ร้อยไหม ไร้แผล ด้วยเทคนิค Vector Lifting ใบหน้าไร้แผล ไม่ช้ำ ผิวยกกระชับขึ้นทันที นำทีมโดย "หมอเบญ" พญ.เบญจรมย์ ไกรฤกษ์ จากอะกาลิโก คลินิก

   แนะนำสำหรับท่านใดที่กำลังเผชิญปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ต้องการให้ผิวยกกระชับ และอยากย้อนอายุตัวเองให้แลดูอ่อนเยาว์ลงสัก 5-10 ปี หรือหากดูแลผิวหน้ามาหลากหลายวิธีแล้วก็ยังไม่ประทับใจในผลลัพธ์ที่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโจทย์ที่มีในใจ คือ อยากยกกระชับ ปรับรูปหน้า แต่ไม่อยากเสี่ยงกับการผ่าตัด!!

   วันนี้ขอแนะนำนวัตกรรมใหม่ล่าสุด กับ เทคนิคดึงหน้าที่มีชื่อว่า Vector Lifting ซึ่งเป็นการร้อยไหมแบบไร้แผล ไม่เกิดรอยช้ำ ผลลัพธ์คือผิวยกกระชับขึ้นทันทีตั้งแต่ครั้งแรก โดย พญ.เบญจรมย์ ไกรฤกษ์ หรือที่รู้จักกันในนาม "อาจารย์หมอเบญ" จาก Agaligo Clinic แพทย์ผู้มีความชำนาญเกี่ยวกับการปรับรูปหน้ามากกว่า 10 ปี ที่เราแนะนำว่าคุณไม่ควรพลาด!!

   "อาจารย์หมอเบญ" ได้กล่าวถึงการยกกระชับ ปรับรูปหน้า ด้วยการร้อยไหมว่า " อะกาลิโก คลินิกของเรา ใช้เทคนิค Vector Lifting ซึ่งเป็นเทคนิคของการยกกระชับใบหน้าเสมือนกับเราต้องการผ่าตัดเพื่อดึงหน้าให้แลดูอ่อนเยาว์ขึ้น อยากย้อนวัยหนุ่ม วัยสาว ให้ตัวเอง อยากมองเห็นตัวเองเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาด้วยกระจกบานเดิม แต่!! จะทำอย่างไรให้เกิดแผลบนใบหน้าน้อยที่สุด เกิดความเสี่ยงจากการผ่าตัดให้ได้น้อยที่สุดจนแทบจะไม่เกิดขึ้นเลย นั่นจึงเป็นโจทย์ที่ทางคุณหมอต้องการพัฒนาตัวเองเพื่อให้เกิดประโยชน์กับผู้เข้ารับบริการให้ได้มากที่สุด

   Vector Lifting จึงเป็นเทคนิคที่เราพัฒนาและนำมาใช้ใน อะกาลิโก คลินิก มานานกว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งส่วนตัวของคุณหมอเองก็มีประสบการณ์ในการใช้ไหมเพื่อยกกระชับ ลดความหย่อนคล้อยให้กับผิวหน้ามาตลอด ฉะนั้นจึงรู้จักไหมแต่ละรุ่น แต่ละประเภทมายาวนานกว่า 10 ปี ซึ่งเริ่มจากสมัยก่อน การร้อยไหมจะเป็นการใช้ไหมเส้นเล็กๆ ที่ครั้งหนึ่งต้องร้อยกันประมาณข้างละ 20-30 เส้น ซึ่งไหมในรุ่นก่อน จะเป็นเส้นไหมที่เล็กมาก แรงยกน้อย อาจจะช่วยได้แค่การกระตุ้นคอลลาเจนและยกผิวได้ในระยะเวลาสั้นๆ

