สมุทรสงคราม แม้จะเป็นจังหวัดเล็กที่สุดของประเทศไทย แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่เพียบพร้อมและยังมีวัดวาอารามต่างๆ ถึง 112 วัด และหนึ่งในนี้ก็คือ “วัดโรงธรรม” เป็นวัดในพระพุทธศาสนานิกายเถรวาท สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่ริมคลองวัดโรงธรรม เลขที่ 21 หมู่ที่ 5 ตำบลบ้านปรก อำเภอเมืองสมุทรสงคราม ห่างจากศาลากลางจังหวัดฯ ประมาณ 5 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 4 ไร่ 3 งาน 95 ตารางวา ตามประวัติระบุว่า วัดโรงธรรม สร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ประมาณปี พ.ศ.2351 เป็นวัดโบราณที่มีการบูรณะปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุหลายครั้งหลายครา ที่มีการบันทึกไว้ก็เช่นเมื่อปี พ.ศ. 2410 มีสตรีชื่อนุช อยู่ในพระราชวัง ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) ได้บูรณะปฏิสังขรณ์อุโบสถ และยังสร้างกำแพงแก้วรอบอุโบสถด้วย ต่อมาก็มีนายอ่วม บ้านอยู่เยื้องกับวัดโรงธรรม ก็ได้บูรณะปฏิสังขรณ์ศาลาการเปรียญ และมุงหลังคาใหม่ด้วยกระเบื้องดินเผา หลังจากนั้นเจ้าอาวาสทุกรูปและพุทธศาสนิกผู้มีจิตศรัทธาก็ได้ร่วมกันสร้างและบูรณะถาวรวัตถุของวัดตลอดมา จึงทำให้วัดโรงธรรมอยู่ยั่งยืนมาจนทุกวันนี้ โดยมีเจ้าอาวาสมาแล้วจำนวน 17 รูป สิ่งสำคัญของวัดโรงธรรม ที่ควรชมและนมัสการได้แก่พระประธานในอุโบสถ ปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 3 ศอก 5 นิ้ว สูง 4 ศอก ชาวบ้านเรียกว่า "หลวงพ่อโตศักดิ์สิทธิ์" เป็นที่เคารพนับถือของบุคคลทั่วไปที่มักจะมากราบไหว้ขอพร โดยเฉพาะเรื่องหน้าที่การงานจะราบรื่น ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข โชค ลาภ การทำมาค้าขายดีร่ำรวยยิ่งขึ้น และเมื่อสมหวังดังใจปราถนาก็นิยมมาแก้บนด้วยการจุดประทัด ปัจจุบันวัดโรงธรรม มีพระครูสังฆรักษ์วิรัตน์ ปภัสสโร (วิรัตน์) อายุ 62 พรรษา 21 วิทยฐานะ น.ธ.เอก เป็นเจ้าอาวาส เป็นพระนักพัฒนาที่เปี่ยมไปด้วยคุณธรรม เมตตาธรรมเป็นที่เคารพนับถือและศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั่วไป พระครูสังฆรักษ์วิรัตน์ ปภัสสโร กล่าวว่า วัดโรงธรรม แม้จะเป็นวัดเก่าแก่อีกวัดหนึ่งของจังหวัดสมุทรสงคราม มีอายุกว่า 200 ปี แต่ญาติโยมคนนอกพื้นที่มักจะไม่ค่อยรู้จักมากนักเนื่องจากวัดอยู่ในสวนมะพร้าว และเป็นวัดปิดไม่ใช่ทางผ่านอยู่ด้านในสุดถนนที่ประชาชนสัญจรไปมา อีกทั้งทางวัดไม่ได้มีการจัดงานใดๆ บ่อยนัก จึงทำให้สิ่งที่เป็นถาวรวัตถุของวัดอันเกิดขึ้นจากการบริจาคทรัพย์และปัจจัยของประชาชนผู้มีจิตศรัทธา เริ่มชำรุดทรุดโทรม เช่น อุโบสถ ซี่งได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาที่ 47 พ.ศ.2528 สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก เหยียบมุข 2 ชั้น หลังคามุงกระเบื้องดินเผา ได้บูรณะปฎิสังขรณ์ขึ้นใหม่เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2531- 30 กันยายน พ.ศ.2533 ในสมัยพระอธิการเกษม สุเมโธ เป็นเจ้าอาวาส,ศาลาเอนกประสงค์ 2 หลัง สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก หลังคามุงกระเบื้องลอน, กุฎิสงฆ์ 6 หลัง เป็นไม้สักทั้งหมด โดยเฉพาะศาลาหอฉัน 1 หลังที่สร้างด้วยไม้สักที่ชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลาจนยากที่ซ่อมแซมได้ คณะกรรมการวัดกำลังก่อสร้างศาลาหอฉันต์หอสวดมนต์ขึ้นใหม่ เป็นอาคาร 2 ชั้น มีขนาดกว้าง 16 เมตร ยาว 30 เมตร สูงประมาณ 7 เมตรครึ่ง ชั้นล่างเป็นปูนใช้สำหรับเป็นหอฉันต์ ส่วนชั้น 2 สร้างด้วยไม้สักทอง ใช้สำหรับเป็นหอสวดมนต์ หอปฏิบัติธรรม รวมทั้งให้ญาติโยมได้ใช้เป็นสถานปฏิบัติธรรม และประกอบพิธีทางศาสนา ดังนั้นในโอกาสปี 2564 นี้ แม้สถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 จะกำลังแพร่ระบาด ส่งผลทำให้ประชาชนต้องอยู่กับบ้านและไม่สะดวกในการเดินทาง แต่ผู้ที่มีจิตอันเป็นกุศลยังสามารถร่วมทำบุญกับวัดโรงธรรม เพื่อให้การก่อสร้างหอฉันต์หอสวดมนต์ซึ่งมีความจำเป็นในการปฏิบัติธรรมของสงฆ์สำเร็จลุล่วงได้ จึงขอเชิญพุทธศาสนิกชนทั่วไปร่วมบุญใหญ่ สร้างศาลาหอฉันต์หอสวดมนต์ เพื่อเป็นพุทธบูชาฝากไว้ในบวรพุทธศาสนา สืบสานภูมิปัญญาไทย โดยประธานอุปถัมภ์บริจาค 100,000 บาท ได้รับหลวงพ่อบ้านแหลมจำลองขนาด 9 นิ้ว 1 องค์เป็นที่ระลึก รองประธานอุปถัมภ์ บริจาค 50,000 บาท ได้รับหลวงพ่อบ้านแหลมจำลองขนาด 7 นิ้ว 1 องค์ กรรมการอุปถัมภ์บริจาค 10,000 บาท ได้รับหลวงพ่อบ้านแหลมขนาด 5 นิ้ว 1 องค์ และบริจาค 1,000 บาท ได้รับหลวงพ่อบ้านแหลมขนาด 3 นิ้ว 1 องค์ หรือบริจาคตามกำลังศรัทธา ติดต่อร่วมทำบุญได้ที่วัดโรงธรรมโดยตรง หรือโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารธนชาติ สาขาสมุทรสงคราม ชื่อบัญชี วัดโรงธรรม เลขที่บัญชี 321-6-11912-4 หรือสอบถามได้ที่โทรศัพท์ 08-3899-5063, 09-4454-4214, และ 09-1196-5445 ทุกวัน