หลายๆ คน อาจกำลังประสบกับปัญหา “ภาวะดื้อโบ” ซึ่งก็คือ การที่ฉีดโบทูลินัมท็อกซินเข้าไป แล้วไม่เกิดผลลัพธ์ตามที่คาดไว้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเกิดจากการที่ส่วนประกอบในโครงสร้างของโบทูลินัมท็อกซิน กระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาต่อต้าน อาการที่พบ คือ “เมื่อฉีดโบท็อกซ์ไปแล้วไม่ช่วยแก้ปัญหา” เช่น ริ้วรอยไม่หาย กล้ามเนื้อบริเวณกรามไม่เล็กลง รวมถึงกลุ่มผู้ป่วยในบางโรคที่จำเป็นต้องใช้โบท็อกซ์ในการแก้ไขปัญหาอาการป่วยก็ใช้ไม่ได้ผล ซึ่งภาวะดื้อโบอาจเกิดจากหลากหลายปัจจัยกระตุ้นด้วยกัน ภาวะดื้อโบมีหลายปัจจัยกระตุ้นด้วยกัน ดังนี้ ฉีดโบท็อกซ์ถี่เกินไป เพราะเมื่อร่างกายได้รับสารโบท็อกซ์ในปริมาณมากหรือถี่เกินไป ร่างกายก็จะตอบรับด้วยการสร้างภูมิคุ้มกัน หรือแอนติบอดี (Anti-Body) จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้การฉีดโบท็อกซ์ครั้งต่อๆ ไป ไม่ค่อยได้ผลลัพธ์ และเกิดภาวะดื้อโบ ฉีดโบท็อกซ์ที่ไม่ใช่ยาแท้ หรือไม่มีคุณภาพ โดยโบท็อกซ์ที่ไม่ใช่ยาแท้จะมีการปนเปื้อนโปรตีนที่ไม่ใช่ตัวยา หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเปลือกโปรตีน เมื่อร่างกายได้รับเปลือกโปรตีนเป็นจำนวนมากก็จะทำให้เกิดการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และเกิดภาวะดื้อโบได้ในที่สุด การสลับยี่ห้อบ่อยๆ เพราะเป็นอีกหนึ่งการเพิ่มโอกาสในการดื้อโบสูง วิธีป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดภาวะดื้อโบและวิธีแก้ไข ควรเลือกยี่ห้อโบท็อกซ์ที่มีความบริสุทธิ์สูง มีคุณภาพผ่านการรับรองมาตรฐาน และไม่ควรสลับยี่ห้อการฉีดไปมา เพราะจะทำให้เราได้รับเปลือกโปรตีนหลากหลายชนิด ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้เราสร้างภูมิคุ้มกัน และเกิดภาวะดื้อโบได้ ไม่ควรฉีดโบท็อกซ์ในปริมาณที่มากเกินไป ซึ่งการฉีดในแต่ละบริเวณจะใช้จำนวนยูนิตที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับปัญหาสภาพผิวของแต่ละบุคคล แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสม ไม่ควรฉีดโบท็อกซ์มากเกินกว่าปีละ 3 ครั้ง และควรเว้นระยะการฉีดห่างกันอย่างน้อย 4-6 เดือนขึ้นไป จะได้ไม่เกิดความเสี่ยงภาวะดื้อโบ ควรเลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลที่มีความน่าเชื่อถือ และได้มาตรฐานผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข สามารถตรวจสอบได้ หากเกิดภาวะดื้อโบ อาจจะรอให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายของเราหมดฤทธิ์ไปเองก่อน โดยจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1-2 ปี หรือมากกว่านั้น แล้วจึงทำการฉีดโบท็อกซ์ใหม่อีกครั้ง โดยการลองใช้โบท็อกซ์ยี่ห้อที่ได้มาตรฐาน ที่มีสารบริสุทธิ์สูงขึ้นกว่าเดิมที่เคยใช้ ซึ่งหากยังไม่ได้ผล อาจจะต้องปรึกษาแพทย์เพื่อทางเลือกอื่นในการรักษาต่อไป และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะดื้อโบในอนาคต ก่อนฉีดโบท็อกซ์ ควรศึกษารายละเอียดให้รอบคอบ ไม่เห็นแก่โปรโมชันราคาถูก เพราะอาจจะได้รับโบท็อกซ์ที่ไม่มีคุณภาพ ทำให้เกิดภาวะดื้อโบได้ในที่สุด เสียทั้งเวลา อีกทั้งยังเสียเงินไปเปล่าๆ อีกด้วย ที่สำคัญควรเลือกฉีดโบท็อกซ์กับสถานพยาบาล หรือ คลินิกที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน และเลือกฉีดกับแพทย์ที่มากประสบการณ์ สำหรับใครที่อยากฉีดโบท็อกซ์แต่มีความกังวลใจ ขอแนะนำ “นภัสรีย์ คลินิก” ซึ่งเป็นคลินิกที่ได้รับรางวัลติด Top ยอดฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ และโบท็อกซ์ สูงสุด 8 ปีซ้อน อีกทั้งคุณหมอยังเป็นอาจารย์แพทย์ผู้ทำการสอนโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ และอัลเทอร่าอีกด้วย ปลอดภัยมั่นใจไร้ผลข้างเคียง นภัสรีย์ คลินิก ผ่านการรับรองมาตรฐาน และใช้ตัวยาของแท้อย่างแน่นอน นภัสรีย์ คลินิก ปัจจุบันเปิดให้บริการทั้งหมด 2 สาขาด้วยกัน ได้แก่1. สาขาจามจุรีสแควร์ที่อยู่ : ชั้น 3 อาคารจามจุรีสแควร์ อยู่ข้างร้านกาแฟมวลชน (ลงสถานี MRT สามย่านทางออก 2 มีทางเชื่อมเข้าอาคาร/ มีที่จอดรถในอาคาร)โทร. : 0982599880แผนที่ : https://goo.gl/maps/z3WC6qSquPX1mck39 2. สาขาอ่อนนุชที่อยู่ : ใต้คอนโด Ideo Mobi สุขุมวิท ตึก B เลยซอยสุขุมวิท 81 ไปประมาณ 200 เมตร (ลงสถานี BTS อ่อนนุช ทางออกที่ 3/ มีที่จอดรถหน้าร้าน)โทร. : 0624579922แผนที่ : https://goo.gl/maps/EBAgshqbaR3bkqJH8 3. สาขาบางนาที่อยู่ : 15 ทางคู่ขนาน ถนนบางนา-ตราด ตำบล บางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี สมุทรปราการ 10540แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/W1amG4ik7dvL7Kw9A ช่องทางการติดต่อLine Official : @napassareeclinicWebsite : https://napassaree.comInstagram : NapassareeclinicFacebook : Napassaree clinic นภัสรีย์คลินิก ปรับรูปหน้า ฟิลเลอร์ เลเซอร์Tel : สาขาอ่อนนุช : 062-457-9922Tel : สาขาจามจุรีสแควร์ : 098-259-9880