คนไทยมีเฮ!! กระชายดำไม่ใช่แค่ตำนานเล่าขานจากหลังเขา เล็งต่อยอดงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์
หลังจากที่มีเสียงเล่าลือเกี่ยวกับกระชายดำมานานเกี่ยวกับทางด้านการเป็นยาอายุวัฒนะ เสริมสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย เรื่องนี้ได้ยินและใช้กันมานานตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ แต่เพิ่งจะเห็นมีการทำงานวิจัยรองรับว่าจริงหรือไม่ในช่วงที่ผ่านมาไม่นานนี้ โดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร ร่วมกับคลินิกชายวัยทอง โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โดยคณะทำงานพัฒนาประเภทและขอบเขตบริการสาธารณสุขด้านการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ได้จัดสัมมนาเชิงวิชาการเรื่อง “ศักยภาพใหม่สมุนไพรไทยกระชายดำบนฐานงานวิจัยสู่ระบบสุขภาพ” เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยดร.สุวิทย์ ชัยเกียรติยศ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก.กล่าวถึงความเป็นมาการศึกษาและพัฒนางานวิจัยสมุนไพรกระชายดำและนโยบายงานวิจัยสมุนไพรไทยสู่การนำไปใช้ในระบบสุขภาพ นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้แถลงนโยบาย สปสช.ต่อการใช้สมุนไพรไทย (แพทย์ทางเลือก) และ ภก.วราวุธ เสริมสินสิริ ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้กล่าวถึงทิศทางของผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย ในงานนี้มีการแถลงถึงผลการศึกษาสารสกัดมาตรฐานกระชายดำ จากการคัดเลือกสายพันธุ์ การสกัด การตรวจสารสำคัญ และการวิจัยในระดับเซลล์ สัตว์ทดลอง จนถึงมนุษย์โดย ศ.ดร.บังอร ศรีพาณิชกุลชัย ศาสตราจารย์ขั้นสูง (ศ.11)ที่ปรึกษาศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพจากสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ทำงานวิจัยเกี่ยวกับสมุนไพรกระชายดำมานาน โดยที่ผ่านมาได้ทุนการทำงานวิจัยกระชายดำโดยรวมถึง 40 ล้านบาทเนื่องจากเห็นศักยภาพกระชายดำให้เป็นสมุนไพรแห่งชาติ นอกจากนี้ยังมีงานสนับสนุนข้อมูลทางวิชาการโดย พล.อ. รศ.คลินิก นพ.สายัณห์ สวัสดิ์ศรี หัวหน้าโครงการวิจัยกระชายดำฯ และ
คลินิกชายวัยทอง รพ.พระมงกุฎเกล้าเรื่องการศึกษาประสิทธิภาพและความปลอดภัยของสารสกัดมาตรฐานกระชายดำในผู้ชายที่เป็นโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ: ปกปิดสองทางเทียบกับยาหลอก และรศ.ดร. นพ.อติวุทธ กมุทมาศ หัวหน้าหน่วยเพศวิทยาคลินิกและเวชศาสตร์ทางเพศ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เล่าประสบการณ์การใช้สารสกัดมาตรฐานกระชายดำในคลินิกสุขภาพทางเพศ หลังจากนั้นได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับศักยภาพใหม่สมุนไพรไทย (กระชายดำ) บนฐานงานวิจัย จากทั้งทางภาครัฐและเอกชน โดยมีรศ.ดร.ภญ.นพมาศ สุนทรเจริญนนท์ ประธานวิทยาลัยเภสัชกรรมสมุนไพรแห่งประเทศไทย สภาเภสัชกรรม ,ภก.สุวิทย์ งามภูพันธ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท บางกอกดรัก จำกัด ,พล.ร.อ.นพ.ชาญชัย เจริญสุวรรณ นายกสภาการแพทย์แผนไทย ,ดร.ภก.