“สุวัจน์” สืบสานกินเจโคราช ปีที่ 17 หวังต่อยอดเป็นซอฟท์พาวเวอร์เมืองไทย กระตุ้นเศรษฐกิจและท่องเที่ยว
เช้าวันนี้ (18 ตุลาคม) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า เป็นประธานเปิดงานเทศกาลถือศีลกินเจ ประจำปี 2566 ในพิธีอัญเชิญประทับทรงเทพเจ้าแห่รอบเมืองโคราช (อิ้วเก้ง) โดยมี นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า นายวัชรพล โตมรศักดิ์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครราชสีมา นายภิญโญ วัจนศิริเสถียน ประธานชมรมไทยจีนถือศีลกินเจโคราช ร่วมกับ 33 ศาลเจ้าในโคราช
นายสุวัจน์ กล่าวว่า เทศกาลถือศีลกินเจโคราช เป็นงานบุญประเพณีที่จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 17 โดยชมรมไทยจีนถือศีลกินเจร่วมกับ 33 ศาลเจ้าในเมืองโคราช มีการอัญเชิญประทับทรงเทพเจ้าจากศาลเจ้าทั้ง 33 แห่ง และแห่องค์เทพเจ้าไปทั่วเมืองเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ออกมาสักการะบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล ถือว่าเป็นงานประเพณีที่ยิ่งใหญ่ นอกจากจะสร้างความรัก ความสามัคคี และความเป็นสิริมงคลในชีวิตแล้ว ยังเป็นเรื่องของการต่อยอดพลังสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้เป็นซอฟท์พาวเวอร์ของประเทศ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี จึงอยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ให้มาเที่ยวงานที่โคราชและมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์กัน
ต่อข้อถามที่ว่า สามารถยกเทศกาลถือศีลกินเจโคราชให้เป็นที่ 1 ของประเทศได้หรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า การจะยิ่งใหญ่ได้ต้องพัฒนาองค์ประกอบในหลายๆ ด้าน ซึ่งเราได้พยายามทำมาอย่างต่อเนื่องและยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ด้วยโคราชมีศาลเจ้า มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย ที่สำคัญโคราชเป็นเมืองเก่าแก่อายุ 555 ปี ประกอบด้วยคนไทยเชื้อสายจีนเป็นจำนวนมาก ถือเป็นซอฟท์พาวเวอร์ที่สำคัญของประเทศ
อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า สภาพเศรษฐกิจของประเทศจำเป็นต้องได้รับการกระตุ้น เนื่องจากเราได้รับผลทบจากสถานการณ์ต่างๆ อย่างเนื่องมาหลายปี ทั้งโควิด-19 สงครามรัสเซีย -ยูเครน ที่ยังไม่จบ ยังมีสงครามอิสราเอล-ฮามาส มาซ้ำเติมอีก และไม่ทราบว่าสถานการณ์จะยืดเยื้อไปแค่ไหน แต่ผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อประเทศเกิดขั้นแน่นอน ซึ่งเป็นเรื่องที่เราต้องช่วยกัน โดยเฉพาะผู้ที่มีโอกาสทางเศรษฐกิจน้อย รัฐบาลก็พยายามออกมาตรการช่วยเหลือ เช่น ลดราคาน้ำมัน ค่าไฟฟ้า และมาตรการอื่นๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน
"เป็นการสะท้อนว่าเศรษฐกิจประเทศต้องการการกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง และสิ่งที่จะช่วย ได้ในสภาวการณ์ขณะนี้ คือการรักษาประเพณี ใช้ซอฟท์พาวเวอร์กระตุ้นการท่องเที่ยว ซึ่งทำได้ไม่ยากเนื่องจากเรามีประเพณีและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์อยู่คู่กับสังคมไทยมาช้านาน ซึ่งรัฐบาลได้ยกเป็นนโยบายที่สำคัญ และขณะนี้ก็ได้ออกมาตรการฟรีวีซ่า เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น"