อยากมีร้านอาหารเป็นของตัวเอง เริ่มต้นจากการเปิดร้านในศูนย์อาหารดีไหม ? ต้องเตรียมตัวอย่างไร ? ไปดูกัน !
สำหรับคนที่สนใจอยากมีร้านอาหารเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะทำเป็นอาชีพหลัก หรือทำเป็นงานเสริมหารายได้พิเศษเพิ่มเติมจากการทำงานประจำ การเปิดร้านอาหารภายในศูนย์อาหาร หรือ Food Court เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจมาก เพราะศูนย์อาหารเป็นแหล่งรวมร้านอาหารและเครื่องดื่มมากมาย ทำให้เป็นที่นิยมของลูกค้า ด้วยตัวเลือกที่หลากหลาย ความสะดวกสบาย ซื้อมารับประทานได้อย่างรวดเร็วแม้ในเวลาเร่งรีบ อีกทั้งราคาก็ย่อมเยาเข้าถึงง่าย จึงมั่นใจได้เลยว่าเมื่อเปิดร้านแล้วจะมีลูกค้ารองรับอย่างแน่นอน ! นอกจากนี้ยังไม่ต้องเสียเวลาและปวดหัวกับการจัดหา จัดเก็บ ทำความสะอาดข้าวของอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ จาน ชาม ช้อน ส้อม เพราะทางศูนย์อาหารจะเป็นผู้รับผิดชอบจัดการให้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตามการเปิดร้านในศูนย์อาหารก็ต้องมีการวางแผนและเตรียมตัวที่ดี เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่น และดึงดูดความสนใจของลูกค้าให้ได้มากที่สุด จึงมีขั้นตอนที่ต้องทำก่อนเปิดร้าน ดังนี้
1. ศึกษาความต้องการของตลาด
สิ่งแรกที่ต้องทำคือ สำรวจว่าศูนย์อาหารตั้งอยู่บริเวณพื้นที่แบบไหน มีสถานที่สำคัญอะไรอยู่ใกล้เคียง กลุ่มลูกค้าทำอาชีพอะไร อายุเท่าไหร่ ตลอดจนภายในศูนย์อาหารนั้นมีร้านอะไรอยู่บ้าง หรือร้านประเภทไหนที่ยังไม่มี เพื่อนำมาวิเคราะห์ว่าควรจะขายอาหารประเภทไหน ในราคาเท่าไหร่ จึงจะเหมาะสม
นอกจากนี้ช่วงเวลาที่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการที่ศูนย์อาหารก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะศูนย์อาหารที่เปิดให้บริการใกล้ออฟฟิศ สำนักงาน หรือสถานที่ราชการ จะมีช่วงเวลาในการขายที่จำกัด แค่ช่วงเช้าจนถึงกลางวันเท่านั้น แต่ถ้าเป็นศูนย์อาหารที่ตั้งอยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าหรือที่อยู่อาศัย อย่าง "ตลาดมารวยปิ่นเกล้า" ช่วงเวลาในการขายก็จะกว้างกว่า ครอบคลุมตั้งแต่เช้าจรดเย็น
ทั้งนี้แนะนำให้ลงไปสำรวจและศึกษาข้อมูลที่ศูนย์อาหารด้วยตัวเองก่อนตัดสินใจเปิดร้าน เพื่อให้เข้าใจพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าอย่างใกล้ชิด และเพิ่มโอกาสในการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายได้อย่างถูกต้อง
2. เริ่มวางแผนก่อนเปิดร้าน
เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าจะเปิดร้านขายอะไร ก็มาเริ่มวางแผนเปิดร้านได้เลย โดยการวางแผนนี้จะต้องมีความละเอียด ครอบคลุมทั้งการจัดหาวัตถุดิบ และอุปกรณ์สำหรับทำอาหาร การกำหนดราคาขาย การหาพนักงานประจำหน้าร้าน วิธีทำการตลาด การทำบัญชี ฯลฯ เพื่อให้การเปิดร้านในศูนย์อาหารดำเนินไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ซึ่งศูนย์อาหารหลายแห่งที่มีประสบการณ์ยาวนาน จะสามารถให้คำปรึกษาในเรื่องเหล่านี้แก่มือใหม่ที่เริ่มต้นเปิดร้านได้
3. ติดต่อศูนย์อาหารเพื่อทำสัญญาเช่าพื้นที่