ปรีชา หนูทิม ผู้อำนวยการกองพัฒนายาแผนไทยและสมุนไพร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข และศ. นพ.สมเกียรติ วัฒนศิริชัยกุล ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาต่อเนื่องของแพทย์ แพทยสภา เข้าร่วมอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เรียกว่าเป็นการศึกษางานวิจัยต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์ที่ค่อนข้างสมบูรณ์ เพื่อสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนทั้งในประเทศและยังสามารถต่อยอดในการส่งออกไปยังต่างประเทศได้อีกด้วย โดยภาพรวมของงานทำให้เห็นการทำงานในอนาคต โดยหน่วยงานต่างๆมีความเห็นร่วมกันว่าควรจะมีการประสานงานสอดรับนโยบายให้สอดคล้องเพื่อให้สมุนไพรไทยสามารถเป็นที่ยอมรับและรู้จักในระดับสากล
สำหรับการศึกษาในครั้งนี้เป็นการศึกษาเกี่ยวกับคุณสมบัติการเป็นยาอายุวัฒนะ โดยเฉพาะด้านเสริมสมรรถภาพทางเพศ ขณะที่ข้อมูลสนับสนุนงานวิจัยถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยในมนุษย์ยังมีอย่างจำกัด โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และฤทธิ์ต้านการอักเสบของสารสกัดกระชายดำในผู้ชายที่เป็นโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เป็นการศึกษาแบบปกปิดสองทาง โดยมีผลสรุปการวิจัยนี้ว่า สารสกัดกระชายดำทำให้ฮอร์โมนเพศชายเพิ่มขึ้น ช่วยเสริมสร้างเรี่ยวแรง ส่งผลให้สมรรถภาพทางเพศดีขึ้น และมีความปลอดภัย ค่าทางโลหิตวิทยา ค่าทางชีวเคมีของเลือด และการทำงานของไต อยู่ในเกณฑ์ปกติ ดังนั้นสารสกัดกระชายดำจึงควรพัฒนาเป็นอาหารเสริมและผลิตภัณฑ์ยา โดยเฉพาะควรพัฒนานำไปใช้แทนเครื่องดื่มชูกำลังที่มีคาเฟอีน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรส่งเสริมให้มีการพัฒนาเป็นยาที่มีสรรพคุณในการชะลอวัย และสนับสนุนให้มีการวิจัยในระยะที่3 เพิ่มเติม ทั้งนี้เพื่อให้มีข้อมูลเชิงประจักษ์ต่อการจดทะเบียนเป็นยาใหม่ จะทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มของสมุนไพรไทย และเป็นต้นแบบของยาสมุนไพรที่มีศักยภาพของประเทศไทยต่อไปในอนาคต
บริษัท บางกอกแล็ปแอนด์คอสเมติค จำกัด เป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตยาของประเทศไทย ที่มีหน่วยงานวิจัยพัฒนา เล็งเห็นศักยภาพของสมุนไพรไทย ได้ทำการพัฒนาและต่อยอดงานวิจัยสมุนไพรไทยให้เป็นที่รู้จักในเชิงพาณิชย์ ด้วยการทำสมุนไพรไทยให้เป็นสารสกัดบริสุทธิ์ สามารถเป็นขึ้นทะเบียนเป็นยา และทำให้เป็นที่ยอมรับในระดับโลก อย่างเช่น สารสกัดแคปไซซิน และสารสกัดจากไพลนำมาเป็นยาทาแก้ปวด ว่านหางจระเข้นอกจากที่ส่วนใหญ่ใช้เป็นเครื่องสำอางแล้ว ยังสามารถนำมาเป็นยาทาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกและใช้ลดรอยแดงหลังจากการทำเลเซอร์บนใบหน้าได้อีกด้วย รวมถึงสมุนไพรกระชายดำก็เป็นตัวหนึ่งในการต่อยอดงานวิจัยให้เป็นที่รู้จักในเชิงพาณิชย์ด้วยการทำเป็นยา ขณะนี้มีการวางจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศแล้วหลายประเทศทั่วโลก นับว่าเป็นบริษัทคนไทยที่มีแผนกวิจัยพัฒนาเป็นของตนเอง ที่มีความเข้มแข็งจนสามารถเป็นผู้นำทางด้านสารสกัดสมุนไพรในตลาดยาเมืองไทยที่โดดเด่นรายหนึ่งเลยทีเดียว