นายรุจน์ รังสี นายอำเภอบ้านไผ่ พร้อมด้วยนางวราลักษ์ รังสี นายกกิ่งกาชาดอำเภอบ้านไผ่ พร้อม 21 สาวงามผู้ประกวดนางงามบ้านไผ่ 2563 ได้ทำกิจกรรมลงแขกเกี่ยวข้าว ที่แปลงนาตำบลเมืองเพีย อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ผู้เข้าประกวดจะต้องทำเพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวนา เพื่อให้เข้ากับงานประเพณีบุญกุ้มข้าวใหญ่หรือบุญคูณลาน อำเภอบ้านไผ่ ประจำปี 2563 โดยสาวงามแต่หละคนที่เข้าประกวดส่วนใหญ่ยังดูเคอะเขินเพราะไม่เคยทำนาหรือเกี่ยวข้าวมาก่อน แต่มีสาวงามบางคนที่เป็นลูกชาวนา ไม่มีปัญหา เกี่ยวข้าวด้วยความคล่องแคล่ว พร้อมกับร้องเพลงไปอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางบรรดากองเชียร์ที่มายืนให้กำลังใจและส่งเสียงเชียร์อยู่บนคันนา จากนั้นสาวงามผู้เข้าประกวด ได้เดินโชว์ตัวรอบแรกให้คณะกรรมการได้ยลโฉม โดยรอบนี้สาวงามต้องแต่กายด้วยชุดชาวนา ซึ่งคณะกรรมการก็ให้คิดออกแบบได้อย่างสร้างสรรค์ แต่ละคนก็แต่งกายจัดเต็มมีทั้งหมวก ตะกร้า เคียวเกี่ยวข้าวพร้อมทั้งรวงข้าว มาประกอบกับชุดผ้าไหม ผ้าฝ้ายสวยงามถูกใจคณะกรรมการและกองเชียร์ นายรุจน์ รังษี นายอำเภอบ้านไผ่ กล่าวว่า ประเพณีบุญกุ้มข้าวใหญ่อำเภอบ้านไผ่ ซึ่งเป็นประเพณีอยู่ในฮีด 12 ครอง 14 เป็นงานเดือนสอง เดือนยี่ งานบุญกุ้มข้าวใหญ่ เป็นงานที่พี่น้องประชานจัดขึ้นเป็นการบวงสรวงเจ้าแม่โพสพ โดยการนำข้าวมารวมกันบวงสรวงตามความเชื่อเพื่อให้เกิดความสุข ฉะนั้นในการจัดงานปีนี้มีกิจกรรหลาย ๆ อย่างที่จะอนุรักษ์ประเพณีดั้งเดิม เช่น ในปีนี้พี่น้องกำนันผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้าน จะร่วมกันทำลอมข้าวโบราณ ขนาดใหญ่ เชื่อได้ว่าใหญ่ที่สุดในโลก เพราะจะมีความกว้างประมาณ 50 เมตร นอกจากนั้นชาวบ้านจะนำขี้ควายมาเทลานนวดข้าว ซึ่งเป็นประเพณีดั้งเดิมที่หาดูได้ยาก สำหรับการประกวดนางงามบ้านไผ่ เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ชาวบ้านไผ่ได้กระทำมาและอนุรักษ์เป็นทุกปี ในปีนี้จะมีไฮไลท์ต่างจากปีที่ผ่านมา โดยที่นางงามทำการประกวดรอบแรกจะได้ทำกิจกรรมด้วยการลงแขกเกี่้ยวข้าว เพื่อสื่อให้เห็นว่าอาชีพชาวนานั้นมีความสำคัญและอยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน และที่สำคัญยังสื่อให้เห็นถึงความสำคัญของข้าว ที่กว่าจะได้มาแต่ละเมล็ดนั้นมีความลำบากขนาดไหน และยังเป็นการบูชาพระแม่โพสพด้วย งานประเพณีบุญกุ้มข้าวใหญ่อำเภอบ้านไผ่ ประจำปี 2562 จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 18-22มกราคม 2563 มีกิจกรรมภายในงานมากมาย หนึ่งในนั้นคือการประกวด นางงามบ้านไผ่ จะจัดขึ้นในวันที่ 19 มกราคม 2563 ปีที่แล้วรางวัลที่ 1 ได้เงินสด 7 หมื่นบาทพร้อมกระบือ 1 ตัว แต่ปีนี้กระบือหายากและมีราคาแพง จึงเปลี่ยนเป็นชนะเลิศอันดับ 1 จะได้เงินรางวัล 1 แสนบาทพร้อมมงกุฎและสายสะพาย และรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 และอับ 2 รวมมูลค่าแล้วเป็นเงิน 3 แสนกว่าบาท