วันอาทิตย์ที่ 1 ต.ค. 2566 เวลา 08.00 น. ณ หาญตระกูลมูลนิธิแห่งประเทศไทย นายกีรติ เสริมประภาศิลป์ ประธานกรรมการมูลนิธิ สมัยที่ 30 เป็นประธานในพิธี เซ่นไหว้บรรพชน เนื่องในเทศกาลไหว้พระจันทร์ "ซิวจี๋" ประจำปี 2566 โดยมี นายชรัตน์ หาญจงกล รองประธานกรรมการบริหารอาวุโส และนายบุญหม้อม ตัญญาภักดิ์ ประธานกลุ่มบ้านหาญ พร้อมด้วย คณะกรรมการบริหาร หาญตระกูลมูลนิธิ แห่งประเทศไทย สมัยที่ 30 แขกผู้มีเกียรติจากฮ่องกง, มาเก๊า, ไหหลำ, สมาชิกแซ่ห่าน และเจ้าหน้าที่ในสังกัดของมูลนิธิ ร่วมกันประกอบพิธี ซึ่งพิธีนี้จัดขึ้นในวันอาทิตย์แรกหลังเทศกาลไหว้พระจันทร์ เป็นธรรมเนียมประเพณีของลูกหลานแซ่ห่าน ที่ยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมา เพื่อระลึกถึงบุญคุณบรรพบุรุษ ตามที่ได้มีหลักฐานปรากฏในปี พ.ศ.2448 คณะแซ่หาญ ได้รวมตัวจัดตั้งองค์กรหนึ่ง ในครั้งแรกที่วัดชัยชนะสงครามหรือวัดตึก มีการเรียนการสอนภาษาจีนและไหว้บรรพชนปีละ 2 ครั้ง สมาชิกอาวุโส ท่านหนึ่งเล่าว่า พ่อแม่ของ กงกับเน่ (แปลว่าปู่-ย่า,ตา-ยายในภาษาไหหลํา) นั่งเรือมาบุกเบิกที่ บางกอก หลัง ยุคล่มสลายระบบฮ่องเต้ (องค์สุดท้ายคือ จักรพรรดิปูยี(ผู่อี้)) ในงานซิวจี๋ ทุกๆ ปีจะมีพิธีกรรมเซ่นไหว้บรรพชนตั้งแต่ช่วงเช้า แล้วต่อด้วยกิจกรรมทานเลี้ยงและมอบทุนเรียนดีให้กับลูกหลานของสมาชิกหาญตระกูลมูลนิธิแห่งประเทศไทย เป็นทุนเปล่าปราศจากข้อผูกมัด เป็นการสนับสนุนที่สมาคมตั้งใจให้กับน้องๆ ลูกหลาน ที่มีวินัย ขยัน และตั้งใจเรียน อรรถวีร์ พรใจหาญ สมาชิกหาญตระกูล รุ่นที่ 27 ลําดับศักดิ์ "สิ่ว" 1 ในคณะจัดงาน กล่าวว่า รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ทําหน้าที่ลูกหลานหาญตระกูล ตามขนบธรรมเนียมปฏิบัติที่สืบทอดมายาวนาน กว่า 118 ปี ขอขอบคุณ คุณย่าของผม ที่ปลูกฝังสิ่งดีๆ มาตั้งแต่เรายังเด็ก ทําให้เราภาคภูมิใจในความเป็นลูกไทยสายเลือดไหหลําตลอดมา ตอนเด็กๆ ถึงแม้ว่าจะไม่มีโอกาสได้รับทุนเรียนดี แต่น้องสาวก็ได้รับทุนทุกปี ที่ส่งผลการเรียนไป ความซาบซึ้ง ที่หาญตระกูล ไม่เคยหลงลืม ความเป็นพี่น้อง - ครอบครัว ยังคงอยู่ถึงปัจจุบัน ทุกวันนี้เราโตขึ้น ได้รับโอกาสมากขึ้น จึงอยากนําทักษะที่สั่งสมมา ทําตนเองให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ทําตัวให้เป็นประโยชน์ต่อหาญตระกูล งานในวันนี้จะสําเร็จลุล่วงไปไม่ได้เลย ถ้าไม่ได้แรงสนับสนุนจาก คณะกรรมการหาญตระกูลมูลนิธิแห่งประเทศไทย สมัยที่ 30พิธีกรทั้ง 3 ท่าน, ผู้จัดการงาน, ผู้จัดการเวที, ผู้จัดการต้อนรับ, ผู้จัดการการขายสลากเสี่ยงโชคชิงรางวัล ซึ่งเป็นคณะยุวชนหาญตระกูลมูลนิธิแห่งประเทศไทย กลุ่มคนรุ่นใหม่มีอายุระหว่าง 20-35 ปี และเป็นลูกหลานสมาชิกหาญตระกูล อรรถวีร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะยุวชนหาญตระกูลมูลนิธิไม่มีหัวหน้าทีม ไม่มีลูกทีม ทุกคนในคณะมีความสําคัญเท่ากัน เราแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบตามความถนัดส่วนบุคคล เราส่งเสริมสนับสนุนและติชมรวมถึงสะท้อนสิ่งที่จําเป็นต้องแก้ไข เพื่อความบริบูรณ์เรียบร้อยของงาน เหนือสิ่งอื่นใดเพื่อกระชับสัมพันธภาพในหมู่พี่น้องครอบครัวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ให้สมกับ วัตถุประสงค์ของการก่อตั้ง "ห่าน ตี้ เอ็ด เก เต้" อันมีความหมายว่า หาญตระกูลเป็นหนึ่งเดียว