ครูใต้ ยื่นหนังสือคัดค้าน กฎหมายการศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่ ผ่าน สส. สว. จังหวัดชายแดนใต้
ครูใต้สุดทน ยื่นหนังสือคัดค้าน กฎหมายการศึกษาแห่งชาติ ผ่าน สส. สว. จังหวัดชายแดนใต้
ที่ห้องประชุมโรงแรมเซาท์เทิร์นวิว อ.เมือง จ.ปัตตานี นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครูจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมคณะกรรมการ ได้ร่วมประชุมร่วมกันกับทางสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และ สมาชิกวุฒิสภา ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบไปด้วย แพทย์หญิงเพชรดาว โต๊ะมีนา สส.พรรคภูมิใจไทย นายสมมุติ เบญจลักษณ์ สส.พรรคประชาชาติ นาย อับดุลฮาลิม มินซาร์ สมาชิกวุฒิสภา และนายขวัญชาติ วงศ์ศุภรานันต์ สมาชิกวุฒิสภา เพื่อคัดค้านการแก้ไข้พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ฉบับใหม่ ที่คณะกรรมการกฤษฎีกาได้พิจารณาเสร็จสิ้น พร้อมกับนำส่งกฎหมายดังกล่าว เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณานั้น ทางสมาพันธ์ครูจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้พิจารณาและมองเห็นว่า หากพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่ มีการประกาศใช้ จะทำให้ลดมาตรฐานทางวิชาชีพครู และลดมาตรฐานการศึกษาของประเทศ โดยเฉพาะการยกเลิกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู การยกเลิก สภาวิชาชีพครู รวมถึงได้กำหนดให้แทนตำแหน่ง หัวหน้าสถานศึกษา แทน ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียน ซึ่งเรื่องนี้ ได้ทำลายขวัญและกำลังใจของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาทุกระดับ ทำให้ครูทั่วประเทศ ร่วมถึงครูในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รับไม่ได้ต่อกฎหมายฉบับนี้ จึงได้เรียกร้องให้มีการแก้ไข้ และทบทวนหลักการและสารบัญญัติของกฎหมายการศึกษาแห่งชาติ โดยได้ทำหนังสื่อยื่นต่อผ่านทางสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เสนอให้กับทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี และ คณะรัฐมนตรี ได้พิจารณาแก้ไขใน 3 ประเด็น คือ
1. การลดคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของปวงชนชาวไทย โดยกฎหมายการศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่ ให้ยกเลิกมาตรฐานและคุณภาพของครู ยกเลิกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ยกเลิกสภาวิชาชีพครู “คุรุสภา” ที่มีหน้าที่และอำนาจในการออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ควบคุมมาตรฐาน จรรยาบรรณวิชาชีพ อันเป็นหลักการสำคัญของการจัดการศึกษาสากลที่มุ่งเน้นให้ครู ผู้บริหารต้องมีมาตรฐาน จรรยาบรรณวิชาชีพ และเป็นวิชาชีพควบคุม เพื่อเป็นหลักประกันให้ผู้ปกครองและประชาชนมีความมั่นใจในคุณภาพของผู้เรียนโดยตรง
2. การลดอำนาจการจัดการศึกษาของภาคประชาชน กฎหมายการศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่ กำหนดให้อำนาจการบริหารการศึกษาเป็นอำนาจแบบรวมศูนย์ ซึ่งขัดกับหลักการกระจายอำนาจ การมีส่วนร่วม และการตรวจสอบที่โปร่งใส อำนาจการบริหารแบบรวมศูนย์อยู่ที่รัฐมนตรี และปลัดกระทรวงศึกษาธิการเป็นด้านหลัก จึงขาดความหลากหลายและไม่สามารถสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนได้
และ 3. กฎหมายการศึกษาแห่งชาติ ฉบับใหม่ ได้ทำลายขวัญและกำลังใจของผู้ประกอบวิชาชีพ ทางด้านการศึกษาทุกระดับและทุกประเภท โดยมีการกำหนดหลักการและสารบัญญัติให้มีตำแหน่ง “หัวหน้าสถานศึกษา” แทน “ผู้อำนวยการ” และให้ใช้ใบรับรอง แทน ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพ มาตรฐานของครู ผู้บริหาร และบุคลากรทางการศึกษาทั้งระบบ ตำแหน่งและใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ จึงต้องคงไว้ในกฎหมายแม่บทนี้
