จุดพลุปังๆ เพื่อร่วมแสดงความยินดีกับคู่รักอารมณ์ดีอย่าง "คุณเบนซ์ - พงษ์บัณฑิต เย็นสมุทร" หนุ่มนักดนตรี วัย 33 ที่คุกเข่าขอแฟนสาว "อาม - อาภัสรา ศรีชะรัง" อดีตผู้สื่อข่าวรายการบันเทิงช่องดัง แต่งงาน ริมทะเล เมื่อวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ทำเอางานนี้ว่าที่เจ้าสาวถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เป็นอีกหนึ่งคู่รักที่น่ายินดีจริงๆ กับคู่ของคุณอาม - คุณเบนซ์ ที่ฝ่ายชายเพิ่งคุกเข่าขอฝ่ายหญิงแต่งงานไปเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา หลังจากที่ให้ผู้ใหญ่เข้ามาทาบทามสู่ขอไว้ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา แว่วว่าฤกษ์ลั่นระฆังวิวาห์ได้ช่วงมีนาคม 2565 นับดูแล้วเหลือเวลาอีกปีกว่าๆ ฝ่ายชายจึงให้คำมั่นสัญญา ด้วยการจัดเซอร์ไพรส์ชุดใหญ่ คุกเข่าขอแต่งงาน เพื่อจองตัวให้เป็นเจ้าสาวในปีหน้าทันที งานนี้บอกเลยว่า ทำเอาว่าที่เจ้าสาวอย่างคุณอาม ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เลยทีเดียว โดยคุณเบนซ์ ได้เล่าถึงเหตุการณ์และความรู้สึกในการทำเซอร์ไพรส์คุกเข่าขอแต่งงานครั้งนี้ว่า “จริงๆเซอร์ไพรส์ครั้งนี้ เป็นอะไรที่แพลนแบบไม่ได้ทำแพลน คือผมตั้งใจจะเซอร์ไพรส์ทางน้องอามอยู่แล้ว แต่จริงๆไม่ได้วางไว้ว่าเป็นวันนี้ ต้องบอกว่าเป็นจังหวะเหมาะพอดี จากเดิมทีที่เรานัดไปเที่ยวต่างจังหวัดกัน 3 คน มีผม น้องอาม แล้วก็คุณแม่น้องอาม พอดีวันที่จะเดินทาง คุณพ่อ และพี่น้องของน้องอามว่าง สามารถไปได้ด้วยพอดี พอผมเห็นว่าทางบ้านของน้องอามอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาวันนี้แล้ว ก็เลยจัดเซอร์ไพรส์ขอน้องแต่งงานที่พัทยาเลย ก็ได้พี่สาว พี่เขยของน้องอาม ช่วยวางแผนให้ และเราก็สั่งซื้อลูกโป่งจากทางร้านที่พัทยาให้เลย ส่วนแหวน เป็นแหวนของคุณแม่ของผมที่มอบไว้ให้ผมหมั้นน้อง ซึ่งผมก็ติดตัวไว้ตลอดอยู่แล้วก็เลยได้ทำเซอร์ไพรส์ให้น้องวันนั้น โดยเหตุการณ์ก็หลังจากเราไปเที่ยวทะเลกัน ช่วงค่ำเราก็ชวนกันพาไปทานอาหารร้านมุมอร่อย หลังทานเสร็จก็ชวนกันมาถ่ายรูปด้านล่าง ตรงริมทะเล แล้วก็ให้ทีมงานของทางร้าน ช่วยขนกล่องลูกโป่งยกมาวางให้ด้านหน้าน้องเพื่อให้น้องอามเปิด แล้วผมก็คุกเข่าขอน้องแต่งงานต่อหน้าครอบครัวของน้องเค้าครับ ซึ่งตัวผมเองไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลย ตื่นเต้นมาก บทที่ท่องมาก็ลืมหมดเลยครับ ผมเลยอยากจะขอฝากบอกน้องผ่านทางนี้อีกครั้งนะครับว่า " อยากขอบคุณที่ดูแลกัน ให้กำลังใจกันมาโดยตลอด ต่อแต่นี้ไป สัญญาว่าจะดูแลอาม จะทำให้อามยิ้มได้ในทุกๆกัน และทำให้ชีวิตคู่เรามีความสุข รักอามนะ ”