สุวัจน์ เปิดเวที ISANNEXT พลิกเศรษฐกิจไทยฝ่าวิกฤตโลก ชี้ทิศทางเศรษฐกิจ-เกษตร-อาหาร -บริการ -ท่องเที่ยว- มรดกวัฒนธรรม-คมนาคม อีสานสู่สากล ม.ราชภัฏโคราช วันที่ 20 ธันวาคม 2567 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา เป็นประธานเปิดงานสัมนา “ISANNEXT พลิกเศรษฐกิจไทยฝ่าวิกฤตโลก” จัดโดย เครือมติชน ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา เพื่อที่จะหาทางออกว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยขณะนี้ เราจะฝ่าวิกฤตกันไปได้อย่างไรโดยใช้พื้นฐานอีสาน โดยมีผู้เข้าร่วมเสวนา นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นางจินตนา ตันศราวุธ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงานสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) และ รศ.ดร.อิดศร เนาวนนท์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา พร้อมหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน หอการค้าจังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด การท่องเที่ยวฯ พ่อค้านักธุรกิจ พี่น้องประชาชนขาวโคราช ณ ห้องประชุมราชภัฏรังสฤษฏ์มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ กล่าวว่า วิกฤตเศรษฐกิจหลายอย่างที่เกิดขึ้นกับประเทศไทย สืบเนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจของโลกที่เกิดขึ้น เป็นปัจจัยภายนอกที่เราควบคุมไม่ได้ ในเรื่องของภูมิรัฐศาสตร์ เรื่องเทคโนโลยี ปัญหาเรื่องโลกร้อน ปัญหาเรื่องสงคราม ส่งผลกระทบมาถึงเรา แต่ขณะเดียวกันก็มีปัญหาภายใน คือ ปัญหาเรื่องหนี้รัฐ หนี้สาธารณะ เรื่องหนี้ภาคประชาชนหรือหนี้ครัวเรือน ปัญหาเรื่องจีดีพี ปัญหาเรื่องอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องเทคโนโลยีต่างๆ และยังมีปัญหาเรื่องสังคมผู้สูงวัย ดังนั้น ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นวันนี้ภายในกับปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก มารวมกันทำให้จีดีพีเราไม่ดี ถ้าสิ้นปีนี้โชคดีอาจจะได้สัก 3% ฉะนั้น ตนคิดว่าวันนี้ถึงเวลาแล้วที่เราต้องเข้ามาดูเรื่องโครงสร้างเศรษฐกิจกันอย่างจริง ว่าโครงสร้างเศรษฐกิจในปัจจุบันไปได้ไม่ อย่างไร นายสุวัจน์ กล่าวว่าถ้าจะต้องรบ ต้องรบบนจุดแข็ง อย่าไปรบบนจุดอ่อน และต้องหาตัวตนให้เจอ หาจุดแข็งของประเทศไทยให้เจอว่าอะไรเป็นพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่เป็นจุดแข็งแล้วนําสิ่งนั้นมาต่อสู้มาสู้กับวิกฤตเศรษฐกิจโลก ซึ่งจุดแข็งในตัวตนของประเทศไทย คือ 1.เป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่ในด้านการเกษตรของโลก 2.เป็นประเทศที่ผลิตอาหารป้อนโลก 3.เป็นประเทศที่มีการให้บริการที่ดีที่สุดในโลก 4.