บทสัมภาษณ์สุดพิเศษกับ คุณเปด สุกสาคอน สิมมาลาวง ผู้บริหารที่น่าจับตามองของประเทศลาวตอนนี้

  หากพูดถึงผู้บริหารที่น่าจับตามองของประเทศลาวในขณะนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จัก คุณเปด สุกสาคอน สิมมาลาวง (Mr.Souksakhone Simmalavong) หรือ ທ່ານ ສຸກສາຄອນ ສິມມາລາວົງ ผู้บริหารที่คร่ำหวอดในวงการโทรคมนาคม และวงการไอทีมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังเป็นผู้ก่อตั้ง Lao Technology Provider Sole Co., Ltd. หรือ LTP (ບໍລິສັດ ລາວ ເທັກໂນໂລຊີ ໂຟວາຍເດີ ຈຳກັດ ຜູ້ດຽວ) ที่ให้บริการด้านโทรคมนาคมและไอทีทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น Network, Security, System, Data Center, Infrastructure, Telecommunication, Consulting, Design, Installation, Penetration Testing, Maintenance and Training โดยเป็นพาร์ตเนอร์กับผลิตภัณฑ์ชั้นนำของโลกด้านโทรคมนาคมและไอที ที่ในวันนี้ให้เกียรติสัมภาษณ์ถึงเส้นทางความสำเร็จแบบ Exclusive

  คุณเปด สุกสาคอน สิมมาลาวง จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติรุ่นที่ 19 ของภาควิชาวิศวกรรมโยธา และศึกษาปริญญาโทด้านการพัฒนาโครงการและการบริการจากคณะเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยแห่งชาติ แต่ด้วยความชื่นชอบด้านไอทีและโทรคมนาคมเป็นพิเศษ เริ่มแรกคุณเปดทำงานด้านวิศวกรรมโยธา และโทรคมนาคม ซึ่งค้นพบว่าการบริหารโครงการในทุกรูปแบบเป็นสิ่งที่น่าสนใจและรู้สึกหลงใหล จึงทำให้เลือกเรียนด้านการพัฒนาโครงการและการบริการด้านไอทีและโทรคมนาคม ด้วยความรู้และความเข้าใจองค์กรและโครงสร้างของงานด้านไอทีและโทรคมนาคมเป็นอย่างดี ผสานกับความสนุกที่ได้ทดลองใช้งานเทคโนโลยีใหม่ ๆ ส่งผลให้เป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จในครั้งนี้

  ด้วยความเชี่ยวชาญผนวกกับประสบการณ์ที่สะสมมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ร่วมงานกับ Millicom Lao Co., Ltd (Tigo) ในตำแหน่งวิศวกรโยธา รับผิดชอบในการสำรวจ ออกแบบ และควบคุมการก่อสร้างสถานีโทรศัพท์มือถือทั่วประเทศลาว จากนั้น คุณเปด สุกสาคอน สิมมาลาวง ได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าโครงการขยายโครงข่ายแล้วจึงรับผิดชอบ สำหรับบริหารจัดการหลายโครงการในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม เช่น: โครงการขยายโครงข่ายสายส่ง และโครงการขยายสัญญาณเครือข่าย 2G, 3G และ 4G ทั่วประเทศ และ โครงการอื่นๆ. ต่อมายังได้มีโอกาสร่วมงานกับ Best Telecom Co., Ltd บริษัทโทรคมนาคมขนาดใหญ่ของลาวในปี 2018 – 2023 โดยดูแล และ บริหารระบบเครือข่าย, โครงการขยายเครือข่าย GPON ทั่วประเทศ, และรวมถึงการบริหารโครงการอื่น ๆ ทำให้ยิ่งรู้สึกว่าเราสามารถพัฒนาระบบต่าง ๆ ให้ก้าวทันโลกได้

