ร้าน “ข้าวใหม่-ปลามันAmphawa” ร้านอาหารท้องถิ่น รสชาติไทย บรรยากาศดี สร้างวิถีมุ่งสู่ความยั่งยืน

   วันหยุดแบบนี้ใครยังไม่รู้จะไปพักผ่อนหย่อนใจที่ไหน “อัมพวา” ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะเดินทางง่ายใกล้กรุงเทพฯนิดเดียว อีกทั้งยังรวมที่เที่ยวต่างๆ ไว้ได้ครบ ไม่ว่าจะเป็น ตลาดน้ำ วัด พิพิธภัณฑ์ และร้านอาหารรสเด็ดๆ หากใครที่เดินตลาดน้ำอัมพวาเสร็จแล้วหรือเดินทางมุ่งหน้าไปหัวหินและกำลังมองหาร้านอาหารบรรยากาศสุดชิลริมน้ำแต่ยังไม่รู้จะไปที่ไหน วันนี้เรามีร้านเด็ดที่ตอบโจทย์แนวรักษ์โลกมาแนะนำกัน ถ้าอยากรู้แล้วตามเรามาเลย

   วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักร้านอาหารแห่งหนึ่งที่อาหารแสนอร่อยจากวัตถุดิบท้องถิ่น พร้อมนำเสนอเรื่องราวของภูมิปัญญาเมืองแม่กลองผ่านรูปแบบสถาปัตยกรรมของตัวร้านที่ตั้งอยู่กลางน้ำและมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น สามารถเห็นวิวของผืนน้ำได้ทั้งหมด กับร้าน “ข้าวใหม่-ปลามันAmphawa” และเส้นทางสู่การก้าวสู่ธุรกิจ รวมถึงมุมมองแรงบันดาลใจดีๆ เกี่ยวกับการทำร้านอาหารกัน

   ร้าน “ข้าวใหม่-ปลามันAmphawa” ร้านอาหารที่เป็นมากกว่าร้านอาหารทั่วไปเพราะนอกจากบรรยากาศร้านร่มรื่น มีต้นไม้พื้นถิ่นนานาชนิดให้คุณได้นั่งทานอาหารพร้อมสัมผัสบรรยากาศดีๆ ลมเย็นธรรมชาติและวิวสวยไปพร้อมๆ กัน ที่นี่ยังเป็นร้านอาหารท้องถิ่นพื้นบ้านแบบฉบับคนแม่กลองแท้ๆ มีหลากหลายเมนูอาหารให้เลือกมากมาย สำหรับใครที่ไม่รู้จะสั่งเมนูอะไร ทางร้านก็มีเมนู Signature เช่น กุ้งแม่น้ำเผา ทะเลรวมมิตรเผา น้ำพริกผักชะครามปลาหมอเทศ ยำยอดหนามพุงดอ แกงอ่อมกรรเชียงปูใบชะคราม ไข่ปลาริวกิวผัดฉ่า ปลาหมึกแดดเดียว เป็นต้น บอกเลยว่าใครที่ได้ลิ้มลองจะต้องตกหลุมรัก เพราะเข้าถึงความสดและรสชาติ อร่อยครบเครื่องทุกเมนู อีกทั้งที่ร้าน “ข้าวใหม่-ปลามันAmphawa” เขายังเน้นในเรื่องของ BCG Economy Model หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ โมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นเศรษฐกิจทฤษฎีใหม่ที่ผสมผสานการพัฒนา 3 ด้านหลัก คือ เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียวอีกด้วย ไม่ว่าเรื่องการจัดการขยะอาหาร/การจัดการบำบัดน้ำเสีย/การจัดการทรัพยากรในชุมชน ในธุรกิจ

   ร้าน “ข้าวใหม่-ปลามันAmphawa” มีแรงบัลดาลใจ คือ ในตอนที่เริ่มคิดทำร้านอาหาร ก็ต้องมีการออกแบบร้านซึ่งเป็นสิ่งปลูกสร้างที่มีไว้ให้ลูกค้าเข้ามาหลบแดดหลบฝนเพื่อทานอาหาร แต่ร้านอาหารส่วนใหญ่ตัวอาคารจะเป็น อิฐปูน เหล็ก ที่ดูแล้วทำให้บรรยากาศรู้สึกอึดอัดดูเป็นเมืองวุ่นวาย แต่สำหรับร้านนี้เจ้าของร้านคิดต่าง โดยต้องการอยากจะสร้างร้านให้มีบรรยากาศที่โล่งสบาย มีลมพัดผ่านตลอด

   เนื่องจากได้เติบโตมาในท้องถิ่นในบริบทเมืองแม่กลอง จึงเห็นวิถีชีวิตรวมทั้งบ้านเรือนของชาวบ้าน ใช้เพียงภูมิปัญญาที่มีอยู่ร่วมกับธรรมชาติ จนกลายมาเป็นวิถีชีวิตที่อยู่ร่วมกับสายน้ำ ซึ่งไม่ได้ใช้วัสดุที่ทำร้ายธรรมชาติเลยแม้แต่น้อย ร้าน “ข้าวใหม่-ปลามันAmphawa” ของเราจึงอยากรักษาและพัฒนาต่อยอดให้ภูมิปัญญาวัฒนธรรม ทั้งอาชีพประมง การมัดการผูกเชือก วัฒนธรรมการถนอมอาหาร รวมถึงความรู้ต่างๆ ในชุมชนให้สิ่งเหล่านี้มีมูลค่า และสามารถนำกลับมารับใช้ใหม่ในยุคนี้ สร้างงานให้คนในท้องถิ่นได้ ทั้งเรื่องวัตถุดิบ แรงงานรวมถึงการร่วมสร้างสวัสดิการต่างๆ ให้กับชาวบ้านในชุมชน เพราะทางร้านเชื่อว่าถ้าทุกคนดูแลสิ่งแวดล้อมดีมีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์จะสามารถสร้างรายได้ของคนในพื้นที่ได้และมีศักยภาพในการเข้าถึงการศึกษาลดปัญหาความเหลื่อมล้ำเกิดสวัสดิการที่มั่นคงรวมไปถึงการสร้างความรู้หรือสามารถต่อยอดไปหาความรู้ได้มากขึ้นเพื่อกลับมาพัฒนาชุมชนของตนเอง

   ร้าน “ข้าวใหม่-ปลามันAmphawa” นอกจากรสชาติที่เป็นจุดเน้นสำคัญของร้านแล้ว คุณภาพของวัตถุดิบก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะในปัจจุบันหลายคนหันมาให้ความสนใจกับที่มาของอาหารกันมากขึ้น ว่าอาหารที่เรากินมาจากไหน ปลอดสารพิษหรือไม่ ดีกับสุขภาพหรือเปล่า ซึ่งร้านนี้ก็เป็นอีกร้านหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ โดยเลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่น เน้นของที่ผลิตเองภายในชุมชน 

   วัตถุดิบของทางร้านหลายคนอาจจะเรียกว่าอาหารของคนมีบุญ อาหารเชิงวัฒนธรรม และอาหารเชิงความรู้ เพราะเนื่องจากทางร้านไม่มีวัตถุดิบจำพวกหมู เป็ด และไก่ แต่วัตถุดิบจะเป็นของที่ได้จากชุมชน เช่น ปลาหมอเทศ ปลากะบอก ปลาทู ปลากะพง ปลาดุกทะเล ปลาหมึก หอยแครง หอยหลอด หอยนางรม หอยขม และปูทะเล ปูม้า เป็นต้น อีกทั้งพืชผักที่ใช้เป็นวัตถุดิบก็เป็นผักที่ขึ้นเองตามธรรมชาติหรือขึ้นตามป่า จะไม่ใส่ปุ๋ย ไม่ฉีดยา ไม่รดน้ำ เช่น ผักชะคราม ยอดหนามพุงดอ ผักกูด ตำลึง เป็นต้น จึงเป็นร้านที่ใช้วัตถุดิจากธรรมชาติอย่างแท้จริงเพราะไม่มีคนเพาะปลูก

   และที่สำคัญทางร้านยังทำธุรกิจเพื่อสังคม หรือ (Social Enterprise) ร้านอาหารเพื่อชุมชน คือ เมื่อคนมีบุญมาทานอาหารที่ร้านก็จะได้ทำบุญไปกับร้านด้วย เพราะกำไรของร้าน 2% ในหนึ่งปี จะนำเข้ากองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลแพรกหนามแดง เพื่อไปจัดสวัสดิการดูแล ช่วยเหลือแบ่งปัน เกื้อกูลกันของคนในชุมชนตำบลแพรกหนามแดงอีกด้วย

   ร้าน “ข้าวใหม่-ปลามันAmphawa” ยังมีจุดแข็งที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างคือ ระบบการจัดการของร้านเน้นเรื่องความใส่ใจผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม มีการคืนกำไรสู่ชุมชน มีบ่อบำนัดน้ำเสียก่อนจะปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ เศษอาหารก็นำให้ชาวบ้านไปเลี้ยงปลา หลอดของที่ร้านก็ทำมาจากฟางข้าว และเนื่องจากทางร้านให้ความสำคัญกับเรื่องวัตถุดิบ วัตถุดิบที่ใช้ในการทำอาหารจึงเป็นของท้องถิ่นมาจากชุมชน และมีการคืนกำไรสู่ชุมชน เพราะทางร้านมองชุมชนเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน

   อย่าลืมนะ!! หากใครกำลังมองหาร้านอาหารที่ใช้วัตถุดิบออแกนิกจากชุมชนและประมงท้องถิ่น รวมทั้งยังคงรสชาติต้นตำรับดั้งเดิมของเมืองแม่กลองได้แบบเต็มร้อย ต้องที่ “ข้าวใหม่-ปลามันAmphawa” ที่ตอบโจทย์ทุกความสุขเพราะคุณจะได้ทั้งอิ่มท้องและอิ่มใจและร่วมส่งต่อโลกที่เย็นขึ้นไปให้รุ่นลูกๆ หลานๆ โดยสามารถเดินทางมาตามเส้นถนนพระราม 2 ขาออก มุ่งหน้าสู่แยกวังมะนาวเลยปั๊มปตท.คลองโคนประมาณ 5 กิโลเมตร ให้สังเกตสะพานลอยก่อนถึงปั๊มน้ำมันบางจากปั๊มสุดท้ายของถนนพระราม 2 ทางเข้าอยู่ก่อนถึงปั๊มบางจากตรงยูเทิร์นเข้าซอยวัดเพชรรัตน์ (วิทยาลัยการอาชีพอัมพวา) 700 เมตร จะเจอร้านอยู่ซ้ายมือ เปิดทุกวัน เวลา 10.00 - 21.00 น. #softpower #อาหารไทย #อร่อยบอกต่อ #สมุทรสงคราม #เมืองสามน้ำ #sustainability #bcg

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

โทร 084-971-7293 และ 083-706-6006
Facebook : ร้านข้าวใหม่-ปลามันAmphawa