สุวัจน์ เปิดงานวันเด็กโคราช เชิญชวนร่วมกันสร้างคุณภาพให้กับเด็ก เพื่อเป็นกำลังสำคัญด้านเศรษฐกิจ ในช่วงที่ประเทศเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย
สุวัจน์ เปิดงานวันเด็กโคราช เชิญชวนร่วมกันสร้างคุณภาพให้กับเด็ก เพื่อเป็นกำลังสำคัญด้านเศรษฐกิจ ในช่วงที่ประเทศเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย แนะนำเด็กทุกคน ออกกำลังกายเล่นกีฬา
เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2568 ที่ห้องเอ็มซีซีฮอลล์ ชั้น 3 ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการเปิดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ซึ่งทางเทศบาลนครราชสีมา ร่วมกับเดอะมอลล์นครราชสีมา จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-12 มกราคม 2568 ภายใต้ชื่อ “THE MALL KORAT KIDS FUNTASIA” โดยได้รับเกียรติจากนายเทวัญ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคชาติพัฒนานายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา และทีมสท.โคราชชาติพัฒนา นายปรีชา ลิ้มอั่ว ผจก.ทั่วไปปฏิบัติการ บจ.เดอะมอลล์ราชสีมา, นางพินสิริ นามสีฐาน เพ็งงาน ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัว จ.นครราชสีมา, คณะผู้พิพากษาสมทบ, ผู้บริหารธนาคารออมสิน, ผู้บริหารมหาวิทยาราชภัฏนครราชสีมา, ผู้บริหารมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และมีประชาชนชาวโคราช และจังหวัดใกล้เคียง พาบุตรหลานและครอบครัวเข้าร่วมงานกว่า 2,000 คน
ซึ่งบรรยายกาศภายในงานน้องๆ จะได้สนุกกับ บ้านลมยักษ์ วิ่งล่าท้าความสนุก, Laser Maze ตะลุยแสงเลเซอร์สุดท้าทาย, ตื่นตาตื่นใจไปกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ และเรียนรู้การเกิดไม้กลายเป็นหิน ร่วมสร้างสรรค์ผลงานจากของเสียสู่ของสวย ด้วยเศษเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียนพร้อมพบกับกิจกรรมฝึกทักษะการเล่นผ่านสื่อสัมผัสและสันทนาการอย่างสนุกสนาน อาทิ Art & Craft. ชมการแสดง Science Show และลุ้นรับของรางวัลมากมาย ชมและเชียร์การแสดงความสามารถของน้อง ๆ จากโรงเรียนต่างๆ ในจังหวัดนครราชสีมา และมาเปิดประสบการณ์ความสุขสนุกมหาศาล THE MALL KORAT KIDS FUNTASIA ภายใต้สโลแกนวันเด็กแห่งชาติ 2568 “ทุกโอกาส คือการเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง”
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดงานวันเด็กแห่งชาติ ที่ทางเทศบาลนครนครราชสีมา ได้ร่วมกับเดอะมอลล์โคราช จัดขึ้นติดต่อกันมาเป็นประจําหลายปี และปีนี้จัดภายใต้ชื่องานว่า “THE MALL KORAT KIDS FUNTASIA” ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ผู้หลักผู้ใหญ่ ส่วนราชการภาคเอกชนได้ให้ความสําคัญกับเด็กๆและเยาวชน เพราะวันนี้เด็กๆ และเยาวชนถือว่าเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า และเป็นโอกาสของประเทศชาติอย่างแท้จริง
