใคร จึงนาร้านมาเปิดสาขาที่ประเทศไทยใจกลางสยาม แอบกระซิบบอกอีกด้วยว่าสาขาสยามเป็นสาขาแรกที่เปิดนอกประเทศเกาหลีอีกด้วย แอคคูซีฟสุดๆ !!

เอกลักษณ์ของ SINDOSEGI จะเป็นการคัดสรรวัตถุดิบมาอย่างดี เกรดพรีเมียม เน้นคุณภาพจึ้งๆ ด้วยการผ่านกระบวนการ aging ทั้ง Wet-aged เพื่อให้ได้ความนุ่มและชุ่มฉ่ำของเนื้อหมู และนำมา Dry-aged ต่อ เพื่อให้ได้รสชาติที่เข้มข้นและมีกลิ่นหอมของหมู รวมขั้นตอนกว่า 15 - 17 วัน กว่ามาเสิร์ฟให้ลูกค้าได้ทานหมูย่างที่มีคุณภาพและรสชาติที่ดีที่สุดของ SINDOSEGI เมนูก็มีให้เลือกทั้งคาวและหวาน รวมถึงเครื่องดื่มอีกมากมาย เรียกได้ว่าเลือกกันแบบสะใจ สมกับชื่อร้านที่ถ้าแปลเป็นไทยได้ว่า "หมูย่างครั้งใหม่ !! " โดยวันนี้เราจะมาแนะนำเมนู Signature ของทางร้านที่อร่อยเข้มข้น

1. Super Golden Pork
Super Golden Pork เมนูขายดีอันดับ 1 จากเกาหลี ซึ่งเป็นเมนูเดียวที่ผ่านกระบวนการทั้ง Wet-Aged และ Dry-Aged และยังเป็นส่วนพิเศษของหมูที่มีเพียง 8 ชิ้น ในหมู 1 ตัว !!!

2. หมูสามชั้น Pork Belly (Wet-Aged)
พูดถึงปิ้งย่างสไตล์เกาหลีก็ต้องหมูสามชั้น ทางร้านนำหมูสามชั้นไป Wet-aged จนได้ชั้นมันที่นุ่มละมุน หั่นชิ้นหนาเพื่อทานได้อย่างเต็มปากเต็มคำ เพราะความหนาตอนย่างเลยจับตั้งได้เพื่อความสุกที่ทั่วถึง นำมาย่างบนเตาจนชั้นมันแตกตัว หอมกรอบ น่ากิน จิ้มเกลือนิดๆ ทานคู่กับใบงาและกระเทียมในน้ำมันงาเข้ากันสุดๆ

3. กามาซอด ข้าวอบหม้อแรงดัน
ข้าวญี่ปุ่นที่หุงในหม้อแรงดันนำเข้าจากเกาหลีแบบถ้วยต่อถ้วย ทำให้มีเม็ดที่อวบอิ่มกินกับอะไรก็อร่อย ด้วยข้าวญี่ปุ่นเกรดพรีเมียม ทำให้ได้ข้าวที่มีความนุ่มชุ่มฉ่ำ เงาวาว เหมาะสำหรับทานคู่กับทุกเมนู ยิ่งทานคู่ซุปกิมจิยิ่งอร่อย

4. ฮงชา บิงซู (Hong Cha Bingsu)
บิงซูที่ทำจากชาเกาหลีคัดเกรดพรีเมียมคุณภาพเยี่ยม ผ่านการชงอย่างพิถีพิถัน ตัวบิงซูชานมเกาหลีเนื้อเนียนนุ่ม หอมชาเกาหลีเข้มข้นทุกคำที่ทาน และอร่อยยิ่งขึ้นด้วย topping ส่งตรงจากเกาหลี 4 อย่าง ที่เข้ามาช่วยเพิ่มความกลมกล่อมให้เมนูนี้ลงตัวเป็นที่สุด

5. Mocktail มีโซสปริง และ มีโซออทั่ม (Me So Spring & Me So Autumn)
เครื่องดื่ม Non-Alcohol Signature Drink ประจำร้าน ชินโดเซกิ Mocktail รสชาติสดชื่น ดื่มตัดรสชาติกับหมูย่างได้อย่างลงตัว เสิร์ฟมาในรูปแบบขวดคล้ายโซจู มี 2 รสชาติ Me So Spring ชาเขียวดอกไม้ และ Me So Autumn ชาเขียวแตงโมหวานฉ่ำ

และเมนูอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ทางร้านยังมีพี่ๆ ที่คอยมา Service ย่างหมูให้โต๊ะต่อโต๊ะ แบบที่ไม่ต้องย่างเอง รอทานอย่างเดียวได้เลย พิเศษไปกว่านั้นคือทุกครั้งจะมีการวัดอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการรับประทานหมูย่าง ที่ประมาณ 250 องศา นั่นเอง และหมดกังวลสำหรับคุณผู้หญิงท่านใด ที่กลัวการทานปิ้งย่างแล้วหัวจะเหม็น กลิ่นอาหารติดเสื้อ เพราะทางร้านใช้ระบบเตานำเข้าจากเกาหลี มาพร้อมกับตัวดูดควันด้านล่างโต๊ะ ทำให้มั่นใจเลยว่าไม่มีกลิ่นติดตัวไปอย่างแน่นอน

มาถึงอย่างสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด อย่างบรรยากาศภายในร้านกันบ้าง โดยทั้งร้านจะมีอยู่ทั้งหมด 3 ชั้นด้วยกัน แต่ละชั้นจะมีลูกเล่นการนำเสนอที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งจะมีคอนเซ็ปต์คร่าวๆ ที่ว่า

ชั้นที่ 1 ชั้นหมูดิบ ชั้นที่มีการสื่อถึงความสุขแบบ Rare meat เนื้อหมูดิบสีชมพู  โดยทั้งชั้นจะมีการตกแต่งด้วยสีชมพู-เขียวนีออน พร้อมลูกเล่นอีกมากมาย

ชั้นที่ 2 ชั้นหมูเกือบสุข Midiam Meat ตัวชั้นมีการเล่นสีชมพูอมน้ำตาล เหมาะกับลูกค้าที่ต้องการความสงบและส่วนตัวมากขึ้น เพิ่มการติดกระจกทั่วทั้งชั้น ทำให้โปร่งเห็นวิวสยามในมุมกว้าง

ชั้นที่ 3 ชั้นหมูสุก Well done ชั้นที่มีความ High Class แบบพรีเมียมและความเป็นส่วนตัวขั้นสุด เพิ่มไฮไลท์อย่างกระจกแบบเต็มบาน สามารถชมวิวสยามได้สุดสุดลูกหูลูกตาไปเลย

ต่างกับภายนอกร้านที่ถึงแม้จะดูแพงจนไม่กล้าเข้า แต่บอกได้เลยว่าภายในร้านมีการตกแต่งชิลๆ สไตล์เกาหลี แถมมุมถ่ายรูปสวยๆ ให้เลือกอีกเพียบ ไว้ถ่ายอวดบนโซเซียลได้แบบสบายๆ กันไปเลย

ที่นี่เป็นร้านปิ้งย่างเกาหลีแบบ a la cart ที่มีเมนูให้เลือกทานกันมากกว่า 40 เมนู มีตั้งแต่เมนูหลักสิบจนถึงหลักพัน แต่ถ้ามากินกับเพื่อนหลายๆ คน ก็จอย ๆ หารกันออกมาไม่เกิน 700 บาท จะพาคนรัก เพื่อนฝูง หรือ ครอบครัว ก็เอ็นจอยได้หมด การเดินทางก็สะดวก ร้านอยู่ใจกลางสยาม หาง่าย จอดรถไม่ยาก

พิกัดสุดซอย 7 สยามสแควร์ ตรงข้ามสนามกิตติ์ แต่สำหรับใครที่ยังงงอยู่ เรามาทำตามได้แบบ Step by Step กันดีกว่า !!

การเดินทางด้วย BTS
1. ลงสถานีสยาม ออกประตู 4
2. เดินทะลุจาก Siam Square One
3. เดินออกมาตรงลานสยาม
4. เดินตรงสุดซอย 7 ร้านอยู่หัวมุมโดดเด่น

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว
1. จอดรถที่อาคารสยามกิตติ์ (Siamkit Building)
2. ลงลิฟต์มาชั้น 1
3. เดินทะลุตัวอาคารออกประตูตรงข้ามโนโวเทล
4. ออกมาก็เจอร้าน เดินเข้ามาได้เลยทันที


ซึ่งโดยปกติร้านเปิดทำการทุกวัน เวลา 11.00 - 22.00 น. เฉพาะวันศุกร์และวันเสาร์เปิดดึกถึง 00.00 น. เป็นร้านเดียวในสยามที่ปิดดึกสุดแล้ว! แอบกระซิบอีกครั้งนะคะว่า ถ้ามาให้มาตอนกลางวันจะดีที่สุด จะได้ไม่ต้องต่อคิวนาน เพราะตอนเย็นต้องรอคิวประมาณ 1.30 - 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว แล้วมาสัมผัสความอร่อยสไตล์ต้นตำรับกันที่ SINDOSEG ได้แล้ววันนี้ !!!


ติดต่อสอบถามข้อมูลหรือติดต่อจองเพิ่มเติมได้ที่
FB : Sindosegi Thailand
IG : Sindosegi Thailand
Line : @sindosegi
Tel : 080915641

Facebook : https://www.facebook.com/SindosegiThailand/
LINE
: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=539ejimi
Instagram : https://instagram.com/sindosegithailand?igshid=MzRlODBiNWFlZA==