ปัจจุบันประเทศไทยมีอัตราการเป็นโรคติดต่อทางเพศเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยข้อมูลของกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ปี 2565 (1) พบว่ามีจำนวนสูงขึ้นถึงเกือบ 50% ในช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมา (1),(2) และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น และวัยทำงาน ทั้งเพศชาย เพศหญิง รวมไปถึงกลุ่ม LGBTQ+ ทั้งนี้ โรคที่เกิดขึ้น ไม่เฉพาะแต่กับคนที่มีพฤติกรรมรักสนุก หรือชอบเปลี่ยนคู่นอน หรือไม่ป้องกันเท่านั้น แต่กลับพบในกลุ่มคนที่แต่งงานแล้วและมีคู่นอนเพียงคนเดียวมากขึ้นด้วย จากการสำรวจของเว็บไซต์ World Population Review ในปี 2566 พบว่า ประเทศไทยติดอันดับ 4 ที่มีสถิติการนอกใจสูงที่สุดในโลกอยู่ที่ 61% และเมื่อเทียบสัดส่วนยังพบอีกว่า ผู้ชายที่แต่งงานแล้วมีเปอร์เซ็นต์นอกใจภรรยามากกว่า (3) ซึ่งแต่ละคนประสบพบเจอโรคทางเพศสัมพันธ์แตกต่างกัน เช่น ตกขาวเป็นๆหายๆ มีตุ่มหรือแผลที่อวัยวะเพศ ปัสสาวะแสบขัด เป็นต้น ที่สำคัญหากได้รับการรักษาไม่ถูกต้อง อาจทำให้เป็นฝีหนองในท้อง ส่งผลต่อการมีบุตรยาก และปัญหาอื่น ๆ ที่รุนแรงตามมาอีกได้ ใส่ถุงยางแล้ว ก็ใช่ว่าจะปลอดภัย รูปแบบการมีเพศสัมพันธ์ สามารถเกิดขึ้นได้นอกเหนือจากทางอวัยวะเพศ ดังนั้นหากคู่รัก แฟน สามี-ภรรยา หรือ คนที่มีเพศสัมพันธ์แบบ FWB หรือ Friend with benefits (มีเพศสัมพันธ์กับเพื่อนแบบไม่ผูกมมัด) หรือ แบบ ONS หรือ One Night Stand (มีเพศสัมพันธ์แบบชั่วข้ามคืน) หรือทำงานเกี่ยวกับอาชีพให้บริการทางเพศ (Sex Worker) ซึ่งถ้าคนใดคนหนึ่งมีเชื้อเกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แล้วไปมีเพศสัมพันธ์ทางอื่นๆ เช่น การมีเพศสัมพันธ์ปาก ก็มีความเสี่ยง สามารถติดโรคได้ทุกโรคเช่นเดียวกับการสอดใส่ในช่องคลอด (4) เนื่องจากปากที่สัมผัสที่อวัยวะเพศ หรือสารคัดหลั่งของฝ่ายหญิงหรือชายที่มีโรค ก็อาจทำให้คู่รัก หรือผู้ที่ร่วมหลับนอน ติดโรคได้ ซึ่งโรคติดต่อผ่านการทำรักทางปากมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เอชไอวี, เอชพีวี, ไวรัสตับอักเสบเอ, หนองในแท้, หนองในเทียม, ซิฟิลิส, เริม เป็นต้น ซึ่งเป็นโรคที่ใช้ระยะเวลาในการรักษา และสร้างความเจ็บปวดให้กับผู้ติดเชื้อไม่น้อย เช่น อาการตกขาวเป็น ๆ หาย ๆ มีแผลที่อวัยวะเพศ รวมถึงอาการปัสสาวะแสบขัด อาการเหล่านี้ หากปล่อยทิ้งไว้ ก็จะลุกลามได้ จึงเป็นเหตุให้องค์การอนามัยโลก (WHO) สนับสนุนให้คู่รัก หรือ ใครก็ตามที่มีความเสี่ยงจากพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ ตรวจโรคติดต่อทางเพศอย่างสม่ำเสมอ (5) โดยในปัจจุบันก็มีชุดตรวจที่สามารถเก็บสิ่งตรวจเองที่บ้านได้ นั่นก็คือ ชุดตรวจ HealthSmile™ Self-collection for STD test จาก บริษัท วัฒนา เมดิคอล แอนด์ เวลล์บีอิง จำกัด ซึ่งเป็นชุดตรวจแบบ RT-PCR มีความแม่นยำสูงมากกว่า 95% และตรวจได้สูงสุดถึง 15 เชื้อ แม้เชื้อที่ตายแล้ว ซึ่งผู้ที่สงสัยว่าจะติดเชื้อ สามารถเก็บสิ่งส่งตรวจได้จากหลายตำแหน่งที่พบความผิดปกติ เช่น ปัสสาวะ ตกขาว หรือแผลที่อวัยวะเพศ เป็นต้น ชุดตรวจ HealthSmile™ self-collection for STD test จาก บริษัท วัฒนา เมดิคอล แอนด์ เวลล์บีอิง จำกัด พร้อมให้บริการครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย ด้วยวิธีการตรวจจากห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ ได้ที่ได้รับรองมาตรฐาน ISO 15189 & 15190 ทำให้คุณไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง สะดวกสบาย ไม่ต้องเขินอาย และที่สำคัญประวัติการตรวจเป็นนิรนาม ไม่ถูกเปิดเผย เรามีทีมแพทย์และพยาบาลเฉพาะทางที่มีประสบการณ์ คอยให้คำแนะนำและให้การรักษาที่ตรงโรค ทำให้หายจากโรคอย่างเด็ดขาดได้ ที่สำคัญราคาชุดตรวจ รวมค่ายารักษาแล้ว พร้อมคำแนะนำ ในการรักษาคู่นอนกรณีพบความผิดปกติตามโรคที่พบอีกด้วย หากคุณมีอาการเหล่านี้ เช่น มีแผลที่อวัยวะเพศ มีตุ่ม/รอยผิดปกติ ตกขาวผิดปกติ ปัสสาวะผิดปกติ หรือสงสัยว่าจะได้รับเชื้อจากคู่นอน อย่าปล่อยให้อาการเป็นมาก หรือลุกลามแล้วค่อยรักษา สามารถติดต่อเข้ารับการตรวจและรักษาได้ที่ช่องทางด้านล่างนี้ได้เลย สนใจติดต่อปรึกษาหรือสอบถามรายละเอียดได้ทางFacebook: Sex disease ตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ By HealthSmileLine official: @Sex.diseaseInstagram: healthsmile.co.thWebsite: https://healthsmile.co.thTel: 0898749565