   ต่างกับปัจจุบันที่มีการพัฒนาและต่อยอดนวัตกรรมของเส้นไหมมาเยอะมาก ตั้งแต่ตัววัตถุดิบของไหมเอง รวมถึงวัสดุที่นำมาใช้ทำเส้นไหมก็มีการพัฒนาขึ้นกว่ารุ่นที่ผ่านมา และลักษณะเฉพาะของตัวล็อกเส้นไหมที่ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนในการทำให้เกิดแรงยกเพื่อลดความหย่อนคล้อยของผิวที่พัฒนาขึ้นจากเมื่อ 10 ปีก่อนในแทบจะทุกด้าน อีกทั้งยังมีความแข็งแรงขึ้น คงทนขึ้น และปลอดภัยขึ้นมากอีกด้วย

   ดังนั้นในการเลือกเส้นไหมมาใช้กับใบหน้าของผู้เข้ารับบริการแต่ละท่าน คุณหมอจึงไม่ได้เลือกแค่ความสวยงามเพียงเท่านั้น แต่เรายังเลือกความปลอดภัยและเทคโนโลยีของการพัฒนาเส้นไหมรวมถึงการพัฒนาเทคนิคจนเกิดเป็นความชำนาญเฉพาะของแพทย์ ทำให้คนไข้ที่มีความต้องการจะยกกระชับผิวหน้าโดยที่ไม่ต้องผ่าตัดสามารถทำได้และมีอยู่จริง "

   ด้วยความที่ "อาจารย์หมอเบญ" มีประสบการณ์ทางด้านการปรับรูปหน้ามากกว่า10 ปี และเป็นอาจารย์แพทย์ในการสอนเทคนิคการร้อยไหมให้กับทีมแพทย์ที่มีความสนใจจากทั่วประเทศมาเริ่มเรียนรู้ในด้านนี้ที่โรงพยาบาลปิยะเวท จึงทำให้ "อาจารย์หมอเบญ" มีประสบการณ์และเทคนิคการเลือกไหมให้เหมาะสมกับผู้เข้ารับบริการได้อย่างเชี่ยวชาญ โดยจะเลือกใช้ไหมที่มีแรงยกดี ความยาวที่เหมาะสม และมีตัวล็อกที่แข็งแรงมากพอที่จะทำให้เห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังจากการทำตั้งแต่ครั้งแรก

   ซึ่งคุณสมบัติที่สำคัญของเส้นไหม "อาจารย์หมอเบญ" จะเป็นแพทย์ผู้คัดเลือกเส้นไหมมาใช้ในคลินิกด้วยตัวเอง โดยเฉพาะไหมที่เลือกเข้ามานั้น จะต้องผ่านการรับรองขององค์การอาหารและยาว่าสามารถนำเข้าสู่ร่างกายของเราได้โดยไม่เกิดผลข้างเคียง และผ่านการรับรองว่าเป็นไหมที่ใช้ในการยกกระชับใบหน้าด้วยเทคโนโลยีที่ได้มาตรฐานอีกด้วย

   "อาจารย์หมอเบญ" ได้กล่าวเสริมว่า "คุณสมบัติของไหมแต่ละตัวจะมีแรงยกที่ไม่เท่ากัน ไหมแต่ละตัวมีอายุบนหน้าเราไม่เท่ากัน (ในแต่ละแบรนด์) และไหมแต่ละตัวจะมีขนาดตัวล็อกที่ไม่เท่ากัน ตรงนี้เป็นจุดที่คุณหมอจะต้องเลือกใช้ให้เหมาะกับแต่ละเคส ไม่ใช่ไหมทุกตัวจะทำได้กับทุกๆ คน ทำให้บางคนที่เคยร้อยไหมไปรู้สึกไม่เห็นผล หรือยกได้แค่อาทิตย์สองอาทิตย์แรกพอผ่านไปสองสามเดือนผิวก็ตกก็คล้อยเหมือนเดิม แต่ด้วยเทคนิค Vector Lifting ของเรา ไหมจะค่อยๆ ยกกระชับขึ้นและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดใน 2-3 เดือน ระหว่าง 1-3 เดือนแรกไหมจะค่อยๆ ทำงานใต้ชั้นผิวและทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวใหม่ เพราะฉะนั้นด้วยเทคนิคนี้ผิวจะค่อยๆ ยกกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ"

