นานาประเทศร่วมภารกิจผลักดันให้'ครูบาศรีวิชัย'นักบุญล้านนาเป็นบุคคลสำคัญของโลก UNESCO วาระครบ 150 ปีชาตกาล 2571
มูลนิธิอาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ มูลนิธิข่วงพระเจ้าล้านนาและคณะกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนภาคเหนือ(ตอนบน)พร้อมหลายหน่วยงานทั้งไทย-ตปท.ร่วมภารกิจเผยแผ่พระพุทธศาสนาและผลักดันให้’ครูบาศรีวิชัย’นักบุญล้านนาเป็นบุคคลสำคัญของโลก UNESCO วาระครบ 150 ปีชาตกาล 2571
เชียงใหม่ 15 เม.ย.- มูลนิธิข่วงพระเจ้าล้านนา มูลนิธิอาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศและคณะกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนภาคเหนือ(ตอนบน) เดินหน้าขับเคลื่อนหนุนประกาศเกียรติคุณ"ครูบาเจ้าศรีวิชัย"นักบุญล้านนาเป็นบุคคลสำคัญของโลก UNESCO ในปี 2571 วาระ 150 ชาตกาล นานาประเทศร่วมหนุนด้วย โดยร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดลำพูนและภาคเหนือตอนบนจัดงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา” พิธีเถราภิเษก รูปหล่อองค์ครูบาเจ้าศรีวิชัย โดยมีเอกอัครราชทูต,กงสุลใหญ่กว่า 10 ประเทศ เข้าร่วมในพิธีที่เป็นพันธกิจเพื่อหนุนเสริมการประกาศเกียรติคุณครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญล้านนา เป็นบุคคลสำคัญของโลก ของ UNESCO โดยประกอบพิธีเมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน ที่ผ่านมาที่วิหารหลวง หลวงปู่ โครงการฮิมมา เพรสทีจ ลิฟวิ่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นความก้าวหน้าต่อเนื่องนับจากเริ่มดำเนินการเป็นทางการเมื่อมูลนิธิอาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ มูลนิธิข่วงพระเจ้าล้านนาและคณะกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนภาคเหนือ(ตอนบน) ได้เสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีสมัยนั้นพร้อมมอบหมายหน่วยงานต่างๆทั้งกระทรวงวัฒนธรรม สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทยและเกี่ยวข้องดำเนินการเรื่องนี้ แต่ด้วยปัญหาวิกฤตโควิด-19 และข้อจำกัดหลายด้านทางมูลนิธิข่วงพระเจ้าล้านนา,มูลนิธิอาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศและโครงการ สว. พบประชาชนฯ จึงรับเป็นองค์กรหลักในการขับเคลื่อนเรื่องนี้มาเป็นลำดับ ครั้งนี้มีการจัดงานพิธีเผยแผ่พระพุทธศาสนา” พิธีเถราภิเษก รูปหล่อองค์ครูบาเจ้าศรีวิชัย หน้าตัก 30 นิ้ว จำนวน 3 องค์ และมอบองค์พระครูบาเจ้าศรีวิชัยหน้าตักขนาด 30 นิ้ว 9 นิ้ว 5 นิ้วและเหรียญบูชา พร้อมเอกสารการบูชาพระรัตนตรัย พระคาถาบารมี 30 ทัศ หนังสือพระไตรปิฎก ให้กับคณะธรรมทูตและตัวแทนประเทศในการนำไปประดิษฐาน ณ นานาประเทศทั่วโลก โดยได้รับความเมตตาจาก พระเดชพระคุณ พระธรรมเสนาบดี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร รองเจ้าคณะภาค 7 มอบหมายให้เจ้าพระคุณพระสิทธิวชิรานุกูล ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร เลขารองเจ้าคณะภาค 7 เป็นประธานพิธีสงฆ์ ในการประกอบพิธีเผยแผ่พระพุทธศาสนาผ่านกระบวนการธรรมทูต เพื่อเป็นกิจกรรมร่วมกันหนุนเสริมการเผยแพร่และประกาศเกียรติคุณองค์ครูบาเจ้าศรีวิชัย