นายสุวัจน์ กล่าวว่าวันนี้ เมืองไทยก้าวสู่การเป็นเมืองสังคมผู้สูงมากขึ้น ทำให้ปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศ คือ เมื่อมีผู้อายุมากขึ้นกําลังการทํางาน กําลังการผลิตต่างๆ จะน้อยลงไปเรื่อยๆ ตอนนี้เรามีผู้สูงอายุอายุเกิน 60 ปี ประมาณ 13-14 ล้านคน และถ้าอัตราการเกิดกับอัตราของการมีผู้สูงวัยเป็นอย่างนี้ ต่อไปประชากรของประเทศจะลดน้อยลงไปเรื่อยๆ แล้ววันนั้นกําลังของผู้ที่อยู่ในวัยทํางานก็จะน้อยลงไปเรื่อยๆ หมายความว่าต่อไปเด็กๆที่จะโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้าจะต้องรับภาระมากขึ้น เพราะคนที่อยู่ในวัยทํางานจะน้อยลงไปทุกวัน สมมติ วันนี้ผู้อยู่ในวัยทํางาน 30 กว่าล้านคน ก็รับภาระประเทศชาติ รับภาระเศรษฐกิจ รับภาระดูแลผู้สูงอายุ รับภาระในการจัดหางบประมาณเท่านี้ แต่ต่อไปผู้ที่อยู่ในวัยกำลังทำงานจะต่ํากว่า 30 ล้าน อาจจะเหลือ 25 ล้าน หรือ 20 ล้าน ฉะนั้น คนที่ต้องการรับภาระเรื่องของประเทศก็ต้องแบกภาระมากขึ้น คนต่างๆ เหล่านั้นก็คือ เด็กในวันนี้ เพราะโครงสร้างของประชากรของประเทศเปลี่ยนแปลงไป
ฉะนั้น เรามีความจําเป็นที่จะต้องให้ความสําคัญกับการบ่มเพาะการดูแลการใกล้ชิดกับเด็กๆ และเยาวชนให้เค้ามีคุณภาพที่เข้มแข็งมากขึ้น มีคุณภาพที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น หมายความว่าจะต้องเป็นคนที่มีการศึกษา มีความรู้ มีความสามารถ มีทักษะ มีความรัก มีความสามัคคี เพื่อที่จะได้เป็นกําลังของประเทศชาติอย่างแท้จริง โดยเฉพาะในวันข้างหน้าที่กําลังการผลิตของประเทศลดน้อยลงไปเพราะโครงสร้างของประชากร หรือความท้าทายที่สําคัญ คือ เรื่องการเข้ามาของเทคโนโลยี ความทันสมัยของเทคโนโลยีที่เข้ามาได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบการทําธุรกิจเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจโลกเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตอย่างรวดเร็ว ถูกท้าทายด้วยความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
ฉะนั้น ผมคิดว่าเป็นภาระหน้าที่ร่วมกันของผู้ใหญ่ของบ้านเมืองในวันนี้ของทุกภาคส่วน คุณพ่อ คุณแม่ ครูอาจารย์ ภาครัฐ ภาคเอกชนที่จะต้องรวมพลังภายในการที่จะสร้างเยาวชนของเรา ให้เข้มแข็งเพื่อรับภารกิจของประเทศชาติในวันข้างหน้าได้อย่างแท้จริง
ดังนั้น วันนี้ ถือว่าเป็นการรวมพลังของผู้หลัก ผู้ใหญ่ของเมืองโคราช ท่านที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ท่านนายกเทศมนตรีฯพร้อมคณะผู้บริหารสท. ท่านผู้พิพากษาศาลเยาวชน คณะผู้พิพากษาศาลสมทบ ผู้บริหารองค์กรเอกชน ผู้บริหารธนาคารออมสิน ผู้บริหารเดอะมอลล์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยราชภัฏโคราช พ่อแม่ผู้ปกครองมากันเยอะมาก อันนี้คือ การบูรณาการความเข้มแข็งของผู้ใหญ่เมืองโคราช ซึ่งถือว่าเป็นภารกิจร่วมกัน เราจะต้องสร้างเด็กๆ และเยาวชนของคนโคราชให้เข้มแข็งมีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะรับภารกิจอันหนักหน่วงในวันข้างหน้าต่อไป
นายสุวัจน์ กล่าวว่าท่านนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ได้มอบคําขวัญไว้ว่า “ทุกโอกาส คือการเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง” ขอให้เยาวชนได้รับทราบและเข้าใจความห่วงใยที่ท่านนายกรัฐมนตรีมีต่อทุกท่าน คือ ขอให้ทุกคนได้ใช้โอกาสสู่การเรียนรู้ เพื่อที่จะปรับตัวสู่อนาคต และขอฝากถึงเด็กๆ เยาวชนทุกคน
“ขอให้เด็กทุกคนรู้ว่าเราจะต้องเป็นกําลังสําคัญของประเทศต่อไป ขอให้ทุกคนเป็นคนดี ตั้งใจเรียน มีความรักสามัคคี เล่นกีฬาออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพแข็งแรง เพื่อสร้างกําลังในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป” นายสุวัจน์ กล่าว