ครูใต้ไม่ทิ้งกัน เข้าช่วยเหลือครูที่เจ็บป่วย ทุกพลภาพ ให้มีขวัญกำลังใจในการดำรงชีวิต ตอบแทนความดีที่สั่งสอนคนให้เป็นคนดีของสังคม
ครูใต้ไม่ทิ้งกัน เข้าช่วยเหลือครูที่เจ็บป่วย ทุกพลภาพ ให้มีขวัญกำลังใจในการดำรงชีวิต ตอบแทนความดีที่สั่งสอนคนให้เป็นคนดีของสังคม
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 14 ก.ค. 63 นายบุญสม ทองศรีพราย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาจังหวัดปัตตานี ในฐานะ ประธานคณะทำงานโครงการ "ครูช่วยครู" พร้อมด้วยคณะกรรมการ สกสค. ครูผู้สูงวัย และครูจิตอาสา ได้เดินทางมาเยี่ยม ครูที่เจ็บป่วย ทุกพลภาพ ไม่อาจช่วยเหลือตัวเองได้ ตามโครงการ "ครูช่วยครู" โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือครูและบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดปัตตานีที่ป่วยและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จำนวน 36 ราย ซึ่งในวันที่ 14 ก.ค. 63 เป็นการออกเยี่ยมเพื่อเปิดโครงการ จำนวน 7 ราย โดยโดยนายบุญสม ทองศรีพราย ในฐานะประธานคณะทำงานโครงการ "ครูช่วยครู" ได้เข้าเยี่ยมมอบเครื่องอุปโภคแด่ นายธำรงค์ ปลื้มสำราญ อายุ 81 ปี อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลปัตตานี ณ บ้านเลขที่ 36/3 ม.5 ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี สร้างความภาคภูมิใจและสร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้ป่วยและญาติได้เป็นอย่างดี
ด้านภรรยาของนายธำรงค์ ปลื้มสำราญ ซึ่งเป็นผู้ดูแล กล่าวว่า รู้สึกว่าโครงการนี้ดีมากๆ เพราะเป็นการ ให้กำลังใจต่อผู้ป่วยอย่างมาก คนป่วยเวลาใครมาเยี่ยมก็จะมีความสุขมาก ต้องการกำลังใจ โดยเฉพาะกับเพื่อนๆ ครูรุ่นน้องที่จำได้ แกจะจำได้หมด แต่พูดไม่ได้ ดีใจเพราะรู้ว่าพรรคพวกจะมาเยี่ยมเขารู้สึกดีใจมากๆ ก็กราบขอบพระคุณโครงการนี้ด้วยและอยากให้มีต่อเนื่องตลอดไป
จากนั้นคณะทำงานโครงการ "ครูช่วยครู" ได้เข้าเยี่ยมมอบเครื่องอุปโภค เพื่อให้กำลังใจกับกลุ่มเป้าหมาย อีก 6 ราย ที่ได้กำหนดไว้ และจะทยอยเยี่ยมให้กำลังใจจนครบ 40 ราย และจะมีการเยี่ยมเยียนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เห็นว่าครูจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ทอดทิ้งกัน ทั้งนี้เพื่อเป็นการรำลึกบุญคุณที่บุคคลเหล่านี้ ได้สร้างคุณูปการ และสร้างประโยชน์ให้กับการศึกษา ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างยาวนาน
นายบุญสม ทองศรีพราย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาจังหวัดปัตตานี ในฐานะ ประธานคณะทำงานโครงการ "ครูช่วยครู" กล่าวว่า โครงการนี้ เป็นโครงการของสำนักงานส่งเสริมสวัสดิ์ภาพ สวัสดิการครูและบุคลากรทางการศึกษา จังหวัดปัตตานี ร่วมกับ ผู้สูงวัยและจิตอาสา ที่ได้รับการคัดเลือกให้ดำเนินการ โครงการ ครูช่วยครู โดยเฉพาะคุณครูที่ป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ซึ่งมีเป้าหมายทั้งหมด เกือบ 40 ราย ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี โครงการนี้ทำเพื่อเยี่ยมเยียน ให้กำลังใจเพื่อนครู ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ซึ่งเป็นคนที่พวกเราในฐานะที่เป็นพี่น้องเพื่อนครู ด้วยความรักความห่วงใย และโครงการนี้ต้องขอบคุณท่าน นายดิศกุล เกษมสวัสดิ์ เลขาธิการ สกสค. ที่ให้งบประมาณในการจัดการ เพื่อเยี่ยมเยือน ซึ่งที่ผ่านมาก็ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องแต่ วันนี้เป็นกรณีพิเศษที่นำผู้สูงวัยทั้งหมด และข้าราชการครูที่เป็นจิตอาสา มาเยี่ยมซึ่ง ผลจากการเยี่ยมเพื่อให้คนที่มีชีวิตอยู่ แต่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้จะได้มีกำลังใจ พี่จะยืนอยู่บนการใช้ชีวิตอยู่ อยากเป็นปกติ ให้มีกำลังใจ ให้มีพลังใจ ให้เห็นว่าพี่น้องเพื่อนครูไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนเราก็จะไม่ทิ้งกัน ก็ขอขอบคุณ พี่น้องเพื่อครูที่เป็นผู้สูงวัย และจิตอาสาที่มาช่วยให้กำลังใจกับ คนที่ เจ็บป่วย เรามาเยี่ยมในขณะที่เขายังมีชีวิตอยู่ โครงการนี้ก็จะนำสภาพปัญหาต่างๆ ที่เป็นอยู่ ที่เกิดขึ้นจากโครงการนี้เช่น บางร้ายในภาวะอยู่อย่างยากลำบาก หมายถึงฐานะ ที่จะต้องช่วยเหลือตัวเอง โครงการนี้ก็จะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเพื่อนำเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด สำนักพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ตนคิดว่าโครงการนี้จะยั่งยืน และก็จะดำเนินการต่อไปก็เป็นโครงการที่ ช่วยแก้ปัญหาช่วย ประสานความรู้สึก ประสานปัจจัย ประสานความร่วมมือต่างๆ หาปัจจัยการดูแลต่าง ๆ และจะมีการนำแพทย์ พยาบาลเข้ามาดูแล มาแนะนำกับผู้บริบาลที่ดูแลคนป่วย ไม่ให้เขาว้าเหว่ และจัดตั้งเป็นศูนย์ประสานงานช่วยเหลือครูบุคลากรทางการศึกษา ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ โดยใช้สำนักงาน สกสค. จังหวัดปัตตานี เป็นหน่วยงานประสานต่อไป มีเรื่องอะไรที่คิดว่าทางคณะกรรมการศูนย์จะช่วยได้ ก็จะช่วยทันที ทั้งหมดทั้งมวลคือความสุดยอดของ โครงการครูช่วยครู โดยที่เราไม่ทิ้งกัน ไม่ว่าในยามที่ปกติ หรือไม่สบาย อยากให้มีโครงการนี้อย่างยั่งยืน ฝากถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ว่าช่วยสนับสนุนโครงการนี้ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งโครงการนี้ไม่ได้ใช้งบประมาณมากมาย แต่อาศัยใจ อาศัยอุดมการณ์ ความรู้สึกที่ดีต่อกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เราจำเป็นจะต้องอยู่ ซึ่งวันนี้เราก็มาเยี่ยม มีเป้าหมาย 7 ราย และพรุ่งนี้อีก 4 ราย ซึ่งมีเป้าหมายทั้งหมด 40 ราย และจะแยกกลุ่มผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ กลุ่มหนึ่ง อีกกลุ่มหนึ่ง ก็คือ กลุ่ม ที่ทุพพลภาพ ที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ครูไม่ทิ้งครู ซึ่งก็เป็นโครงการที่เราจะต้อง เอาใจมาช่วย ในวันนี้ทุกคนไม่มีผลประโยชน์ แต่ก็มาด้วยใจ ซึ่งจากการดูสีหน้าสีตาของผู้ป่วย พบว่า ดีใจ รู้สึกปลื้มใจมากที่มีคนมาเยี่ยม ตนจึงขอให้ทาง สกสค. ผลักดันในเรื่องนี้ อย่างต่อเนื่อง และผลักดันไปสู่รัฐบาล ผลักดันไปสู่กระทรวงศึกษาธิการ ให้ช่วยดูแลคนเหล่านี้เป็นพิเศษ