อย่าพลาดโอกาสดี ๆ กับสุดยอดสินค้า 23 แบรนด์จากไต้หวันในมหกรรมสถาปนิก’ 67 เริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน โดยมุ่งมั่นนำเสนอในด้านการใช้ชีวิตอัจฉริยะและเมืองยั่งยืน เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างอุตสาหกรรมของไต้หวัน ไทย และอาเซียน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน – 5 พฤษภาคมนี้ ณ บูธ P105-P106 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ไม่ว่าจะเป็นการไลฟ์สตรีมโดยอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง การนำเสนอโซลูชันการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม พาทัวร์ชมสินค้า และอื่นๆ อีกมากมาย โดยได้รับเกียรติจากคณะจัดงานสถาปนิก’67 อาทิ นางสาวกุลธิดา ทรงกิตติภักดี, ดร.พร้อม อุดมเดช ประธานจัดงานร่วมสถาปนิก และนายศุภแมน มรรคา ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทีทีเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ให้เกียรติเข้าเยี่ยมชมบูธในครั้งนี้ นายไบรอัน ลี ผู้อำนวยการบริหารสายงานการตลาด Taiwan Excellence สภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกไต้หวัน (TAITRA) กล่าวว่า "ในฐานะผู้จัดงาน Taiwan Excellence ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เชิญชวนผู้จัดแสดงสินค้าและผู้ประกอบวิชาชีพจากประเทศไทยและอาเซียนในมหกรรมสถาปนิก’ 67 หวังเป็นการร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรมจากไต้หวัน ผนวกกับประสบการณ์ของไต้หวันและไทยในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และร่วมมือกันในแนวทางที่ยั่งยืนสำหรับการพัฒนาระดับนานาชาติ" ไต้หวันมีประสบการณ์อย่างกว้างขวางในการจัดการภัยพิบัติ และมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของประเทศไทยในการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวมตามแนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม ในปีนี้ นิทรรศการ Taiwan Excellence เกิดขึ้นจากแนวคิดความยั่งยืนด้วยการนำหลักการ 3Rs: การนำกลับมาใช้ใหม่ การลดปริมาณ และการรีไซเคิล มาประยุกต์ใช้ โดยมีวัสดุที่สามารถนำกลับมารีไซเคิลและใช้ซ้ำได้ถึง 96% นอกจากนี้ เพื่อเสริมสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันและไทย หลังเสร็จสิ้นงานจะมีการบริจาคของเล่นเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมให้แก่องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรในประเทศไทย เพื่อปลูกฝังความสนใจในการออกแบบทางสถาปัตยกรรมในหมู่เยาวชนอีกด้วย นายนิค นี ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจ สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย เผยว่า “Taiwan Excellence เป็นเหมือนสัญลักษณ์อุตสาหกรรมของไต้หวัน ซึ่งไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงคุณค่าด้านนวัตกรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรและแบรนด์ไต้หวันในเวทีระดับนานาชาติอีกด้วย” สานสัมพันธ์ทางความคิดเพื่อความยั่งยืน: สร้างศักยภาพร่วมกันระหว่างไต้หวันและไทย แบรนด์ AUO, E Ink และ YZTEK จะนำเสนอมุมมองเกี่ยวกับศักยภาพความร่วมมือระหว่างไต้หวันและไทยในสาขาเทคโนโลยีสถาปัตยกรรมภายใต้แนวคิด “สานสัมพันธ์ทางความคิดเพื่อความยั่งยืน : สร้างศักยภาพร่วมกันระหว่างไต้หวันและไทย” นายบีเรน ซิเอะ ผู้แทนจากบริษัท เอยูโอ เปิดเผยว่า “เราพยายามผสานนวัตกรรมที่ยั่งยืนเข้ากับการออกแบบที่โดดเด่นสำหรับอนาคต ด้วยความมุ่งมั่นในนวัตกรรมและคุณภาพระดับสูงสุด AUO นำเสนอ “FindARTs High Fidelity ART Display” จอแสดงผลคุณภาพระดับ museum-grade ยกระดับประสบการณ์ทางศิลปะในโรงแรมหรูและนิทรรศการ เทคโนโลยีล้ำสมัยของเราช่วยให้ผลงานมีความคมชัดที่เหนือกว่า พร้อมช่วยให้นักออกแบบสามารถนำเสนอผลงานได้อย่างแม่นยำ ด้วยการบูรณาการผลงานศิลปะอย่างกลมกลืน เราได้นิยามความหรูหราใหม่ สร้างจุดสนใจที่น่าดึงดูดในวงการศิลปะและการออกแบบที่มีชีวิตชีวาของกรุงเทพฯ ได้อย่างลงตัว” นายอัลเบิร์ต เหลียง รองประธานอาวุโส บริษัท อี อิงค์ กล่าวถึงโอกาสและความเป็นไปได้ในการใช้ ePaper ในการสร้างเมืองอัจฉริยะและเมืองแห่งการออกแบบว่า “เรามุ่งมั่นที่จะสร้างนวัตกรรมที่ยั่งยืน ควบคู่ไปกับการออกแบบที่โดดเด่นและล้ำสมัย ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมจอแสดงผลกระดาษอิเล็กทรอนิกส์ E Ink มุ่งมั่นที่จะพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้คนในยุคของเมืองอัจฉริยะ ePaper โดดเด่นด้วยการใช้พลังงานต่ำและความสามารถในการแสดงข้อมูลดิจิทัลอย่างชัดเจน