สุวัจน์ เป็นประธานเปิดงานเดินแบบผ้าไทย สร้างค่านิยม ใช้ผ้าไทย ใช้สินค้าไทย ไทยทำ ไทยใช้ สู้วิกฤตเศรษฐกิจ วันที่ 13 สิงหาคม 2567 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน 'Elegance of Thai Woman' วันแม่และวันผ้าไทยแห่งชาติ โดยมี นาย พลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน,นางอุษา พวงวลัยสิน นายกกิ่งกาชาด อ.หัวหิน, นายอาชวันต์ กงกะนันทร์ ผอ. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ร่วมงานกันอย่างคับคั่ง ณ พราวไทย บลูพอร์ต หัวหิน นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ กล่าวว่าเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พสกนิกรชาวไทยทั่วประเทศได้ร่วมกันจัดงานเทิดพระเกียรติถวายพระพรร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดี และสํานึกในพระมหากรุณาธิคุณ วันที่ 12 สิงหาคม เป็นวันแม่แห่งชาติ และเป็นวันผ้าไทยแห่งชาติ ฉะนั้น วันนี้ได้มีการจัดกิจกรรมเดินแบบผ้าไทย ที่บูลพอร์ตหัวหิน ถือว่าเป็นกิจกรรมเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถพระบรมราชินีพันปีหลวง ได้ทรงมีพระราชกรณียกิจต่อประเทศชาติมากมาย โดยเฉพาะในเรื่องผ้าไทย พระองค์ท่านได้ทรงสนับสนุนส่งเสริมและอนุรักษ์ผ้าไทยตามชนบทต่างๆ จนกระทั่งผ้าไทยเป็นที่รู้จักทั่วโลก ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจและมีการต่อยอดให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ สร้างอาชีพให้กับพี่น้องประชาชน เป็นเอกลักษณ์ของชาติ เป็นความภาคภูมิใจของชาติ เป็นวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ เป็นพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่สามารถจะต่อยอดได้ นายสุวัจน์ กล่าวว่าการจัดงานนี้ถือว่ามีประโยชน์อย่างยิ่ง ที่สามารถจะสร้างบุคลิกของผ้าไทย ให้เกิดตามเมืองท่องเที่ยวต่างๆ นักท่องเที่ยวเวลาเข้ามาก็จะเห็นสินค้าไทยเป็นการส่งเสริมให้เกิดความรู้จักในเรื่องของสินค้าไทยมากขึ้น และเป็นเรื่องที่มีความสำคัญต่อประเทศ เพราะวันนี้ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจของประเทศเศรษฐกิจโตปีละหนึ่งเปอร์เซ็นต์กว่า หนี้สาธารณะกู้เงินมากว่า 60% ของจีดีพี หนี้ภาคประชาชนวันนี้ 90% ของจีดีพี สินค้าแพง น้ำมันแพง ฉะนั้น รัฐบาลได้พยายามที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจทางโครงการต่างๆ เพื่อที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในยามยาก และสิ่งหนึ่งที่จะต่อสู้กับวิกฤติ ต่อสู้กับปัญหา คือ ต้องเอาความเป็นไทยเข้าสู้ เอาความรักชาติ เอาความเป็นชาตินิยม ไทยทำไทยใช้ เพื่อจะได้ต่อสู้กับสินค้าต่างประเทศที่เข้ามาแข่งขัน เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการทั้งประเทศ ฉะนั้นการใช้สินค้าไทย การใช้ผ้าไทยจะช่วยให้เกิดความรักชาติ ค่านิยม มากอบกู้เศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้ ภายในงานได้มีการแสดงแฟชั่นโชว์ผ้าไทยอัตลักษณ์พื้นถิ่น 4 ภาค ประกอบดนตรีสดจากวงเยาวชนในพื้นที่หัวหินโดยมีชุดที่ออกแบบจากกลุ่ม New Generation Designer ดีไซเนอร์รุ่นใหม่หัวใจไทย แบรนด์ KAYA , BALC by Kamonmanee , AKARA และ LONGGOY ที่ปีนี้ชุดทั้งหมดถูก ออกแบบมาในคอนเซป “ผ้าไทยใส่สนุกทั้ง 4 ภาค” โดยได้นางแบบและนายแบบรับเชิญสุดพิเศษดีกรีความงามระดับประเทศ นิ้งค์ พรศิริกุล พั่วทา รองอันดับ1 นางสาวไทย 2567,ร.ต.อ.หญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก รองอันดับ 2 นางสาวไทย 2567 ,เจนนิเฟอร์ โจนส์ รองอันดับ4 Miss Universe Thailand 2023 และฟ็อก ปรเมษฐ์ มั่นยืน รองอันดับ 2Mister Global Thailand 2024 ที่มาร่วมเดินปิดท้ายฟินาเล่สร้างสีสันและความคึกคักให้กับโซนพราวไทย นอกจากนี้ มีการจัดนิทรรศการผ้าไทยที่หาชมยาก เนื่องในวันผ้าไทยแห่งชาติ โดยเป็นการนำเสนอผลงานผ้าทอมืออันวิจิตรงดงามและหาชมได้ยากจากการรังสรรค์ของชุมชนและช่างฝีมือในพื้นถิ่นต่างๆ ทั่วประเทศ และยังได้มีการจัดกิจกรรมการแสดงดนตรี “ Music for Mom” ถ่ายทอดความรักจากลูกสู่แม่ โดยกลุ่มน้องๆ จากสถาบันดนตรี HuaHin music studio by kru Sol ,กิจกรรมเวิร์คช้อป สร้างเอกลักษณ์ของตัวเองลงผ้าไทยกับ Print Your Own Fabric Workshop เพื่อเป็นของขวัญชิ้นพิเศษ มอบให้แด่คุณแม่ สร้างความอบอุ่นอิ่มเอมใจให้กับคู่แม่ลูกที่มาร่วมทำกิจกรรม