หากพูดถึงของดีเมืองจันทบุรี หนึ่งในนั้นก็คืออัญมณีหรือ “พลอยเมืองจันท์” ที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เป็นที่นิยมมากในหมู่ชาวต่างชาติ จนทำให้จันทบุรีกลายเป็นศูนย์กลางการผลิต และแหล่งซื้อขายพลอยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แต่เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโควิด 19 ก็ส่งผลกระทบให้การซื้อขายพลอยหยุดชะงัก หลายบริษัทจึงต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด เช่นเดียวกับ "คุณเพนกวิน-ณัฐชยา มณีเวศย์วโรดม" กรรมการผู้บริหาร บริษัท เทวิกา จิวเวลรี่ ทายาทรุ่นที่ 2 ของ บริษัท K&N GEMS ที่พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ด้วยการต่อยอดสร้างแบรนด์ และ Jewelry Cafe แห่งแรกและแห่งเดียวในจันทบุรี วันนี้เราจึงชวนเธอมาพูดคุยถึงแนวคิดและกลยุทธ์ที่ช่วยพลิกฟื้นธุรกิจจนกลับมาประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ จุดเริ่มต้นของเทวิกา จิวเวลรี่ เกิดขึ้นมาได้อย่างไร ? คุณเพนกวิน : ก่อนจะมาเป็นเทวิกา จิวเวลรี่ เราเคยเป็นผู้ผลิตและส่งออกเกือบ 100% เต็ม ในนามของบริษัท K&N GEMS ซึ่งบริหารงานโดยคุณพ่อและคุณแม่ของเพนกวินเอง จนกระทั่งปี 2019 เจอจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญคือวิกฤตโควิด 19 ทำให้ไม่สามารถส่งออกได้ อีกทั้งการปิดประเทศ ก็ทำให้ลูกค้าต่างประเทศเดินทางมาไม่ได้เช่นกัน เศรษฐกิจก็ชะงัก เพนกวินจึงต้องเข้ามาบริหารเพื่อช่วยธุรกิจนี้ให้อยู่รอด โดยการสร้างแบรนด์ "Taevika Jewelry" เป็นแบรนด์เครื่องประดับพลอยแท้ เกรดคุณภาพ ดีไซน์ทันสมัย ราคาจับต้องได้ เทวิกา จิวเวลรี่ ต่างจากบริษัทเดิมอย่างไร ? คุณเพนกวิน : เทวิกา จิวเวลรี่ เน้นขายคนไทย โดยมีเครื่องประดับอัญมณีให้เลือกหลายแบบหลายราคา เพื่อให้เข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย ราคาเริ่มต้นมีตั้งแต่ 599 บาท ไปจนถึงหลักแสน หลายคนไม่เคยซื้อสินค้าเรามาก่อน เพนกวินก็จะนำเสนอเครื่องประดับชิ้นเล็กชิ้นน้อย ราคาไม่แพง เพื่อมัดใจลูกค้า ถ้าเขาใส่ดี ใส่สวย มีคนทักเขา หรือใส่แล้วเฮง ชีวิตดีขึ้น อย่างไรเขาก็ต้องกลับมาซื้อของเราอีก มีกลยุทธ์อะไรบ้างที่ทำให้เทวิกา จิวเวลรี่ เหนือกว่าคู่แข่ง ? คุณเพนกวิน : เราชูจุดเด่นเรื่องความเชี่ยวชาญและความหลากหลาย ไม่ว่าลูกค้ามองหาพลอยตัวไหน เรามีพลอยทุกชนิดให้ลูกค้าเลือก รวมถึงคุณภาพพลอยที่เพนกวินใช้จะเป็นพลอยคุณภาพสูงเท่านั้น เราไม่ใช้พลอยเกรดต่ำแม้จะเป็นสินค้าหลักร้อย เพราะลูกค้าคือคนสำคัญของเรา ใส่ออกมาแล้วต้องสวย ทำให้ลูกค้าอยากบอกต่อ นอกจากนี้เรายังเพิ่มคอนเซ็ปต์เกี่ยวกับการเสริมดวงสำหรับสายมูเข้าไปด้วย อีกสิ่งหนึ่งที่เราให้ความสำคัญมากก็คือบริการ เราดูแลลูกค้าดั่งพระเจ้า ลูกค้าทุกคนคือ VIP แม้จะซื้อของราคาหลักร้อย เราก็มีใบรับประกันสินค้า มีแพ็กเกจสินค้าที่สวยงามไม่แพ้ของราคาหลักแสน และยังมีบริการดูแลหลังการขาย เช่น ขัดชุบใหม่ หรือหากพลอยหลุดก็มีบริการซ่อมให้ด้วย เพราะอะไรถึงเลือกเปิด Jewelry Cafe ? คุณเพนกวิน : เราอยากอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าได้มาเลือกชมและสัมผัสเครื่องประดับอัญมณีพลอยแท้ด้วยตัวเอง รวมถึงมีบริการออกแบบจิวเวลรี่ให้เข้ากับผู้สวมใส่ โดยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญด้านจิวเวลรี่ที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี จึงเปิด Taevika Jewelry Cafe เป็น Jewelry Cafe แห่งแรกและแห่งเดียวในจันทบุรี ที่นำเสนอเครื่องประดับอัญมณีล้ำค่า ควบคู่ไปกับอาหารเลิศรสหลากหลายเมนู ที่คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพ ปรุงโดยเชฟมืออาชีพ และตกแต่งจานให้สวยงามราวกับเป็นงานอัญมณี ท่ามกลางการตกแต่งร้านที่หรูหราสไตล์ Moden Luxury โอบล้อมด้วยสวนธรรมชาติบรรยากาศร่มรื่น ลูกค้าที่ไม่ได้ซื้อจิวเวลรี่ก็สามารถมาใช้บริการได้ และล่าสุดเราก็เพิ่งเปิดสาขา 2 ที่ เซ็นทรัล พัทยา ด้วย ก้าวต่อไปของ เทวิกา จิวเวลรี่ มีการวางแผนไว้อย่างไรบ้าง ? คุณเพนกวิน : เราเล็งเห็นถึงความสำคัญของการผลักดันแบรนด์ไทยให้ก้าวไปสู่ระดับโลก เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ไทยเราเป็นเพียงจุดศูนย์กลางที่ทำหน้าที่ผลิตส่งสินค้า ส่งให้กับแบรนด์ต่างประเทศ โดยที่ไม่มีแบรนด์เป็นของตัวเอง อีกทั้งยังไม่มีแบรนด์ จิวเวลรี่ใดของไทยที่โด่งดังไปถึงระดับโลกได้ เพนกวินจึงตั้งใจอยากจะพา เทวิกา จิวเวลรี่ ให้ก้าวไกลไปสู่สากล ซึ่งตอนนี้เราก็ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงพาณิชย์ในการผลักดันแบรนด์ไปสู่ระดับโลก และคว้ารางวัล SME Award มาครองได้ถึง 3 ปีซ้อน สำหรับผู้ที่สนใจ ชื่นชอบอัญมณี หรือมองหาเครื่องประดับเอาไว้ใส่ในชีวิตประจำวัน ใส่ออกงาน สามารถเลือกชมและสั่งซื้อสินค้าคอลเลกชันต่าง ๆ ของ Taevika Jewelry ได้ผ่านออนไลน์ทุกช่องทาง หรือชมสินค้าจริงได้ที่ Taevika Jewelry Cafe สาขาจันทบุรี และสาขาพัทยา สอบถามและติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Tel. 082 205 9593Line : @Taevika (มี @ ด้านหน้า)Facebook : https://www.facebook.com/taevikaInstagram : taevika_officialLine Shopping : https://shop.line.me/@taevikaWebsite : www.taevikajewelry.co.th