เปิดโอกาสให้เราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้อย่างครอบคลุมในสถาปัตยกรรม หน้าอาคาร และงานศิลปะสาธารณะ ซึ่งจะเป็นการสร้างสีสันและมิติใหม่ให้กับเมืองในอนาคต” นายแพทริค ลู ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท วายซีเทค เน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะในชีวิตประจำวัน โดยระบุว่า “ด้วยเป้าหมายในการยกระดับคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยของผู้คนผ่านนวัตกรรมเทคโนโลยีอัจฉริยะ YZTEK มุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อัจฉริยะเพื่อให้ความมั่นใจและความสงบสุขแก่ผู้บริโภค ผลิตภัณฑ์ตรวจจับด้วยเซนเซอร์ของเรา เช่น e+Autoff ถูกออกแบบมาให้ติดตั้งบนเตาแก๊ส เพื่อช่วยตรวจสอบและแจ้งเตือนความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นภายในบ้าน เช่น การรั่วไหลของก๊าซหรือการปล่อยก๊าซพิษ เราตั้งใจที่จะคิดค้นนวัตกรรมอัจฉริยะเพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของทุกคน” คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น: โซลูชันจากไต้หวัน เทคโนโลยีทางวัฒนธรรม: เทคโนโลยีสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในงานด้านวัฒนธรรมและศิลปะได้อย่างน่าสนใจ บริษัทชั้นนำเช่น AUO ที่ได้พัฒนาจอแสดงผลที่มีคุณภาพสูง เหมาะสำหรับการนำมาใช้จัดแสดงผลงานศิลปะและจิตรกรรมในสถานที่ระดับพรีเมียมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมหรู แกลเลอรี่ศิลปะ หรือพิพิธภัณฑ์ชั้นนำ เทคโนโลยีนี้ช่วยให้การจัดแสดงงานมีความสวยงามและทันสมัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ePaper ผลงานของ E INK ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในแอปพลิเคชันเมืองอัจฉริยะ เช่น ป้ายราคาดิจิทัลในซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือจอแสดงผลข้อมูลการเดินทางบนป้ายรถเมล์ ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยเพิ่มความงดงามและความทันสมัยให้กับการจัดแสดงงานได้อย่างมาก บ้านอัจฉริยะ: แบรนด์ชั้นนำอย่าง Acerpure, YZTEK, Waterson และ Tokuyo มีกลุ่มเป้าหมายหลักที่สำคัญ ได้แก่ ผู้บริโภคทั่วไป ร้านค้าปลีกสินค้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในบ้าน รวมถึงผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการนำผลิตภัณฑ์อัจฉริยะเหล่านี้มาใช้ในโครงการของตน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประจำวัน การก่อสร้างอย่างยั่งยืน: ในยุคปัจจุบันความยั่งยืนเป็นสิ่งสำคัญ นำไปสู่การนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการก่อสร้างอย่างแพร่หลาย บริษัทต่างๆ เช่น Hiss, San Jeou, Walrus, Everlight และ AMA Tech ผลิตวัสดุก่อสร้างเฉพาะทางที่มีคุณสมบัติ เช่น การถ่ายเทอากาศ ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กลุ่มลูกค้าเป้าหมายรวมถึงหน่วยงานภาครัฐ โรงงานอุตสาหกรรม และบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มุ่งเน้นอาคารสมัยใหม่และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพ: ผู้ผลิตอย่าง Sheng Yuan, FECA และ Sheng Tai ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ในขนาดและรูปแบบต่างๆ สำหรับใช้ภายในอาคาร เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มต่างๆ ตั้งแต่ผู้บริโภคทั่วไป ร้านค้าปลีกสินค้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในบ้าน ไปจนถึงผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประจำวันด้วยทั้งการออกแบบที่สวยงามและฟังก์ชันการใช้งานที่ปฏิบัติได้จริง ในปีนี้ Taiwan Excellence สอดคล้องกับแนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน โดยสนับสนุนการออกแบบและนวัตกรรมสำหรับโซลูชันสำหรับเมืองอัจฉริยะในเศรษฐกิจ BCG ผลิตภัณฑ์ที่จัดแสดงได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยอย่างครบถ้วน โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการรับมือกับประเด็นสำคัญต่างๆ เช่น การปรับปรุงการระบายอากาศเพื่อป้องกันปัญหามลพิษทางอากาศ ลดผลกระทบจากภัยพิบัติที่เกี่ยวข้องกับน้ำ และการทำให้น้ำสะอาดสำหรับการบริโภค ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้จัดแสดงจากไต้หวันในมหกรรมสถาปนิก’ 67 ได้ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน – 5 พฤษภาคมนี้ ณ บูธ P105-P106 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 อิมแพ็ค เมืองทองธานี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เพจ Taiwan Excellence TH Facebook ที่ https://www.facebook.com/TaiwanExcellence.TH/