เพชร สหรัตน์ บุกธุรกิจปลาร้า! เข้าซื้อ "ตำนัว" ตั้งเป้ายึด 20% ของตลาดปี 68 พร้อมปั้นสู่แบรนด์หมื่นล้าน

เพชร สหรัตน์ ศิลปิน นักแต่งเพลง และนักธุรกิจมากความสามารถ ล่าสุดประกาศเข้าซื้อกิจการโรงงานปลาร้าขนาดใหญ่ "ตำนัว" ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงงานปลาร้าที่ทันสมัยที่สุดของประเทศ ด้วยกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานระดับสากล และมีสินค้าวางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อและซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วประเทศ นับเป็นอีกก้าวสำคัญของเจ้าพ่อวงการเพลงลูกทุ่ง ที่ก้าวเข้าสู่วงการธุรกิจอาหารอย่างเต็มตัว

การเข้าซื้อครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้การบริหารงานใหม่ที่มีการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ โดยได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มทุนขนาดใหญ่ LOXLEY GROUP ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำของประเทศที่มีรากฐานทางธุรกิจแข็งแกร่ง โดยกลุ่มตระกูลล่ำซำเข้าถือหุ้นร่วมในธุรกิจครั้งนี้ ทำให้ "ตำนัว" มีความมั่นคงและศักยภาพในการเติบโตอย่างมหาศาล นอกจากนี้ยังมีผู้ถือหุ้นเดิมที่ยังคงถือหุ้นอยู่ 25% ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจอาหาร ทำให้มั่นใจได้ว่า "ตำนัว" จะสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างแข็งแกร่ง

เพชร สหรัตน์ เผยว่า คาดการณ์ว่าผลประกอบการของ "ตำนัว" ในปี 2568 จะเติบโตแบบก้าวกระโดดจากการปรับกลยุทธ์ธุรกิจใหม่ โดยอาศัยจุดแข็งจากเครือข่ายร้านค้าส่งและค้าปลีกทั่วประเทศ อีกทั้งยังมีแผนขยายตลาดไปยังกลุ่มผู้บริโภคในระดับสากล เพื่อผลักดันผลิตภัณฑ์น้ำปลาร้าปรุงสำเร็จให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ไม่เพียงแต่ในกลุ่มลูกค้าชาวไทย แต่ยังรวมถึงกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่หลงใหลในรสชาติอาหารอีสานแท้ ๆ อีกด้วย

ด้วยศักยภาพของตลาดน้ำปลาร้าปรุงสำเร็จที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว คาดว่าภายในปี 2568 มูลค่าตลาดรวมอาจแตะระดับหมื่นล้านบาท และ "ตำนัว" ตั้งเป้าครองส่วนแบ่งตลาดไม่น้อยกว่า 20% ผ่านกลยุทธ์การตลาดแบบรุกหนัก พร้อมกับการพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ต้องการความสะดวกและคุณภาพในราคาที่เข้าถึงได้

เพชร สหรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโครงสร้างธุรกิจ แต่ "ตำนัว" ยังคงยึดมั่นในคอนเซ็ปต์เดิม "ตำนัว แซ่บนั๊ว..นัวร์" เพื่อรักษาเอกลักษณ์ของแบรนด์และสร้างความจดจำให้กับผู้บริโภค โดยผลิตภัณฑ์ของตำนัวมีวางจำหน่ายแล้วที่ 7-Eleven, Tops และร้านค้าส่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีแผนขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคยุคดิจิทัลได้อย่างเต็มที่

ในอนาคตอันใกล้ เพชร สหรัตน์ และทีมผู้บริหารตั้งเป้าจะนำ "ตำนัว" สู่การเป็นผู้นำในตลาดปลาร้าปรุงสำเร็จของไทย พร้อมทั้งขยายตลาดสู่ระดับนานาชาติ และอาจมีการพัฒนาโปรดักต์ใหม่ ๆ เพื่อขยายไลน์สินค้าภายใต้แบรนด์ "ตำนัว" และยังมีแผนที่จะลงทุนในธุรกิจร้านอาหารอีสานเพื่อต่อยอดในการขายผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม ตำนัว มีแผนที่จะขยาย 3-5 สาขา ในปี 2568 นี้อีกด้วย