ขั้นตอนต่อมาก็คือ การติดต่อเจ้าของศูนย์อาหารเพื่อทำข้อตกลงเช่าพื้นที่ ซึ่งจะต้องศึกษาเงื่อนไขการเช่าพื้นที่ ค่าเช่า ระยะเวลาของสัญญาเช่า และข้อกำหนดอื่น ๆ ให้ชัดเจน เพื่อนำมาวางแผนจัดการต้นทุน รวมถึงปกป้องสิทธิ์ของตนเอง และป้องกันการเกิดข้อพิพาทในอนาคต
4. ลงมือออกแบบและตกแต่งร้าน
การออกแบบร้านให้มีความโดดเด่น สะดุดตา และน่าดึงดูดสำหรับลูกค้า เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะจะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายได้ นอกจากนี้ต้องคำนึงถึงความสะดวกในการทำความสะอาดและการจัดเก็บด้วย ซึ่งบางศูนย์อาหารก็มีเจ้าหน้าที่ ที่มีความรู้ในเรื่องการออกแบบ มาคอยให้คำปรึกษาในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
5. จัดหาวัตถุดิบและอุปกรณ์
การจัดหาวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูง และอุปกรณ์ เป็นขั้นตอนที่จำเป็นสำหรับการประกอบธุรกิจอาหาร จึงควรค้นหาซัพพลายเออร์ที่มีความน่าเชื่อถือ โดยติดต่อกับซัพพลายเออร์หลาย ๆ เจ้า เพื่อสอบถามราคาและนำมาเปรียบเทียบกัน ให้ได้วัตถุดิบและอุปกรณ์ที่เหมาะสม มีประสิทธิภาพ รวมถึงความคุ้มค่ามากที่สุด
6. ทำการตลาด
สิ่งสุดท้ายที่ต้องทำก็คือ การทำการตลาดเพื่อให้ร้านเป็นที่รู้จักมากขึ้น เพิ่มโอกาสให้ลูกค้ามองเห็นร้าน เพิ่มยอดขายให้กับร้าน โดยสามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการโปรโมตผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ โปรโมตผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย หรือการจัดโปรโมชันลดแลกแจกแถม ศูนย์อาหารหลายแห่งมีทีมงานการตลาดเป็นของตัวเอง ช่วยจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ และโปรโมตผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่ทางศูนย์อาหารมี ซึ่งจะเป็นการช่วยทำการตลาดให้ร้านอาหารในศูนย์เพิ่มอีกทาง
ปัจจุบันในประเทศไทยมีศูนย์อาหารอยู่หลายรูปแบบ ในหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์อาหารที่เปิดตามห้างสรรพสินค้า สถานที่จัดแสดงสินค้า มหาวิทยาลัย โรงเรียน รวมถึงศูนย์อาหารที่เปิดให้บริการด้วยตัวเอง อยู่ท่ามกลางชุมชน หรือใจกลางย่านธุรกิจแบบ “ตลาดมารวยปิ่นเกล้า” ก็มีเหมือนกัน โดยเป็นศูนย์อาหารที่มีจุดเด่นเรื่องทำเล เพราะตั้งอยู่ใจกลางย่านปิ่นเกล้า ห้อมล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้า และศูนย์การค้าชั้นนำมากมาย ทั้งเซ็นทรัลปิ่นเกล้า, โลตัสปิ่นเกล้า, เมเจอร์ปิ่นเกล้า และพาต้าปิ่นเกล้า ตลาดมารวยปิ่นเกล้าจึงกลายเป็นศูนย์อาหารทางเลือกอันดับหนึ่งสำหรับคนปิ่นเกล้าที่มองหาอาหารราคาถูก สะอาด สะดวก รวดเร็ว โดยที่ไม่ต้องเข้าห้าง
ด้วยประสบการณ์ในการทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร ร้านอาหาร และศูนย์อาหารมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีทีมงานคุณภาพที่พร้อมช่วยสนับสนุนตั้งแต่เริ่มต้นจนประสบความสำเร็จ ตลาดมารวยปิ่นเกล้าจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการมือใหม่ที่สนใจอยากก้าวเข้าสู่ธุรกิจอาหาร หรือมองหาโอกาสใหม่ ๆ ที่จะเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง Facebook : ตลาดมารวย ปิ่นเกล้า