ให้เป็นบุคคลสำคัญของโลกด้านการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม แห่งสหประชาชาติขององค์การยูเนสโก ตามเงื่อนไขที่กำหนด โอกาสนี้ได้รับเกียรติจากนาง ซี เอ ชามินดา ไอ โคลอนนี่ เอกอัครราชทูตศรีลังกาประจำประเทศไทยและผู้แทนถาวรประจำคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมเอเชียและแปซิฟิกแห่งสหประชาชาติ (UNESCAP) นายกฤษณะ จัยตัญญา กงสุลสาธารณรัฐอินเดียประจำจังหวัดเชียงใหม่, นาย เฉิน ไห่ผิง กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำเชียงใหม่, นาย ฮิกุจิ เคอิจิ (Mr.HIGUCHI Keiichi) กงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ ,กงสุลใหญ่สาธารณรัฐแห่งแห่งสหภาพเมียนมา ณ จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยกงสุลประเทศต่างๆ กว่า 10 ประเทศได้มาร่วมพิธีเผยแผ่พระพุทธศาสนาเพื่อร่วมดำเนินการหนุนเสริมการประกาศเกียรติคุณองค์ครูบาเจ้าศรีวิชัยต่อ ยูเนสโก ในครั้งนี้อีกด้วย
สำหรับบทบาทของแต่ละประเทศที่เข้ามาร่วมผลักดัน ก็จะได้รับชุดประกาศเกียรติคุณครูบาเจ้าศรีวิชัยอันประกอบด้วยองค์รูปหล่อครูบาเจ้าศรีวิชัย ขนาดหน้าตัก 30 นิ้ว 9 นิ้วและ 5 นิ้ว เอกสารการบูชาพระรัตนตรัย พระคาถาบารมี 30 ทัศ หนังสือพระไตรปิฎก และบันทึกภาพการสวดด้วยภาษาบาลีจำนวน 6 ภาษาให้กับคณะตัวแทนแต่ละประเทศเพื่อนำไปประดิษฐาน ณ ประเทศต่างๆ ด้วยกระบวนการธรรมทูต ได้แก่ สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา,สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล,สาธารณรัฐอินเดีย, ทวีปเอเชีย ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน, ญี่ปุ่น, สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา,สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว, สาธารณรัฐกัมพูชา รวมทั้งประเทศอังกฤษ, ประเทศออสเตรเลีย, เยอรมันนี, สหรัฐอเมริกาและกลุ่มประเทศยุโรปอีกหลายประเทศ เพื่อร่วมผลักดันการประกาศเกียรติคุณและหนุนเสริมครูบาเจ้าศรีวิชัยให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก(UNESCO)ตามเงื่อนไขที่กำหนดและมีกำหนดการว่า ในเดือนตุลาคม 2569 จะต้องยกร่างฉบับสมบูรณ์ยื่นเสนอต่อ องค์การ UNESCO เพื่อให้พิจารณาประกาศยกย่องให้เป็นบุคคลสำคัญของโลกให้ทันกำหนดวาระประชุมและจะได้ร่วมจัดพิธีการเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 150 ปี ชาตกาล ครูบาเจ้าศรีวิชัย ในปี 2571 ต่อไปด้วย
ขณะเดียวกันคณะกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนภาคเหนือ (ตอนบน) ได้เข้ากราบนมัสการหารือพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระธรรมเสนาบดี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร รองเจ้าคณะภาค 7 ในการนำชุดเผยแพร่ประกาศเกียรติคุณครูบาเจ้าวิชัย จำนวน 12 ชุดที่มูลนิธิอาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ มูลนิธิข่วงพระเจ้าล้านนา จัดสร้างขึ้นเพื่อนำมามอบถวายแด่ พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม อธิบดีสงฆ์วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ประธานคณะกรรมการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคม ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ ประธานคณะกรรมการอบรมประชาชนกลาง เพื่อเมตตาพิจารณามอบให้วัดไทยจำนวน 12 วัด ในประเทศสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส และประเทศเยอรมนี ตามวโรกาสที่ท่านเจ้าประคุณจะเสด็จไปด้วยประกอบกับคณะกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนภาคเหนือ(ตอนบน)ได้ลงพื้นที่ 10 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดลำพูน จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดพะเยา จังหวัดน่าน จังหวัดลำปาง จังหวัดตาก จังหวัดอุตรดิตถ์และจังหวัดสุโขทัย เพื่อถวายองค์รูปหล่อครูบาเจ้าศรีวิชัย ขนาด 9 นิ้ว ให้เจ้าคณะจังหวัดทั้ง 10 แห่งในการทำหน้าที่เผยแพร่ประกาศเกียรติคุณครูบาเจ้าศรีวิชัยในระดับภูมิภาคควบคู่กับการเผยแพร่ในระดับนานาประเทศ เพื่อที่จะทำให้ภารกิจของชาวพุทธในครั้งนี้ประสบความสำเร็จ
อ.วารินทร์กล่าวเสริมว่า หลังจากมูลนิธิฯได้เข้ามารับหน้าที่ดำเนินการผลักดันด้วยความเต็มใจอย่างมากก็ให้คณะทำงานทุกๆด้าน พร้อมทั้งคณะศิษย์ยานุศิษย์หลวงปู่ ครูบาเจ้าศรีวิชัย จัดทำชุดข้อมูลการเผยแผ่พระพุทธศาสนา รวมทั้งรายละเอียดด้านต่างๆทางวิชาการตามเงื่อนไขของ UNESCO รวมทั้งการประสานหน่วยงานองค์กรต่างๆ ประชาชน พุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่าเพื่อร่วมกันหนุนเสริมในภารกิจครั้งนี้ให้สำเร็จเป็นกุศลบุญร่วมกันโดยพิธีครั้งนี้ก็เป็นความก้าวหน้าที่จะส่งต่อภารกิจการเผยแผ่ไปยังนานาอารยประเทศ ซึ่งก็มีพิธีทำบุญไถ่ชีวิตโค-กระบือมากกว่า 20 ชีวิต ปล่อยปลาและพันธุ์สัตว์น้ำกว่าหนึ่งตัน การมอบทุนให้กับโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่, โรงพยาบาลนครพิงค์และมอบทุนการศึกษาให้กับ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่, มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น มอบทุนสนับสนุนวงดุริยางค์ โรงเรียนป่าซาง จ.ลำพูน มอบกองทุนโลงศพและกองทุนสาธารณะประโยชน์อื่นๆ เป็นพลังบุญหนุนเสริมด้วย
ทั้งนี้ในอดีตนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก (United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization: UNESCO)ได้ประกาศยกย่องสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส เป็นบุคคลผู้มีผลงานดีเด่น ด้านวัฒนธรรมระดับโลก ประจำปี พ.ศ.2533 นับเป็นพระอริยสงฆ์รูปแรกของประเทศไทยที่ได้รับการถวายเกียรตินี้ ส่วนพระอริยสงฆ์รูปที่ 2 คือ ท่านพุทธทาสภิกขุ ในปี พ.ศ. 2548 องค์การยูเนสโก ประกาศยกย่องให้ท่านพุทธทาสภิกขุ เป็นบุคคลสำคัญของโลก ด้านส่งเสริมขันติธรรม สันติธรรม วัฒนธรรม ความสัมพันธ์ และความเข้าใจอันดีของมวลมนุษย์ โดยมีมูลนิธิเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีป ได้ผลักดัน ต่อมา หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้รับการยกย่องจากยูเนสโก เป็นบุคคลสำคัญของโลก ปี 2563-2564 สาขาสันติภาพ ถือเป็นพระสงฆ์รูปที่ 3 ของประเทศไทย จึงเป็นความมุ่งมั่นอย่างยิ่งในการเสนอชื่อครูบาเจ้าศรีวิชัยในครั้งนี้