“จุรินทร์” ติดตามสถานการณ์ปาล์มกระบี่ คุมลอบนำเข้า จับมือเกษตรช่วยเกษตรกรลดต้นทุน

วันที่11 มิถุนายน 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดกระบี่ พบปะพี่น้องเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมัน และตรวจเยี่ยมโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ เร่งแก้ปัญหาปุ๋ยแพง และร่วมมือกระทรวงเกษตรฯ เปิดบริการปุ๋ยราคาพิเศษ ชูโครงการประกันรายได้ช่วยเหลือเกษตรกรอีกทาง

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาแทนที่ราคาปาล์มน้ำมันจะขึ้นลงโดยกลไกตลาดภายในประเทศ กลับถูกบิดเบือนด้วยการลักลอบนำเข้าที่ไม่ตรงความเป็นจริง ทำให้ปาล์มน้ำมันล้นตลาด เรื่องนี้ได้หารือกรมการค้าภายในออกระเบียบไม่ให้มีการนำเข้าปาล์มน้ำมันทางบก ให้นำเข้าทางเรือเท่านั้น จะช่วยแก้ปัญหาการลักลอบปาล์มน้ำมันเข้ามากดราคาในประเทศ นอกจากนี้มีการส่งเสริมการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ เพื่อดึงราคาในประเทศ โดยอุดหนุนกิโลกรัมละ 2 บาท และโครงการประกันรายได้เกษตรกรที่กิโลกรัมละ 4 บาท เป็นอีกมาตรการหนึ่งในการช่วยเหลือเกษตรกร หากราคาลดลงมาต่ำกว่า 4 บาท ภาครัฐจะจ่ายเงินส่วนต่างเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง อีกปัญหาหนึ่งคือปุ๋ยราคาแพง ซึ่งประเทศไทยนำเข้าจากจีนซี่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ และจีนได้เปิดโอกาสให้ประเทศอินเดียประมูลปุ๋ยเข้าประเทศล๊อตใหญ่ ประกอบกับจีนกำลังเข้าสู่ฤดูกาลหว่านใหม่ จีนจึงต้องเก็บสต๊อกไว้ใช้ในประเทศ ส่งออกน้อยลง ราคาปุ๋ยในตลาดโลกจึงสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น เรื่องนี้ตนได้สั่งการกรมการค้าภายในให้ร่วมกับกระทรวงเกษตรฯ เปิดบริการปุ๋ยราคาพิเศษ โดยขอความร่วมมือจากผู้ผลิตรายใหญ่
ด้านนายอนุชา ยาอีด เกษตรจังหวัดกระบี่ และนางสาววัชรี ด้วงแก้ว นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการพิเศษ สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 จังหวัดสงขลา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ในสังกัด ได้ร่วมต้อนรับและให้ข้อมูลร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยนายอนุชา เปิดเผยภายหลังว่า ตามแนวทางการดำเนินงานของรองนายกรัฐมนตรี ในวันนี้ มีส่วนเกี่ยวข้องที่ร่วมมือกับกรมส่งเสริมการเกษตรหลายประการในฐานะที่เป็นหน่วยงานหลักที่ใกล้ชิดพี่น้องเกษตรกรมากที่สุด ดังเช่น กรณีปัญหาปุ๋ยราคาแพง กรมส่งเสริมการเกษตรได้สร้างการรับรู้และเร่งดำเนินงานโครงการพัฒนาธุรกิจบริการดินและปุ๋ยเพื่อชุมชน (One Stop Service) ภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งดำเนินงานผ่าน
ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน (ศดปช.) เป็นการให้บริการตรวจวิเคราะห์ดินด้วยชุดตรวจสอบ N P K และ pH ในดินแบบรวดเร็ว บริการวิชาการด้านดินและปุ๋ย ให้คำแนะนำการจัดการดินและการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน เป็นการใช้ปุ๋ย
ที่ถูกต้องในปริมาณที่เหมาะสมกับปริมาณธาตุอาหารที่มีอยู่ในดินและความต้องการของพืช ไม่มากไม่น้อยเกินไป
ทำให้เกษตรกรลดการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้ ในส่วนภาคใต้ ดำเนินการ 10 จังหวัด 58 ศดปช. ขณะนี้ได้อบรมเกษตรกรเสร็จสิ้นแล้ว และส่งมอบชุดตรวจวิเคราะห์ดิน แม่ปุ๋ย เครื่องผสมปุ๋ย และได้บริการตรวจวิเคราะห์ดิน โดยภาพรวม ประมาณร้อยละ 90 ในส่วนจังหวัดกระบี่มีพื้นที่ปลูกปาล์มจำนวน 797,430 ไร่ เป็นอันดับ 3 ของภาคใต้รองจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีและจังหวัดชุมพร มีเกษตรกรมาขึ้นทะเบียนปลูกปาล์มน้ำมัน จำนวน 41,186 ครัวเรือน เกษตรกรเข้าร่วมแปลงใหญ่ทั้งหมด 93 แปลง และมีแปลงใหญ่ปาล์มน้ำมันมากที่สุดในภาคใต้ จำนวน 40 แปลง เกษตรกร 3,363 ราย พื้นที่ 68,387 ไร่ และเข้าร่วมโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่เชื่อมโยงตลาด จำนวน 12 แปลง รองลงมาเป็นแปลงใหญ่ยางพารา จำนวน 21 แปลง และแปลงใหญ่ทุเรียน จำนวน 7 แปลง
แต่ละปีมีการใช้ปุ๋ยเคมีจำนวนมาก สำหรับโครงการประกันรายได้เกษตรกรช่วงนี้ราคายังค่อนข้างดี อยู่ที่กิโลกรัมละ 6.00-6.50 บาท จึงไม่ได้ชดเชยส่วนต่างราคา อย่างไรก็ตามท่านอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรได้กำชับให้สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่งเร่งขึ้นและปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกรให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ หากมีการชดเชยราคาจะส่งข้อมูลให้ ธกส. โอนเงินส่วนต่างเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง

นอกจากนี้ สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 จังหวัดสงขลา ได้ส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรแปลงใหญ่ปาล์มน้ำมัน 14 จังหวัดภาคใต้ ส่งตัวอย่างดิน และใบปาล์มน้ำมันไปวิเคราะห์ธาตุอาหาร เพื่อลดต้นทุนการใช้ปุ๋ย และมีการจัดการสวนปาล์มน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลผลิตเพิ่มขึ้น ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตร ได้จัดทำบันทึกความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นหนึ่งช่องทางในการเข้าถึงงานวิจัยด้านการเกษตร และนำงานวิจัยต่าง ๆ ที่สำเร็จและพร้อมใช้มาแก้ปัญหาให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งคณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีศูนย์ปฏิบัติการวิเคราะห์กลาง สำหรับตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างดินและตัวอย่างพืช เพื่อประเมินความต้องการธาตุอาหารของพืช พร้อมทั้งให้คำแนะนำในการปรับปรุงบำรุงดิน และการใช้ปุ๋ย อยู่แล้วโดยจะลดค่าบริการพิเศษให้แก่เกษตรกรแปลงใหญ่ปาล์มน้ำมัน จากราคาปกติ
40 เปอร์เซ็นต์ (การวิเคราะห์ทางใบปาล์มน้ำมันและคำแนะนำ ปกติราคา 1,500 บาท เหลือ 1,020 บาท การวิเคราะห์ดินและคำแนะนำปกติราคา 1,500 บาท เหลือ 1,070 บาท) หากเกษตรกรสนใจ หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอ สำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้านท่าน