เป็นประเทศท่องเที่ยวของโลก 5,เป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ด้วยวัฒนธรรม ฉะนั้น ต้องหยิบจุดแข็งทั้ง 5 เรื่อง คือ เกษตร อาหาร บริการ ท่องเที่ยว วัฒนธรรม ซึ่งเป็นพื้นฐานของโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ของประเทศ เราจะไม่แพ้ใคร จะสร้างความยั่งยืน และสิ่งต่างๆ เหล่านี้มีอยู่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะที่ภาคอีสาน ดังนั้น วันนี้นําไปสู่การสัมมนาว่าภาคอีสานจะมีพื้นฐานอะไรบ้าง ที่จะมาต่อยอดทางเศรษฐกิจ ที่จะมาเป็นแพลตฟอร์มใหม่ ให้กับระบบเศรษฐกิจในประเทศไทย เราใช้คําว่า ISANNEXT คือ พลิกวิกฤตเศรษฐกิจของไทย ฝ่าวิกฤติโลก โดยมีจุดแข็ง ดังนี้1.มีประชากร 1 ใน 3 ของประเทศ 2.จีดีพี 10% ของจีดีพีประเทศ 3.อุดมสมบูรณ์ ในเรื่องภาคการเกษตร มันสําปะหลัง ข้าว อ้อย 4.อุดมสมบูรณ์ด้วยอาหาร 5.เรื่องศิลปะวัฒนธรรมเต็มพื้นที่ภาคอีสาน 6. อีสานเป็นเมืองท่องเที่ยว 7. โครงสร้างพื้นฐาน รถไฟความเร็วสูง มอเตอร์เวย์ต่างๆ ที่สามารถต่อยอดกับเศรษฐกิจ 8. มีแรงงานมากที่สุดในประเทศไทย 9.มีเรื่องพลังงานทดแทน 10.มีชัยภูมิ หรือฮวงจุ้ยของอีสาน เป็นแผ่นดินที่มีความเป็นสากล ติดแม่น้ําโขง ข้ามไปประเทศจีน ข้ามไปเอเชียแปซิฟิก ท่านพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ พูดเมื่อ 30 ปีที่แล้ว “อีสานเป็นประตูสู่อินโดจีน” ฉะนั้น 10 เรื่อง ที่เป็นพื้นฐานเป็นจุดแข็ง ถูกนํามาเจียระไน ในงานสัมมนาวันนี้ เพื่อหามาตรการ นโยบาย ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจของโลก โดยเชิญนักวิชาการ ข้าราชการ และท่านพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะพูดเรื่องแก้หนี้ให้กับคนอีสานอย่างไร ท่านสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พูดเรื่องการต่อยอดเรื่องโครงสร้างพื้นฐานการเชื่อมอีสานสู่โลกอย่างไร ท่านศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พูดเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของน้ำสำหรับภาคการเกษตรในอีสาน ท่านฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พูดเรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม ท่านจินตนา ตันศราวุธ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงานสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) พูดเรื่องระเบียงเศรษฐกิจของภาคอีสาน ว่าจะมีประโยชน์ต่อการลงทุน ต่อนักลงทุนอย่างไร และ รศ.ดร.อิดศร เนาวนนท์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาจะฉายภาพจุดแข็งของภาคอีสาน เรื่องระเบียงเศรษฐกิจของภาคอีสาน ว่าจะมีประโยชน์ต่อการลงทุน ต่อนักลงทุนอย่างไร และสุดท้ายได้รับเกียรติจากท่านอดีตนายกรัฐมนตรี พณฯ ดร.ทักษิณ ชินวัตร ที่ถือว่าเป็นผู้ที่มีประสบการณ์เรื่องเศรษฐกิจจะมาพูดเรื่องวิสัยทัศน์ในการที่จะพัฒนาภาคอีสาน ในหัวข้อว่า“โอกาสของอีสาน อนาคตของประเทศไทย” นอกจากนี้ ในช่วงเย็นจะเชิญท่านผู้มีเกียรติได้ร่วมกันรับประทานอาหารอีสานพร้อมกับชมซอฟต์พาวเวอร์ การแสดงทางด้านวัฒนธรรมอีสาน เพื่อให้เห็นชัดเจน ว่าอีสานมีจุดแข็งอะไรบ้าง “ตนหวังว่าการสัมมนาวันนี้ จะนําไปสู่การจุดประกาย ว่าอีสานมีอะไรนําไปสู่มาตรการ หรือนําไปสู่นโยบายต่างๆ ว่าเราจะต่อยอดจากของดีที่อีสานมีอยู่ มากอบกู้ ต่อสู้วิกฤตเศรษฐกิจของชาติ”นายสุวัจน์ กล่าว