ด้าน นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครูจังหวัดชายแดนใต้ เปิดเผยว่า ในวันนี้ ได้มีการเรียกประชุมพร้อมทั้งยื่นหนังสือให้กับทาง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และ สมาชิกวุฒิสภา ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อขับเคลื่อนเรียกร้อง การแก้ไข้พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ฉบับใหม่ ที่ผ่านการพิจารณาจากกรรมการกฤษฎีกาไปแล้ว ซึ่งความรู้สึกของผู้ที่เป็นครู รู้สึกว่า พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ฉบับนี้ สร้างความไม่พอใจกับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นครูค่อนข้างมาก เนื่องจากว่า ความรู้สึกของครู ที่ถือว่าเป็นวิชาชีพชั้นสูงที่เคยมี กำลังจะถูกเปลี่ยนไป ซึ่งเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ เพราะการเปลี่ยนแปลง จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ไม่ใช้เปลี่ยนแล้วให้ดูลดคุณค่าลง หรือบันทอนความรู้สึกของคนทำงาน โดยเฉพาะการยกเลิกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูชั้นสูง ให้เป็นใบรับรองต่าง ๆ จะส่งปลกระทบต่ออนาคตของครูที่มืดมน ไม่ว่า จะเป็นของเรื่องเงินเดือน ของความก้าวหน้า และกฎหมายที่เกี่ยวข้องหลาย ๆฉบับ จะเสียหายอย่างไร ถ้าครูจะมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูชั้นสูง รัฐบาลไหนก็ตาม ไม่มีใครที่ไม่มีครูเป็นคนสอน เป็นนายก เป็นรัฐมนตรีได้ เพราะมีครูเป็นผู้สอน และจะยกย่องครูให้เป็นวิชาชีพชั้นสูง จะเสียหายอย่างไร และ อีกประการหนึ่ง วันนี้กำลังจะเดินเข้าสู่ยุคที่ ไม่มีตัวแทนครูเข้าไปอยู่ในองค์การต่าง ๆ เลย ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลก ทั้ง ๆ ที่ประเทศไทยเป็นประเทศประชาธิปไตย แต่พอกับเรื่องทางการศึกษาแล้ว ประชาธิปไตยไม่ค่อยเกิด โครงสร้างมักจะกระจุดอยู่แต่ด้านบน แทนที่จะกระจายมายังพื้นที่ มายังทุกส่วนของการศึกษา ทำไม่ไม่กระจายอำนาจเป็นนิติบุคคลเหมือนที่เคยพูด ซึ่งครูอยากได้จุดตรงนี้ และในทุกองค์การที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาควรจะมีผู้แทนครูเข้าไปมีส่วนร่วมในการผลักดันในเรื่องต่าง ๆ ด้วย มองว่าครูไม่ใช้วิชาชีพชั้นสูงใช้หรือไม่ ถึงได้ตัดครูออกไป และอีกประการหนึ่ง ตำแหน่งทางการบริหาร ซึ่งแต่เดิมเป็นครูใหญ่ เปลี่ยนมาเป็น ผู้อำนวยการโรงเรียน และกำลังจะเปลี่ยนเป็น หัวหน้าสถานศึกษา อันนี้ คืออะไร ให้นักเรียนได้นับถือครูบ้าง ให้ผู้ปกครองได้นับถือครูบ้าง จะให้ดูต่ำต้อยไปถึงไหน เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนผิดตรงไหน ครูจะยื่นอยู่ในสังคมอย่างสง่าราศี ก็ต่อเมือ เด็กและผู้ปกครอง ให้การยอมรับ มีความศรัทธาในตัวครู ผมเชื่อว่า ถ้าครูไม่ช่วยกันคัดค้าน ไม่ช่วยกันเสริมแต่งให้มันดีขึ้น เชื่อว่า อนาคตทางการศึกษาน่าเป็นห่วง ตนในฐานะประธานสมาพันธ์ครูจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นห่วง เพราะมันจะกระทบต่อวิทยฐานะ ต่อสวัสดิการของครูใต้ด้วย เพราะเราเป็นส่วนหนึ่งของครูทั้งประเทศ ในยามที่ครูใต้เดือดร้อน ถูกยิงเสียชีวิตถึง 182 คน ครูทั้งประเทศก็ห่วงใยพวกเรา แต่เมื่อเพื่อนครูทั้งประเทศมีความเดือดร้อน จะให้ครูจังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่เฉยได้อย่างไร ให้จำไว้ว่า การศึกษาคือเสาหลักของการพัฒนาประเทศ ยามใดการศึกษาขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ ประเทศชาติก็จะเจริญ แต่ถ้ายามใด การศึกษาชะงักลง หายนะกำลังจะกลับคืนสู่ประเทศ