สุวัจน์ ชวนคนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน ร่วมใจสู้ภัยน้ำท่วม มอบเรือกู้ภัย ให้ ฮุก31 พร้อมเงินและสิ่งของ เป็นตัวแทนชาวโคราช อาสาสู้ภัยน้ำท่วมทั่วประเทศ วันที่ 10 ตุลาคม 2567 เวลา 11.00 น.นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานพรรคชาติพัฒนา เป็นประธานเปิดโครงการคนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกันรวมใจสู้ภัยน้ำท่วม ร่วมกับมูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา (ฮุก 31) โดยมอบเรือกู้ภัย PE 450 Red Boar พร้อมมอบเงินสนับสนุนการปฏิบัติงานกู้ภัยน้ำท่วม โดยมี นายประวิทย์ อัศวินชัย ประธานมูลนิธิพุทธรรม 31 นครราชสีมา นายอภิภวัส ตั้งนันทนาการ ประธานมูลนิธิสว่างเมตตาธรรมสถาน นายวัชรพล โตมรศักดิ์ รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา นางสาวพรศรี พริ้งสุวรรณ ตัวแทน บริษัทพราวกรุ๊ป นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา พร้อมคณะสท.พี่น้องประชาชนชาวโคราช ร่วมพิธี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดสถานการณ์น้ําท่วมสุโขทัย น่าน เชียงราย ไปหนองคาย ล่าสุดมาลำพูนสถานการณ์ยังน่าเป็นห่วงในพื้นที่ตอนล่างของเขื่อนเจ้าพระยา แถวอยุธยา ปทุมธานี และกรุงเทพฯ และมีผู้ประสบภัยพี่น้องประชาชนเดือดร้อนกันเยอะมาก ซึ่งทั้งภาครัฐภาคเอกชนก็ลงมาช่วยกัน ทางรัฐบาลก็มีศูนย์ในการช่วยเหลือ รัฐมนตรีต่างๆ ก็ลงพื้นที่ แต่ว่าในภาคเอกชนอะไรที่เราช่วยกันได้ก็ต้องช่วยกัน ฉะนั้น ทางจังหวัดนครราชสีมาก็มีมูลนิธิที่มีอาสาสมัครและมีประสบในการเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นหน่วยกู้ภัย ของ มูลนิธิหลัก เสียงเซี่ยงติ๊ง (สว่างเมตตาธรรมสถาน) กับมูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา (ฮุก 31) ซึ่งทั้งสองมูลนิธิเกาะติดกับสถานการณ์น้ําท่วม และส่งทีมงานต่างๆ ลงไปช่วยซึ่งทีมงานก็จะมีอาสาสมัคร ทีมหนึ่งประมาณ 30 กว่าคน หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันไป มีรถศูนย์ รถตู้ รถพยาบาล เรือกู้ภัย และพี่น้องประชาชนชาวโคราชก็รวมใจกันบริจาคข้าวสารอาหารต่างๆ ผ่านทางมูลนิธิ ในการช่วยเหลือกู้ภัยน้ำท่วม ในวันนี้ก็เป็นการรวมน้ําใจคนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน มีหน่วยงานเอกชน พี่น้องประชาชนชาวชุมชนต่างๆ มาร่วมกันบริจาค อย่างวันนี้ มีการบริจาคเรือกู้ภัยรุ่น “PE 450R Red Boat” เป็นเรือชนิดพิเศษที่เรือจะไม่คว่ำ โดยได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชน คือ บริษัทพราวกรุ๊ป และคนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน มอบเงินให้ทั้งสองมูลนิธิละ 200,000 บาท นอกจากนี้ ห้างใต้ฟ้าซิตี้ มอบเรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ จำนวน 1 ชุด และพี่น้องประชาชนชาวโคราชมอบเงิน มอบอะไรต่างๆ อีกมากมาย เพื่อเป็นเสบียง เพราะมูลนิธิทำงานด้วยเงินบริจาค และอาสาสมัครกู้ภัยก็เป็นจิตอาสา ฉะนั้น การดําเนินงานทั้งสองมูลนิธิก็สามารถที่จะลดภาระเข้าไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ ดังนั้น คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกันก็จะสนับสนุนการทํางานของทั้งสองมูลนิธิ จนกว่าสถานการณ์น้ําท่วมจะคลี่คลาย ก็อาจจะมีเรือเพิ่ม หรือเรื่องของอาสาสมัครหรืออุปกรณ์ต่างๆหรือข้าวสารอาหารต่างๆ ที่จะไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชน นายสุวัจน์ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วม ว่าเราควรจะมีมาตรการหรือมีโครงการใหญ่ๆ เป็นแผนแม่บทจัดทำเป็นวาระแห่งชาติ ในการป้องกันน้ำท่วม น้ำแล้ง อุทกภัย วาตภัยต่างๆ จะเป็นการสร้างความยั่งยืนในการแก้ไขปัญหาและยั่งยืนในการพัฒนาประเทศ ว่าจะบริหารจัดการน้ำอย่างไร จะมีการสร้างระบบระบายน้ำไปถึงมือเกษตรอย่างไร ระบบขนส่งน้ำหรือเขื่อน อ่างเก็บน้ำที่จะสามารถรับน้ำไว้ป้องกันปัญหาน้ำแล้ง หรือการระบายน้ำต่างๆ ไปตามแม่น้ำ ลำคลอง เขื่อนต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วม จะเป็นการสร้างความยั่งยืนในการแก้ไขปัญหาและยั่งยืนในการพัฒนาประเทศ