  ปัจจุบัน คุณเปด สุกสาคอน สิมมาลาวง ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการ Sisan International Joint Development Sole Co., ltd ซึ่งมีโครงการความร่วมมือกับภาคเอกชนและภาครัฐมากมาย เช่น: โครงการพัฒนาพลังงานไฟฟ้าพลังน้ำ, พลังงานแสงอาทิตย์ และ โครงการ จัดระเบียบสายส่งโทรคมนาคม ลงใต้ดิน ในขอบเขดทั่วประเทศ และเป็นผู้ก่อตั้ง บริษัท Lao Technology Provider Sole Co., Ltd. (LTP) ซึ่งดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับ ไอที และโทรคมนาคมเป็นหลัก เพื่อส่งมอบความทันสมัยอย่างยั่งยืนให้กับประเทศลาว

  คุณเปด สุกสาคอน สิมมาลาวง เผยถึงจุดเริ่มต้นของการก่อตั้ง LTP ในประเทศลาวว่า "ผมมองเห็นโอกาสมากมายในโลกไอที และความชอบหรือจะเรียกว่าความหลงใหลส่วนตัวก็ว่าได้ ในการบริหารจัดการโครงการต่าง ๆ ด้านนี้ ผมมั่นใจว่าจากความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของทั้งตัวผมเองและทีมงาน รวมถึงพาร์ตเนอร์ของเรา จะทำให้เราได้มีส่วนร่วมในการนำพาประเทศและพัฒนาให้ระบบทั้งภาครัฐและเอกชน ทัดเทียมและสามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้"

  อย่างไรก็ตามสถานการณ์ไอทีและโทรคมนาคมในปัจจุบันในประเทศลาว หลาย ๆ ส่วนได้กลายมาเป็นองค์กรและบริษัทสมัยใหม่ รวมถึงภาครัฐที่ต้องใช้ระบบไอทีเข้ามาช่วยในด้านต่าง ๆ ซึ่งภายในประเทศยังต้องการผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ และความสามารถ เพื่อสนองความต้องการพัฒนาอยู่อีกมาก จึงเป็นโอกาสที่ดีที่ บริษัท Lao Technology Provider Sole Co., Ltd. (LTP) จะได้มีส่วนพัฒนาประเทศให้เติบโตเท่าเทียมระดับอาเซียนและระดับโลก เนื่องจากไอทีและโทรคมนาคมหรือการสื่อสารเป็นระบบที่พัฒนาแบบก้าวกระโดดในทุก ๆ ปี โดยเฉพาะการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น: การพัฒนาเครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือโทรคมนาคม โดยเฉพาะเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมโยงกันทั่วโลก ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ช่องทางการดำเนินธุรกิจ เช่น : การทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์, การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์, การผ่อนคลายด้วยการดูหนัง ฟังเพลง และบันเทิงต่าง ๆ เกมออนไลน์ ทำให้สามารถค้นหาตำแหน่งได้อย่างแม่นยำ การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการของภาครัฐ รวมทั้งระบบฐานข้อมูลประชาชน ดังนั้นเราจึงปฏิเสธไม่ได้ว่าเราจำเป็นต้องก้าวให้ทันโลกในทุก ๆ ด้าน

  ด้วยวิสัยทัศน์ของระบบไอทีในอนาคตของ คุณเปด สุกสาคอน สิมมาลาวง เผยว่า "การเติบโตอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีเพียงช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ได้มีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตของผู้คนและการดำเนินธุรกิจ ทำให้เกิดการแยกจากกันไม่ได้อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้เทคโนโลยีเติบโตขึ้นอย่างฉุดไม่อยู่นี้ สามารถสร้างความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก และทำให้หลาย ๆ ธุรกิจขับเคลื่อนไปข้างหน้า สร้างเป็นระบบเศรษฐกิจที่มีความมั่นคงและทันสมัย มองในมุมกลับกัน หากเราหรือองค์กรไม่สามารถอยู่ร่วมกับเทคโนโลยี หรือปรับตัวให้ทันเทคโนโลยี ก็มีความเสี่ยงที่จะล้าหลังคู่แข่งหรือผู้คนในสังคมได้ ในอนาคต Generative AI (Gen AI) จะเข้ามากระตุ้นให้โลกพลิกโฉมอย่างรวดเร็วในทุก ๆ ด้าน ส่วนตัวผมเห็นว่าความได้เปรียบในการแข่งขันขึ้นอยู่กับว่าใครมี Gen AI ที่ก้าวล้ำที่สุดครับ"