   อีกทั้งระยะเวลาในการคงตัวของไหมในแต่ละแบรนด์ จะมีระยะเวลาในการคงตัวประมาณ 6 - 18 เดือน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เพราะการที่คุณหมอใช้ไหมเพื่อดึงยกกระชับผิวหน้านั้นจะขึ้นอยู่กับความหย่อนหรือคล้อยของใบหน้าของผู้เข้ารับบริการในแต่ละเคส เช่น เคสอายุ 60 ปี กับ เคสอายุ 40 ปี จะทำให้เคสที่อายุน้อยกว่าเห็นผลจากการยกกระชับที่ดีกว่า ซึ่งระดับความเจ็บของการร้อยไหมก่อนทำและหลังทำ "อาจารย์หมอเบญ" ได้อธิบายว่า ระยะความเจ็บจะอยู่ที่ตอนฉีดยาชา แต่เมื่อยาชาออกฤทธิ์แล้วในขณะที่คุณหมอร้อยไหมอยู่คนไข้จะไม่ได้รู้สึกเจ็บ โดยคุณหมอจะพูดคุยและอธิบายขั้นตอนในการทำหัตถการอีกด้วย

   "อาจารย์หมอเบญ" กล่าวอีกว่า "ระยะเวลาพักฟื้นหลังจากร้อยไหมเสร็จแทบไม่จำเป็นต้องพักฟื้นเลย คนไข้ที่ร้อยไหมกับคุณหมอเสร็จแล้วไปเล่นโยคะ แต่งหน้าออกเดตหลังจากร้อยไหมเลยมีเยอะมาก ฉะนั้นสบายใจได้ว่ามาร้อยไหมกับคุณหมอแล้วไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน เพราะอะกาลิโก คลินิกของเราเน้นคุณภาพและความปลอดภัย รวมถึงให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตเป็นปกติมาเป็นอันดับหนึ่งเสมอ

   ที่ Agaligo Clinic "อาจารย์หมอเบญ" จะดูแล ประเมิน และอธิบายแนวทางการรักษาให้คนไข้ฟังด้วยตัวเองทุกครั้ง รวมถึงให้คำแนะนำตั้งแต่เริ่มต้นจนจบเคส

   สำหรับท่านที่สนใจอยากดูแลตัวเองเพื่อเรียกคืนความเป็นหนุ่ม เป็นสาวอีกครั้งกับ "อาจารย์หมอเบญ" ต้องมาที่ "Agaligo Clinic" ศูนย์การแพทย์เพื่อสุขภาพและความงามแบบครบวงจร ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย ปลอดภัย ได้มาตรฐาน เรียกได้ว่าคุ้มค่าและคุ้มราคาอย่างแน่นอน

สนใจติดต่อปรึกษาหรือสอบถามรายละเอียดได้ทาง
Facebook Page : Agaligo clinic โบทอก ฟิลเลอร์ ร้อยไหม ปรับรูปหน้า เสริมจมูก
Line : @agaligoclinic
Instagram : agaligoclinic
Youtube : อะกาลิโก คลินิกความงาม Agaligo clinic
Tel. 095-295-6594 (สาขาอารีย์ ซอย 1)
Tel. 082-963-9646 (สาขาบางนา)
Tel. 095-596-6159 (สาขาลพบุรี ร.พ.เบญจรมย์)
เลขที่ใบอนุญาต : 10101020458

Facebook : https://www.facebook.com/agaligoclinic
LINE
: https://page.line.me/agaligoclinic?openQrModal=true
Instagram : https://www.instagram.com/agaligoclinic/