องค์กรชั้นนำของไทยร่วมมือกันในการมอบวิตามินบำรุงพืชรวม 10,900 กิโลกรัม ให้กับกรุงเทพมหานคร ซึ่งผลิตจากขยะเศษอาหารรวมกว่า 72,667 กิโลกรัม โดยความร่วมมือนี้เป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมการจัดการขยะอย่างยั่งยืนและสนับสนุนการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของเมืองหลวง องค์กรที่เข้าร่วมในโครงการนี้ ได้แก่ โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ (SISB International Schools), True Digital Park, บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน), บริษัท เอไอเอ จำกัด, คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ อาคาร ซีดับเบิ้ลยู ทาวเวอร์ โดยได้รับความร่วมมือจาก บริษัท โอ๊คลิน (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญด้านการจัดการขยะอินทรีย์ให้เกิดมูลค่าต่อสิ่งแวดล้อม วิตามินบำรุงพืชที่มอบให้ในครั้งนี้ไม่เพียงช่วยลดปริมาณขยะอินทรีย์ในเมือง แต่ยังมีส่วนช่วยในการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์รวม 5,068.5 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (kg.CO2e) ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของกรุงเทพมหานครในการสร้างเมืองสีเขียวที่ยั่งยืน นอกจากนี้ ปริมาณการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากโครงการนี้ เทียบเท่ากับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากรถยนต์ดีเซลที่วิ่งระยะทาง 10 กิโลเมตร จำนวน 2,985 คัน ซึ่งสะท้อนถึงผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมในระดับเมือง แนวทางการบริหารจัดการขยะอาหารและการใช้ประโยชน์จากวิตามินบำรุงพืช โครงการนี้ยังสอดคล้องกับนโยบาย 'บ้านนี้ไม่เทรวม' ของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ซึ่งมุ่งเน้นให้ประชาชนและองค์กรแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง เพื่อลดปริมาณขยะอินทรีย์และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการขยะของกรุงเทพมหานคร วิตามินบำรุงพืชที่ผลิตได้จะถูกนำไปใช้ในโครงการพัฒนาพื้นที่สีเขียว รวมถึงการบำรุงดินในสวนสาธารณะและแปลงเกษตรชุมชน ซึ่งไม่เพียงช่วยลดภาระการจัดการขยะ แต่ยังช่วยให้เกิดการหมุนเวียนทรัพยากรที่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม พิธีมอบและบทบาทของภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง พิธีส่งมอบวิตามินบำรุงพืชจัดขึ้นโดยมี นายพรพรหม ณ.ส. วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นายภิมุข สิมะโรจน์ เลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ นายภาณุวัฒน์ อ่อนเทศ ผู้อำนวยการสำนักงานจัดการมูลฝอยและสิ่งปฏิกูล เป็นผู้รับมอบในนามของกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะนำไปใช้ประโยชน์ในการดูแลพื้นที่สีเขียวและสวนสาธารณะทั่กรุงเทพฯ ความร่วมมือนี้ถือเป็นแบบอย่างของการจัดการขยะอาหารอย่างมีประสิทธิภาพและสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งในแง่ของการลดขยะ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า องค์กรที่เข้าร่วมโครงการยังมีแผนในการขยายขอบเขตความร่วมมือเพื่อให้การจัดการขยะอาหารเกิดผลในวงกว้างมากขึ้น วิสัยทัศน์สู่อนาคต โครงการนี้ไม่เพียงช่วยลดภาระของกรุงเทพมหานครในการจัดการขยะ แต่ยังเป็นแนวทางสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเมืองไปสู่เป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ซึ่งสามารถเป็นต้นแบบให้กับภาคธุรกิจและองค์กรอื่น ๆ ในอนาคต นอกจากนี้ ความสำเร็จของโครงการนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาแนวทางการจัดการขยะอินทรีย์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยจะมีการศึกษาวิธีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาช่วยในการแปรรูปขยะให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงส่งเสริมให้ภาคประชาชนและหน่วยงานอื่น ๆ มีส่วนร่วมมากขึ้นในการแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมในระยะยาว